Skip to content
Home » [NEW] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | จุดมุ่งหมายในการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | จุดมุ่งหมายในการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

จุดมุ่งหมายในการทํางาน ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

 

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞

แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ เป็นวิธีการสร้างความประทับใจที่ง่ายที่สุด และทำให้คนจดจำเราได้ตั้งแต่แรกพบ เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีแพทเทิร์นในการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษของตัวเองได้ก็จะยิ่งดีมาก ๆ 

 

และถ้ายิ่งได้ฝึกพูดแนะนำตัวภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งพูดคล่อง และมั่นใจค่ะ เมื่อเจอกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ ก็จะพูดได้เลย โดยที่ไม่ต้องคิดนาน

 

ถ้าหากฝึกซ้อมแนะนำตัวแล้ว อย่าลืมซ้อมตอบคำถาม และปรับบุคลิกภาพด้วย คลิก

 

20 ประโยคจำไว้ถาม-ตอบเวลาพรีเซนต์

How to พรีเซนต์งานภาษาอังกฤษ ให้โดนใจคนฟัง!

 

การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ การแนะนำตัวแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สัมภาษณ์งาน, Presentation หรือการไปเที่ยวแล้วพบเจอคนใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

ซึ่งนอกจาก Globish จะมาแนะนำวิธีการและประโยคแล้ว ยังมีตัวอย่างการแนะนำตัวภาษาอังกฤษให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยอีกด้วยค่ะ

 

แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหา อยากให้ทุกท่านลองลิสต์คำตอบของคำถามเหล่านี้ดูก่อนค่ะ 

 

1) What is your name? 

ตัวอย่างคำตอบ

Pim, Jane, Sam etc.

 

2) Where are you from? 

ตัวอย่างคำตอบ

Bangkok, Thailand etc.

 

3) How are you related to the person who has introduced you? 

ตัวอย่างคำตอบ

Husband, wife, friend etc.

 

4) Why are you in that situation? 

ตัวอย่างคำตอบ

Party, Family introductions, Wedding etc.

 

5) What makes you interesting? 

ตัวอย่างคำตอบ

You’re good at singing, painting, playing the piano etc.

 

เมื่อคุณสามารถตอบคำถามครบแล้ว ก็จะเริ่มรู้แนวแล้วว่า คุณควรจะพรีเซนต์ตัวเองไปในทิศทางไหน และควรพูดเรื่องอะไรดี

 

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพูดแนะนำตัวเรื่องอะไรดีหรือยังไม่มีเรื่องในใจ Globish ได้เตรียมหัวข้อมาให้ทุกท่านเลือกเช่นกันค่ะ ได้แก่

 

Personality นิสัย

Likes สิ่งที่ชอบ

Dislikes สิ่งที่ไม่ชอบ

Hobbies งานอดิเรก

Skills ทักษะ

Talents พรสวรรค์

Qualifications คุณสมบัติ

Interests ความสนใจ

Awards รางวัลหรือความสำเร็จ

Ideas ความคิด

Opinions ความคิดเห็น

 

ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องพูดในทุกหัวข้อเมื่อแนะนำตัวภาษาอังกฤษก็ได้ แต่เลือกเฉพาะสิ่งที่เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น ถ้าหากต้องแนะนำตัวสัมภาษณ์งาน อาจจะพูดถึง Personality, Hobbies, Qualifications, Skills, หรือ Awards ค่ะ

 

เชื่อว่าทุกท่านน่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการกันเลยค่ะ

1. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Informal (ไม่เป็นทางการ)

 

การแนะนำตัวแบบนี้ เหมาะมาก ๆ กับสถานการณ์อย่าง ไปเจอครอบครัวของเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนในงานต่าง ๆ หรือเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ 

 

  ■ สถานการณ์: แนะนำตัวในงานเลี้ยงของเพื่อน

 

เริ่มจากการทักทาย…

 

Hi everybody.

สวัสดีค่ะ/ครับทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

แนะนำตัวเอง…

 

I’m Sam, Jane’s friend. It’s a pleasure to meet you.

ฉันชื่อแซมนะ เป็นเพื่อนของเจน ยินดีที่ได้พบคุณมาก ๆ เลย

 

You can call me Sam. It’s nice to meet you.

คุณเรียกฉันว่าแซมก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

พูดถึงงานปาร์ตี้หรือคนที่คุณทั้งสองคนรู้จักร่วมกัน

 

This is a fantastic party, very well-organised.

ปาร์ตี้นี้สุดยอดมากเลยนะครับ จัดได้ดีมาก ๆ

 

The food in this restaurant is so good, I’m on my third round!

อาหารในร้านนี้อร่อยมาก ๆ เลย นี่ผมตักอาหารรอบที่ 3 แล้ว

 

I work with Jane (the hostess) at Globish. We first met when we studied at Thammasart university together, so we’ve known each other for 10 years.

ฉันทำงานกับเจนที่โกลบิช แต่เราเจอกันครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนธรรมศาสตร์ ตอนนี้ก็รู้จักกันมา 10 ปีแล้ว

 

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

So, tell me a bit about yourself. How do you know Jane?

เล่าเรื่องของคุณซักหน่อยได้ไหม คุณรู้จักเจนได้ยังไง

 

By the way, please tell me about yourself. How did you and Jane meet?

ว่าแต่… คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณได้ไหม แบบคุณกับเจนเจอกันได้ยังไง

 

 


■ สถานการณ์: แนะนำตัวในทีทำงาน (เพิ่งเริ่มทำงานวันแรก)

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everybody.

สวัสดีทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

แนะนำตัวเองและตำแหน่งงาน…

 

Nice to meet you. My name is Laticia. I’m the new graphic designer. 

ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อลาทีเซีย เป็นกราฟิกดีไซน์คนใหม่ค่ะ

 

My name is Jack, your new marketing manager. 

ผมชื่อแจ็ค เป็นผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้ง

 

I’m Javier, an engineer in the IT department.

ฉันชื่อจาเวียร์ เป็นวิศวะแผนกไอทีค่ะ

 

Hi, I am Jeff from the Marketing Team.

สวัสดี ฉันชื่อเจฟจากทีมมาร์เก็ตติ้ง

   

I’m Mike, the new engineer. Nice to meet you.

ผมชื่อไมค์ เป็นวิศวะกรคนใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

พูดถึงประวัติการทำงาน…

 

Previously, I worked as marketing manager in Noc Company. So, I have 10 years of experience.

ก่อนหน้านี้ ผมเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้งที่บริษัทน็อค ผมเลยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากว่า 10 ปี 

สร้างความประทับใจ…

 

I believe I can lead this team to even more success, but I can’t produce great results alone. That’s why I need your utmost cooperation. Together, we can achieve great things.

ผมเชื่อว่าผมสามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จ แต่คงทำคนเดียวไม่ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการความร่วมมือจากพวกคุณ หากร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้แน่นอน

 

I worked at ABC Company for one year before joining this company. Outside of work, I enjoy doing yoga and reading novels at the beach. If you have any interesting books, feel free to recommend them to me.

ฉันทำงานที่บริษัท ABC มา 1 ปี ก่อนที่จะย้ายมาทำงานที่นี่ นอกเหนือจากการทำงาน ฉันชอบเล่นโยคะและนั่งอ่านหนังสือริมชายหาด ถ้าคุณมีหนังสือที่น่าสนใจ แนะนำฉันมาได้เลย

 

I graduated with my degree in Economics two months ago.

Although I don’t have real-life work-experience, I’m ready to learn new things from all of you.

ผมจบเศรษฐศาสตร์มาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แม้ว่าผมยังไม่มีประสบการณ์จริง แต่ผมพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคุณทุกคน

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

I’m excited to work with all of you.

ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับพวกคุณทุกคน

 

We’ll be working together in the future and I’m excited to be a part of the team

เราจะได้ร่วมงานกันในอนาคตแน่นอน และฉันตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม

 

I’m looking forward to working with you in the future. See you around.

ฉันตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับคุณในอนาคต แล้วพบกันนะคะ

 

 

 

2. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Formal (เป็นทางการ)

 

ข้อแตกต่างระหว่างการแนะนำแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คือ ภาษาที่ใช้ค่ะ แบบเป็นทางการจะใช้ภาษาที่ค่อนข้างสุภาพมากกว่า เหมาะกับสถานการณ์แบบ สัมภาษณ์งาน หรือใช้เกริ่นก่อนนำเสนองานให้คนที่ไม่รู้จัก และเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นในบริษัทฟัง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวเมื่อไปสัมภาษณ์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

แนะนำตัวเองพร้อมประวัติการเรียนหรือการทำงาน…

 

My name is Kevin Smith. Glad to meet you. I’m 21 years old and I’m a fresh graduate from XYZ University with Business management.

ผมชื่อเควิน สมิธ ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ ผมอายุ 21 ปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการจัดการธุรกิจครับ

 

First of all, it’s my pleasure to speak with you today. My name is Paul Smith. I’m 23 years old and I have just completed my graduation from XYZ University with Human Resource Management as the subject.

ก่อนอื่นเลย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พูดคุยกับคุณวันนี้ครับ ผมชื่อพอล สมิธ อายุ 23 ปี เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลครับ

 

Good morning, I’m Janejira Rakdee. Pleased to meet you. I’m from Bangkok. I completed my Bachelor of Engineering degree in 2009 from Abac university.

สวัสดีตอนเช้าค่ะ ดิฉันชื่อเจนจิรา รักดี ยินดีที่ได้พบคุณค่ะ ฉันมาจากกรุงเทพฯ จบการศึกษาจากคณะวิศวะกรรมศาสตร์ตอนปี 2009 จากมหาวิทยาลัยเอแบคค่ะ

 

Good afternoon, I’m Sam Brandon. I have been working as a Sales Professional for 5 years now. I joined as a Sales executive and worked my way up to the position of Sales Manager within 3 years.

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมชื่อแซม แบรนดอน ผมทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายมา 5 ปีแล้ว นอกจากนี้ ผมเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขายไปจนถึงผู้จัดการฝ่ายขายภายใน 3 ปี

พูดถึงสกิลที่ถนัด ความสามารถ หรือประสบการณ์ที่โดดเด่น…

 

One of my accomplishments during my university life was being a speaker at a Science seminar. I have completed my internship in ABC Motor company. During my internship, I gained a lot of useful skills that weren’t included in the academic curriculum such as negotiation and time management skills.

หนึ่งในความสำเร็จช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยของดิฉันคือ การได้เป็นผู้บรรยายในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ อีกทั้งดิฉันยังได้ฝึกงานในบริษัทยานยนตร์ ABC ระหว่างการฝึกงาน ฉันได้เรียนรู้สกิลที่มีประโยชน์ และไม่มีสอนในรั้วมหาลัย เช่น สกิลการต่อรองและการจัดการเวลา

 

I’ve been hard-working and have taken my subjects quite seriously. Now, as I am graduated, I want to implement my knowledge in my work. That is the reason I applied for this job. 

ผมค่อนข้างทุ่มเทและจริงจังกับการเรียนมาตลอด และตอนนี้ ในฐานะที่เป็นเด็กจบใหม่ ผมอยากเอาความรู้ที่ได้เรียนมาปรับใช้กับการทำงาน นี่คือเหตุผลที่ผมสมัครงานในตำแหน่งนี้ครับ

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

Now, I am all set to start my career, and hoping to get selected into your esteemed company which will help me explore my other abilities, and improve myself.

และตอนนี้ ดิฉันพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การทำงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับเลือกให้ทำงานในบริษัทสามารถช่วยดิฉันค้นหาความสามารถอื่น ๆ ของตัวเองและพัฒนาตัวเองไปได้อีกค่ะ

 

Although I don’t have real-life work-experience, I have learned a lot about business through subjects during my graduation. So, I would assure you to be a valuable asset to your esteemed company by implementing all of my knowledge mixed up with hard work.

แม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจริง แต่ผมได้เรียนรู้ด้านธุรกิจผ่านวิชาเรียนที่หลากหลายในรั้วมหาวิทยาลัย ผมจึงอยากให้คุณมั่นใจเลยว่า ผมจะเป็นพนักงานที่มีคุณค่าต่อบริษัท โดยการนำความรู้ทั้งหมดที่ผมมีมาปรับใช้ไปพร้อม ๆ กับความมุมานะในการทำงาน

 

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวก่อนพรีเซนต์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everyone. Thanks for coming.

สวัสดีค่ะ/ครับ ทุกคน ขอบคุณที่มาในวันนี้

 

Hello, everyone. I’d like, first of all, to thank the organizers of this meeting for inviting me here today.

สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลย ผมขอขอบคุณผู้จัดงานที่เชิญผมมาในวันนี้

 

Good morning everyone and welcome to the meeting. First of all, let me thank you all for coming here today. 

สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกคน ขอต้อนรับสู่การประชุมค่ะ ก่อนอื่นเลย ขอขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ค่ะ

แนะนำตัวเองและตำแหน่ง…

 

I’m John, who heads the marketing team.

ผมชื่อจอห์น เป็นหัวหน้าทีมมาร์เก็ตติ้งครับ

 

Let me introduce myself. I’m Jan from the marketing team.

ขอแนะนำตัวสักหน่อยนะคะ ดิฉันชื่อแจน มาจากทีมมาร์เก็ตติ้งค่ะ

 

For those of you who don’t know me, my name’s Jane from the operation management team.

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักดิฉันนะคะ ดิฉันชื่อเจน มาจากทีมการจัดการการผลิตค่ะ

บอกหัวข้อหลักของการพรีเซนต์…

 

What I’d like to present to you today is our annual sales report.

สิ่งทีผมต้องการจะนำเสนอในวันนี้คือรายงานยอดขายประจำปี

 

As you can see on the screen, our topic today is our annual sales report.

อย่างที่คุณเห็นบนหน้าจอ หัวข้อในวันนี้คือการรายงานยอดขายประจำปี

 

In my presentation I would like to report on our annual sales report.

ในการนำเสนอ ดิฉันจะชี้แจงเรื่องรายงานยอดขายประจำปี

 

I’m here today to present our annual sales report.

วันนี้ฉันจะมานำเสนอเรื่องการรายงานยอดขายประจำปี

บอกจุดมุ่งหมายของการพรีเซนต์…

 

The purpose of this presentation is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์ของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

 

My main objective for today is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์หลังของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

บอกหัวข้อย่อยที่จะพรีเซนต์…

 

I’ve divided my presentation into three main parts.

ผมได้แบ่งการนำเสนอนี้ออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

In my presentation I’ll focus on three major issues.

ในการนำเสนอ ผมจะมุ่งไปที่ 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

I thought it would be useful to divide our talk into three main sections.

ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์มาก ถ้าแบ่งการนำเสนอออกเป็น 3 ส่วน

บอกลำดับเรื่องที่จะพรีเซนต์…

 

First of all, I’d like to give you an overview of

our monthly sales report.

Next, I’ll focus on

our annual sales report.

Lastly, I’ll deal with

our company goals for next year.

อันดับแรก ดิฉันขอเริ่มด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ดิฉันจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และสุดท้าย จะจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าค่ะ

 

So, I’ll begin by bringing you up-to-date on

our monthly sales report.

And then, I’ll go on to

our annual sales report.

I’ll end with

our company goals for next year.

ผมจะเริ่มต้นด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ผมจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าครับ

บอกระยะเวลาของการพรีเซนต์…

 

This should only last 20 minutes.

การนำเสนองานจะใช้เวลา 20 นาที

 

My presentation will take about an hour.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

It will take about 1 hour and a half to cover these issues.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อพูดถึงหัวข้อทั้งหมด

 

 

บอกเรื่องเอกสารประกอบการบรรยาย…

 

I’ll be handing out copies of the slides at the end of my talk.

ผมจะแจกเอกสารหลังจากจบการพรีเซนต์นะครับ

 

I can email the PowerPoint presentation to anybody who wants it.

ดิฉันจะส่งอีเมลแนบเพาเวอร์พ้อยท์ที่พรีเวนต์วันนี้ให้ผู้ที่ต้องการนะคะ

ปิดท้ายด้วยการให้ผู้ฟังถามคำถามหลังการพรีเซนต์…

 

There will be time for questions after my presentation.

เดี๋ยวจะมีช่วงให้ถามคำถามในตอนท้ายของการนำเสนอนะคะ

 

 

  

ทั้งหมดนี้คือการแนะนำตัวภาษาอังกฤษทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการค่ะ ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากบัสถานการณ์ของตัวเองได้นะคะ

ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นฝึกฝน และซ้อมบ่อย ๆ เพราะจะช่วยเรื่องการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นตัวของตัวเองค่ะ

 

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ Indeed

เว็ปไซต์ HQ hire

เว็ปไซต์ Interview Questions

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิก

[Update] น่ารู้ 108 คำศัพท์ภาษาอังกฤษในการสมัครงาน ที่จำเป็นต้องได้ใช้แน่ๆ มีคำว่าอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านกันค่ะ | จุดมุ่งหมายในการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ก็ขอสวัสดีทักทายคุณผู้อ่านบนโลกออนไลน์ และเหล่าเพื่อนๆผู้รักการทัศนาจร อรชร อ้อนแอ้น สุดสะแนน แสนโสภา ช่ะช่ะช่าหัวใจ งามวิไลเริ่ดสะแมนแตนกันทุกๆคนค่ะ กลับมาพบปะทักทายซำบายดีกันอีกเช่นเคยนะคะกับบทความบล็อกสาระน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ  และหากเพื่อนๆน้องๆนักเรียน นักศึกษาคนใหนที่พึ่งเรียนจบใหม่ และกำลังจะสมัครงาน แน่นอนว่าภาษาอังกฤษก็สำคัญไม่น้อย 

เนื่องจากว่าบางบริษัทหรือสถานที่งานบางแห่งนั้น ใบสมัครงานเป็นภาษาอังกฤษล้วนๆเลย บางคนอาจจะไม่รู้ว่าคำศัพท์ที่ใช้ในการสมัครงานนั้น มีคำว่าอะไรบ้าง จะได้ศึกษาและเตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆได้ถูก วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเป็นคนบ้า เลยขอเลิกจากงานประจำ มาแนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสมัครงานที่จำเป็น มาให้ได้อ่านเป็นความรู้กันดังนี้ค่ะ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ 

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเพื่อใช้ในการสมัครที่จำเป็นต้องรู้ มาให้อ่าน มีดังนี้จ้า

1.Job description (  จ็อบ เดสคริบชั่น) หมายถึง ลักษณะของงานที่ทำหรือขอบเขตงานที่ทำ

2.Career objective (คะเรียร อับเจค ทิฟ)  หมายถึง จุดมุ่งหมายในการทำงาน

3.Type in own handwriting (ไทป อิน โอน แฮนไรติ้ง) เขียนใบสมัครด้วยลายมือตนเอง

4.Employment Certificate  (เอมพลอยเม้น เซอติฟิเคท) หมายถึง หนังสือรับรองการทำงาน

5.Multinational companies (MNC)   (มัลติเนชั่นนอล คอมเพนี)  หมายถึง บริษัทข้ามชาติ

6. Work experience (เวิร์ค อิคเพียเรียน)   หมายถึง ประสบการณ์การทำงาน

7.Communication skills (คะมิวนิเคเชิน สคิล)  หมายถึง ทักษะการติดต่อสื่อสาร

8. Company benefits   (คอมเพนี เบเนฟิต) หมายถึง สวัสดิการของบริษัท

9.Benefit package  ( เบเนฟิต แพ็คเก็จ)  หมายถึง แบบแผนสวัสดิการ

10.Probationary period   (โปรเบชั่นเนรี่ พีเรียด)   หมายถึง ระยะเวลาหรือช่วงทดลองงาน

11.Accepts responsibility (แอคเซพท ริสพอนซะบิล ลิที)   หมายถึง  มีความรับผิดชอบต่องานในส่วนที่ตนได้รับมอบหมาย

12.Training (เทรนนิง )    หมายถึง การอบรม

13.Volunteer work ( วอลเลินเทียร์ เวิร์ค )    หมายถึง งานอาสา

14.Competence  (คอมพิเทิน)    หมายถึง ความสามารถ

15.Working hours    (เวิคกิ้ง เอาเออร์ )     หมายถึง ชั่วโมงการทำการ

16.Working time     ( เวิคกิ้ง ทาม)     หมายถึง เวลาทำงาน

17.Experience    (เอกพีเรียน )    หมายถึง ประสบการณ์

18.Responsibilities   ( เรสพอนซิเบิ้ล)    หมายถึง ความรับผิดชอบ

19.Hobby   ( ฮอบบี  )    หมายถึง งานอดิเรก

20. Diligent   ( ดิลิเจ้น)    หมายถึง ขยัน

21.Mindset  (มายเซท )    หมายถึง ทัศนคติและมุมมอง

22.Skill    (สกิล )    หมายถึง ทักษะ

23.Proficient (โปรฟิเชี่ยน)     หมายถึง เชี่ยวชาญหรือความชำนาญ

24.Work permit  (เวิคกิ้ง เพอมิท)     หมายถึง ใบอนุญาตทำงาน

25. Compensation (คอมเพนเซชั่น)    หมายถึง ค่าตอบแทน

26. Flexible  (เฟคซิเบิ้ล)     หมายถึง ยืดหยุ่น

27. Judgment (จัด เมิน)     หมายถึง การตัดสิน

—————–

28.Person to notify in case of emergency  

(เพอเซิล ทู นอทิไฟ อิน เคส ออฟ อีเมอเจนซี่) 

หมายถึง บุคคลทีติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน

29.Please give name and address only those who have known you in a professional ability

(พลีส กีฟ เนม แอนด์ แอทเดรส ออนลี โดส ฮู แฮฟ โนว ยัว อิน อะ โปรเฟสชั่นนอล อะบิลิตี้)

หมายถึง ชื่อและที่อยู่ของคนที่อ้างอิงความสามารถคุณได้

30.Willingness to Relocate

(วิลลิ่งเนส ทู รีโลเคท)

สามารถโยกย้ายสถานที่ทำงานได้ไหม?

31.Willingness to Travel

(วิลลิงเนส ทู แทรเวล)

หมายถึง สามารถเดินทางไกลได้ไหม?

32.Do you have any friends or relatives employed by this company?

(ดู ยู แฮฟ เอนนี่ เฟรนด์ ออ รีเลทีฟ เอมพลอย บาย ดิส คอมเพนี)

หมายถึง  มีเพื่อนหรือญาติทำงานที่บริษัทนี้ไหม?

33.If related to anyone in our employ, state name and department.

(อีฟ รีลีท ทู เอนนีวัน อิน เอาเออ เอมพลอย สเตท เนม แอนด์ ดีพาร์ทเมนต์)

หมายถึง  ถ้ามีคนรู้จักทำงานที่นี่ ระบุชื่อและแผนก

34.Have you ever been terminated or asked to resign from a job?

(แฮฟ ยู เอฟเว่อร์ บีน เทอมิเนท ออ อ๊าค ทู รีไซน์ ฟรอม อะ จ๊อบ)

หมายถึง  เคยถูกให้ออกจากงานไหม?

35.Have you ever been convicted of a crime and/or had any illegal action?

(แฮฟ ยู เอฟเว่อร์ บีน คอนวิท ออฟ อะ ไครม ออ แฮด เอนนี่ อิลิเกิล แอ๊คชั่น)

หมายถึง  คุณเคยต้องโทษคดีทางกฎหมายไหม?

36.Do you have any congenital disease?

(ดู ยู แฮฟ เอนนี่ คอนจินิทอล เดอซีส)

หมายถึง  คุณมีโรคประจำตัวไหม?

37.Have you ever been seriously or contracted with contagious disease?

(แฮฟ ยู เอฟเว่อร์ บีน ซีเรียลอัลลี่ ออ คอนแทรค วิท คอนทาจีอัส เดอซีส)

หมายถึง  คุณเคยป่วยหนักและเป็นโรคติดต่อร้ายแรงไหม?

38.Do you have any physical handicaps, chronic diseases or other disabilities?

(ดู ยู แฮฟ เอนนี่ ฟีสีคอล แฮนดิคัฟ โครนิค เดอซีส ออ ออเทอร์ เดอซาบิลิตี้)

หมายถึง มีความบกพร่องพิการของร่างกาย หรือเป็นโรคติดต่อเรื้อรังที่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานไหม?


39.Have you ever been any legal action taken against you?

(แฮฟ ยู เอฟเว่อร์ เอนนี่ ลิกัล แอ๊กชั่น เทคเก้น อะเก้น ยู)

หมายถึง เคยถูกศาลพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเคยทำผิดทางอาญาไหม?

——————————

หมวดประวัติและประสบการณ์ในการทำงาน

40. Expert in     หมายถึง  เชี่ยวชาญในด้าน

41. Special skills       หมายถึง   ความชำนาญพิเศษ

42. Extra-curricular activities     หมายถึง  กิจกรรมนอกหลักสูตร

43. Related field       หมายถึง สาขา / วิชาที่เกี่ยวข้อง

44. Full-time job      หมายถึง งานประจำ

45. Part-time job      หมายถึง อาชีพเสริม

46. Period of employment      หมายถึง    ระยะเวลาการทำงาน

47. Reasons for leaving      หมายถึง เหตุผลที่ลาออกจากงาน

48. Seminars     หมายถึง   การสัมมนาที่เข้าร่วม

49. Self-employed      หมายถึง ทำงานส่วนตัว

50. Training courses      หมายถึง    การฝึกอบรม

————————-

ประวัติและข้อมูลส่วนตัว ในข้อนี้หลายๆคนต้องกรอกได้แน่นอน เพราะเป็นข้อมูลพื้นฐานมีดังนี้ 

51.Personal data / Curriculum vitae / Resume / Bio-Data หมายถึง   ประวัติส่วนตัว

52.Age       หมายถึง อายุ

53.Applicant / Candidate      หมายถึง  ผู้สมัครงาน

54.Applicant name       หมายถึง   ชื่อผู้สมัคร 

55.Applicant signature      หมายถึง  ลายเซ็นผู้สมัคร       

56. Position applied for / Position desired      หมายถึง  ตำแหน่งที่สมัคร

57. Negotiable     หมายถึง   ต่อรองได้ (เงินเดือน)

58. Citizenship / Nationality     หมายถึง  พลเมือง / สัญชาติ

59. Color of eyes     หมายถึง   สีตา                  

60.Color of hair     หมายถึง   สีผม

61. Complexion     หมายถึง   สีผิว

62.Confidential     หมายถึง   ความลับ

63. Date of Birth     หมายถึง   วัน เดือน ปีเกิด

64. Dependents     หมายถึง    ผู้ที่อยู่ในความอุปการะ

65. Domicile     หมายถึง   ภูมิลำเนา

66. Expected salary / Salary expected     หมายถึง   เงินเดือนที่ต้องการ

67. Guarantor      หมายถึง   ผู้ค้ำประกัน

68.  Height     หมายถึง   ส่วนสูง

69. Identification Card No. / ID Card No.     หมายถึง  เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน

70. Maiden name      หมายถึง   นามสกุลเดิมของผู้หญิง (ก่อนแต่งงาน)

71. Name-Surname      หมายถึง   ชื่อ – นามสกุล

72. Occupation     หมายถึง  อาชีพ

73. Ordainment     หมายถึง  บวช

74. Passed away / Deceased     หมายถึง  ตาย

75.Permanent address     หมายถึง   ที่อยู่ถาวร

76. Postal code       หมายถึง รหัสไปรษณีย์

77.Present address       หมายถึง ที่อยู่ปัจจุบัน

78. Race     หมายถึง เชื้อชาติ

79. References / Referee     หมายถึง บุคคลอ้างอิง

80. Relative     หมายถึง ญาติ

81.Sex     หมายถึง เพศ

82. Weight หมายถึง น้ำหนัก

————————-

หมวดเอกสารสำคัญต่างๆที่ต้องรู้มีดังนี้ 

83.Application Form     หมายถึง      ใบสมัครงาน

84.Application Letter   หมายถึง     จดหมายสมัครงาน

85. Birth Certificate    หมายถึง     สูติบัตร

86. Home Registration    หมายถึง    ทะเบียนบ้าน

87. Identification Card (I.D. Card)   หมายถึง      บัตรประจำตัวประชาชน

88. Issued by    หมายถึง    ออกให้โดย

89. Issued Date    หมายถึง    วันที่ออกบัตร

90. Marriage Certificate  หมายถึงทะเบียนสมรส

91.Valid Date / Expire Date   หมายถึง  วันที่บัตรหมดอายุ

————————-

หมวดสถานภาพทางการทหาร  (Military status) 

92. Black slot / Exempted through Military Drawing Ballot    หมายถึง  จับได้ใบดำ

93. Certificate of exemption from military service   หมายถึง   ใบปลดประจำการทหาร

94. Conscripted   หมายถึง   ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้ว

95. Exempted  หมายถึง ได้รับการยกเว้น

96. Military Discharge Letter   หมายถึง ใบปลดประจำการทหาร

97. No Military Service  หมายถึง  ยังไม่เกณฑ์ทหาร

98. No Military Service Obligation  หมายถึง  ไม่มีพันธะทางทหาร

99. Reserved Officers’ Training CorpCourse (R.O.T.C.)   หมายถึง  หลักสูตรรักษาดินแดน (ร.ด.)

————————-

100. Education Background  หมายถึง ประวัติการศึกษา

101.Certificate degree obtained   หมายถึง ประกาศนียบัตร , ปริญญาที่ได้รับ

102. Transcript / Statement of Marks  หมายถึง   ใบแสดงผลการเรียน

103. Degree Certificate  หมายถึง ใบปริญญาบัตร

104. Degree obtained   หมายถึง วุฒิการศึกษาที่ได้รับ

105. Vocational  หมายถึง    อาชีวศึกษา

106. Vocational Certificate  หมายถึง   ประกาศณียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

107. High Vocational Certificate  หมายถึง  ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)

108. Diploma หมายถึง  อนุปริญญา

109. Equivalent qualification  หมายถึง    คุณวุฒิเทียบเท่า

110. Bachelor’s Degree  หมายถึง   ปริญญาตรี

111. High school  หมายถึง มัธยมศึกษาตอนปลาย

112. Primary School / Elementary School หมายถึง  ประถมศึกษา

113. Secondary School   หมายถึง  มัธยมศึกษาตอนต้น

————————

114. Residence  หมายถึง  ที่พัก

115. Boarding House / Dormitory   หมายถึง   หอพัก

116. Living with Parents  หมายถึง   พักอยู่กับพ่อ แม่

117. Own House หมายถึง    บ้านของตนเอง

118.Rent House  หมายถึง     บ้านเช่า

119.Student Housing   หมายถึง  หอพักมหาวิทยาลัย

 และสำหรับข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษและประโยคที่ใช้ในการสมัครงานที่จำเป็น ซึ่งได้นำเสนอในเว็ปไซต์นี้ น่าจะมีประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านทุกๆคนอยู่ไม่มากก็น้อย หาคำศัพท์ที่ใช้ในการสมัครงานดังกล่าว มีข้อผิดพลาดประการใด ดิฉันต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ ขอบพระคุณทุกๆคนที่แวะเวียนเข้ามาเปิดสไลด์อ่านดูกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกครั้งในบทความถัดไปค่ะ……..จากคุณนายเว่อร์ เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน 

เครดิตภาพสวยๆจาก : https://www.freepik.com/

———————————————————————————————

บทความบล็อกอื่นๆ มีดังนี้ค่ะ

น่ารู้กับคำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ของใช้ในห้องน้ำ ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง นำมาให้อ่านเป็นความรู้กัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง จัดมาให้อ่าน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

เรื่องน่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เติมตัวอักษร “S” ท้ายพยางค์คำนั้นแล้วความหมายก็เปลี่ยนไป มีคำว่าอะไรบ้าง นำมาให้อ่านกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดบทความ>>>

เรื่องน่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องดนตรีต่างๆ ที่หลายคนไม่รู้จักมาก่อน มีชื่อเรียกว่าอะไรบ้าง นำมาให้อ่านกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

สาระกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับชื่อดอกไม้ต่างๆของไทยและต่างประเทศ ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีเรียกชื่อว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>>

รวมเด่นกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับโรงเรียน สถานศึกษา อุปกรณ์สื่อการเรียน ที่หลายคนอาจไม่รู้มาก่อน มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

น่ารู้กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกแฟนว่า “ที่รัก” มีคำว่าอะไรบ้าง นำมาให้อ่านเป็นความรู้กัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แนะนำบทเพลงฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลแนวโซล (Soul) สไตล์ชิลๆ ไพเราะ เนื้อหาร้องง่ายๆ สบายๆเหมือนไปเที่ยวทะเล พร้อมความหมาย มาให้ฝึกร้องกันค่ะ คลิ๊กดูรายละเอียดบทความ>>>

รวมเด่นบทเพลงฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลแนว Pop ป๊อบสดใส ไพเราะ น่ารัก ทำนอง เนื้อหาเข้าใจง่าย พร้อมความหมาย มาให้ฝึกร้องกัน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


แนะนำฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆผ่านเพลงสากลจังหวะ ช่ะช่ะช่า สุดเริงร่าร้องได้อย่างสนุกซ่าบซ่า ชื่นอุราจับใจ มีเพลงอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

รวมเด่นบทเพลงฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลแนวสร้างกำลังใจ พร้อมความหมายดีๆ ฝึกร้องกันได้อย่างสำราญบานใจ มีเพลงอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แนะนำฝึกภาษาอังกฤษผ่านเพลงสากลสไตล์ร็อค Rock & Roll แสนสนุกเร้าใจ พร้อมความหมาย มาให้ฝึกร้องกันอย่างเพลิดเพลินจำเริญใจจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆ ผ่านเพลงสากลสไตล์ลูกทุ่ง Pop Country แสนไพเราะพร้อมความหมาย ร้องกันได้อย่างแน่นอนจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

แบ่งปันฝึกภาษาอังกฤษง่ายๆ ผ่านเพลงสากลยุค90’s พร้อมความหมาย ร้องกันได้ทุกๆคนแน่นอน คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>

รวมเด่นคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับความรัก อกหัก ปลอบขวัญ สร้างกำลังใจสู่ฟ้าวันใหม่ ไฉไลสุดขั้วระรัวจริงเอย มีคำว่าอะไรบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>

แนะนำคำศัพท์ภาษาอังกฤษน่ารู้เกี่ยวกับหุ้นและกองทุนรวม มีคำเฉพาะอะไรบ้าง จัดมาให้อ่านเป็นความรู้กันจ้า คลิ๊กดูรายละเอียดบทความค่ะ>>>


ภาษาอังกฤษกับ 5 สถานการณ์สุดฮิต ในที่ทำงาน


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ภาษาอังกฤษกับ 5 สถานการณ์สุดฮิต ในที่ทำงาน

5 คำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิต พร้อมคำตอบ! (ให้ได้งาน) เจาะลึกจาก HR recruitment | EP21 | HunterB


คอร์สเรียนฟรี!! \”3 ขั้นตอน สมัครงานยังไง ก็ได้งาน!\” สมัครเลย!
👉 https://rdar.li/lbWnVJa
Free EBook “9 เคล็ดลับ เขียน Resume ให้โดดเด่น และได้งาน!”
👉 https://rdar.li/Wel6Blb
________________________________________________________________
การสัมภาษณ์งาน นิสิต นักศึกษา จบใหม่ รวมถึง คนทำงาน มนุษย์เงินเดือน ควรมีการเตรียมตัวสัมภาษณ์งานที่ดี ตั้งแต่ “วิธีการแนะนำตัวเอง”, “เข้าใจธุรกิจของบริษัทที่เรากำลังจะไปทำงานด้วย”, “ตำแหน่งงานที่เราสมัครเทียบกับประสบการณ์งานของเรา” และ ยังมีเทคนิคการสัมภาษณ์งาน อีกมากมายที่ผู้สมัครงาน จะต้องทำการบ้าน และเตรียมตัวให้ดี เพื่อที่จะได้งานในฝันที่คาดหวังครับ
วันนี้โค้ชเบ็น Hunter B มาสรุป เนื้อหาเน้น ๆ กับ “5 คำถามยอดฮิตสัมภาษณ์งาน พร้อมตัวอย่างคำตอบ!” ให้ไปใช้กันในสถานการณ์จริงได้เลย พร้อมคำตอบทุกคำถาม
✔️ คำถามที่ 1 แนะนำตัวเอง (Tell me about yourself) + คำตอบตัวอย่าง
✔️ คำถามที่ 2 ทำไมถึงอยากจะทำงานที่นี่ (Why do you want to work here?) + คำตอบตัวอย่าง
✔️ คำถามที่ 3 จุดแข็งของคุณคืออะไร (What are your strengths?) + คำตอบตัวอย่าง
✔️ คำถามที่ 4 คุณรับมือกับความกดดันของงานอย่างไร? (How do you handle stress?) + คำตอบตัวอย่าง
✔️ คำถามที่ 5 คุณเห็นตัวเองอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า? (Where do you see yourself next 5 years?) + คำตอบตัวอย่าง
อย่าลืมฝึกฝน คำตอบสัมภาษณ์งานเหล่านี้ ให้เข้ากับประสบการณ์งานของเราที่มีนะครับ
โค้ชเบ็นอวยพรให้ทุกคนได้งานในฝันครับ 😊
________________________________________________________________
ถ้าคุณชอบ VDO นี้ อย่าลืม กด Like 👍, กด ⭐️Subscribe, และ แชร์ให้เพื่อน ๆ กัน นะครับ
🤝 LET’S CONNECT!
Website บทความ คอร์สเรียน: https://thehunterb.com/
Facebook HunterB Page: https://www.facebook.com/hunterb.careercoach
Instagram: https://www.instagram.com/hunterbcontact_th/
LinkedIn: https://www.linkedin.com/in/bensojiphan/
________________________________________________________________
แนะนำ เนื้อหา VDO เพิ่มเติม ที่ให้ความรู้ต่อจาก episode นี้
🎬 EP 1 | 9 เทคนิคสัมภาษณ์งาน ให้ได้งาน!!
https://www.youtube.com/watch?v=Fxv30cvzNiM\u0026t=29s
🎬 EP 7 | วิธีแนะนำตัวเองใน 3 นาที ตอนสัมภาษณ์งาน (ฉบับคนมีประสบการณ์งาน!!)
https://www.youtube.com/watch?v=xSpDTY0k2wg\u0026t=16s
🎬 EP 8 | วิธีแนะนำตัวเองใน 3 นาที สุดเจ๋ง ตอนสัมภาษณ์งาน (ฉบับนักศึกษาจบใหม่!!)
https://www.youtube.com/watch?v=ruvjaDhw7ao\u0026t=36s

สัมภาษณ์งาน คําถามสัมภาษณ์งาน หางาน มนุษย์เงินเดือน HunterB

5 คำถามสัมภาษณ์งานยอดฮิต พร้อมคำตอบ! (ให้ได้งาน) เจาะลึกจาก HR recruitment | EP21 | HunterB

Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด


คลื่นเสียงนี้ทำโดยนักจิตบำบัด ในประเทศสหรัฐอเมริกา คลื่นเสียง Alpha Wave คือคลื่นเสียงที่มีความถี่ระหว่าง ประมาณ 714 รอบต่อวินาที เวลาที่ความถี่น้อยลง หมายถึงว่า เราจะคิดช้าลง เป็นจังหวะ เป็นท่วงทำนอง คมชัด ให้เวลาแก่จิตในการไตร่ตรองและมีความคิดเป็นระบบขึ้น สภาวะที่สมองทำงานอยู่ในคลื่นอัลฟ่ายังพบอยู่ในหลายๆ รูปแบบ เช่น ขณะที่กล้ามเนื้อหรือร่างกายผ่อนคลาย ช่วงเวลาที่ง่วงนอน ก่อนหลับหรือหลับใหม่ๆ เวลาทำอะไรเพลินๆ จนลืมสิ่งรอบๆ ตัว เวลาสบายใจ เวลาอ่านหนังสือหรือจดจ่อกับกิจกรรมใด ๆ อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง และการเข้าสมาธิในระดับภวังค์ที่ไม่ลึกมาก
โดยหากจะตั้งโปรแกรมจิตใต้สำนึกก็ควรทำในช่วงที่คลื่นสมองเป็นอัลฟ่า ในคนทั่วไปเองก็ควรฝึกฝนตนเองให้สมองทำงานอยู่ในช่วงคลื่นอัลฟ่าเป็นประจำเช่นเดียวกัน เพราะจะช่วยสร้างความผ่อนคลาย ร่างกายจะไม่ทำงานอยู่บนฐานแห่งความกลัวหรือวิตกกังวล แต่จะมองชีวิตอย่างสนุกสนาน มีความรู้สึกอยากเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ หรืออยากสำรวจโลกแบบเด็ก ๆ แต่คนส่วนใหญ่มักจะขาดการฝึกฝนให้ตนเองมีคลื่นสมองชนิดนี้ และมักปล่อยให้อารมณ์อัตโนมัติตอบสนองต่อสิ่งเร้าต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว ขาดการคิดใคร่ครวญด้วยระยะเวลาอันเหมาะสมก่อน หากเรามีการฝึกฝนจิตให้ตื่นรู้เช่นเดียวกันกับแนวทางการปฏิบัติธรรมในพุทธศาสนา คลื่นอัลฟ่านี้จะถูกบ่มเพาะให้เข้มแข็งขึ้น สามารถรื้อโปรแกรมอัตโนมัติเก่า สร้างโปรแกรมอัตโนมัติใหม่ ๆ ได้
หากชื่นชอบและอยากสนับสนุนช่องของเรา คุณสามารถเลี้ยงกาแฟเราได้นะคะ
เราจะได้ตาสว่างยันเช้าเพื่อทำเพลงให้พวกคุณได้นอนหลับสบาย ^^
เลี้ยงกาแฟเราได้ที่นี่ค่ะ https://www.buymeacoffee.com/KateVP
ที่มา
http://www.jaisabuy.com/index.php?lay=show\u0026ac=article\u0026Id=5385708\u0026Ntype=1
Copyrights
Meditate and Create, LLC
Commercial Rights License
เพลงเพิ่มสมาธิ เพลงอ่านหนังสือ เพลงกล่อมนอน

Study Music ฟังแล้วตั้งใจทำงาน อ่านหนังสือ เพิ่ม 500% ด้วยคลื่นเสียง Alpha Waves ผ่อนคลาย คลายเครียด

ฝึกพูด 40 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในที่ทำงาน


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/
ฝึกพูด 50 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://youtu.be/DAcNrKXmkYk
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องเริ่มต้นด้วยการฝึกพูดจากประโยคง่ายๆ และพื้นฐานๆที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการพูดออกเสียงเป็นประโยคและเข้าใจความหมายไปด้วยจะช่วยให้เราสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้งานในสถานการณ์จริงและรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ วันนี้ผมรวบรวมเอาประโยคที่พื้นฐานที่สุดมาให้ทุกคนได้ฝึกฝนกัน จริงๆยังมีมากกว่านี้แต่ 50 ประโยคเริ่มต้นนี้ถ้าฝึกพูดจนชินแล้วเราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบทเลยทีเดียว
ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฝึกพูดอังกฤษ
สมัครเรียน
Line: https://lin.ee/5uEdKb7h
Website: https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Instagram: https://www.instagram.com/unfoxenglish
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่อง LACTA: https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่อง Bell Vittawut: https://www.youtube.com/bellvittawut
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]

ฝึกพูด 40 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในที่ทำงาน

คุณแม่ทำกับข้าว ของเล่นเครื่องครัว ของเล่นไม้ ของเล่นทำอาหาร ครัวไม้ สไลม์ Play Doh สกุชชี่


คุณแม่ทำกับข้าว ของเล่นเครื่องครัว ของเล่นไม้ ของเล่นทำอาหาร ครัวไม้ สไลม์ Play Doh สกุชชี่
สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง Fairy Doll TV (แฟรีดอล) นะคะ
ฝากกดติดตามช่องแฟรี่ดอล ทีวี ของพี่นุ้ยด้วยนะคะ
❤ กดติดตามช่อง Fairy Doll : http://goo.gl/exBeXn
❤ Subscribe to the channel :http://goo.gl/exBeXn
❤Facebook : https://www.facebook.com/fairydolltv

Please feel free to subscribe to our channel for more Youtube exclusive children’s videos here. Fair use of content is intended

คุณแม่ทำกับข้าว ของเล่นเครื่องครัว ของเล่นไม้ ของเล่นทำอาหาร ครัวไม้ สไลม์ Play Doh สกุชชี่

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ จุดมุ่งหมายในการทํางาน ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *