Skip to content
Home » [NEW] พื้นฐานที่ควรรู้เพื่อหัดแต่งประโยคภาษานอร์เวย์ (แบบง่ายๆ ) | ตัวอย่าง ประโยค ปฏิเสธ ภาษา ไทย – NATAVIGUIDES

[NEW] พื้นฐานที่ควรรู้เพื่อหัดแต่งประโยคภาษานอร์เวย์ (แบบง่ายๆ ) | ตัวอย่าง ประโยค ปฏิเสธ ภาษา ไทย – NATAVIGUIDES

ตัวอย่าง ประโยค ปฏิเสธ ภาษา ไทย: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เนื้อหาในบทความนี้:

  1. โครงสร้างประโยคพื้นฐาน (Ordstilling)

  2. คำสรรพนาม (Pronomen)

  3. คำกริยา (Verb)

  4. คำนามในภาษานอร์เวย์ (Substantiv)

  5. คำกริยาช่วย (Modalverb)

  6. คำแสดงคำถาม (Spørreord)

  7. ตัวอย่างประโยค

เกริ่นนำ:

สำหรับเด็กใหม่ไฟแรงอย่างเราๆ พอเรียนภาษานอร์เวย์มาได้สักพัก 

เริ่มทักทาย Hei! Hvordan har du det? ได้ อ่าน A B C D ในภาษานอร์เวย์ได้ 

เราก็เริ่มอยากหัดเขียนเป็นภาษานอร์เวย์บ้าง

แต่เพราะเราเรียนภาษานอร์เวย์ด้วยตัวเอง ทำให้ตอนเริ่มต้นนั้นงงมาก ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน

รู้แต่ว่าอยากเขียน แต่เขียนไม่ถูก ไม่รู้ต้องเริ่มยังไง ต้องเขียนยังไง

พอเรียนด้วยตัวเองมาสักพัก เราจึงเริ่มจับจุดได้ สรุปออกมาเป็นโน้ตย่อเพื่อทบทวนความเข้าใจของตนเอง

เลยอยากนำมาแบ่งปันกับเพื่อนๆที่อาจกำลังเรียนภาษานอร์เวย์ด้วยตนเองอยู่ และยังงงๆเหมือนเราในตอนแรกๆ

โน้ตสรุปนี้ คือสิ่งที่เราคิดว่าเพื่อนๆที่เพิ่งเริ่มเรียนควรรู้เพื่อสามารถหัดเขียนภาษานอร์เวย์แบบง่ายๆได้

เหมาะสำหรับการเขียนประโยคสั้นๆ ถาม-ตอบแบบง่ายๆ อย่างน้อยเพื่อให้เพื่อนๆต่อยอดไปยังประโยคที่ซับซ้อนได้ต่อไป

Table of Contents

พื้นฐานที่ควรรู้เพื่อหัดแต่งประโยคภาษานอร์เวย์ (แบบง่ายๆ)

การหัดแต่งประโยคก็เหมือนการหัดทำไข่เจียว เราต้องรู้ก่อนว่าส่วนผสมมีอะไรบ้าง และใส่อะไรก่อนหลัง

1. รู้จักโครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษานอร์เวย์ (Ordstilling)

1.1) ประโยคบอกเล่าโดยทั่วไป

ประธาน (Subject) + กริยา (Verb) + กรรม (Object) (หรือใน Main clause อาจจะไม่มีกรรมก็ได้)

1.2) ทำประโยคบอกเล่าให้เป็นรูปปฏิเสธ (ใช้ Adverb – ikke)

ประธาน (Subject) + กริยา (Verb) + คำวิเศษณ์ (Adverb) + กรรม (Object)

1.3) การสร้างประโยคคำถาม

– รู้จักการใช้ Question word เพื่อสร้างประโยคคำถาม

Question word + กริยา (Verb) + ประธาน (Subject)?

– รู้จักการสร้างประโยคคำถามแบบไม่มี Question word **สามารถใช้คำกริยาขึ้นต้นได้เลย

กริยา (Verb) + ประธาน (Subject)?

**พอรู้จักโครงสร้างว่า 1 ประโยคประกอบด้วยอะไรบ้างแล้ว 

ต่อไปเรามาทำความรู้จักกับส่วนประกอบนั้น เพื่อเลือกใช้ให้ถูกต้อง**

2. รู้จักการใช้คำสรรพนาม (Pronomen)

Jeg (I ฉัน) – meg (Me ฉัน)

Du (You คุณ) – deg (You คุณ)

Vi (We เรา) – oss ( Us เรา)

Dere (พวกคุณ) – dere (พวกคุณ)

Han (He เขา) – ham (Him เขา)

Hun (She หล่อน) – henne (Her หล่อน)

De (They พวกเขา) – dem (Them พวกเขา)

Det/Den (It มัน) – det/den (It มัน)

3. รู้จักคำกริยา ประเภทและหน้าที่ของคำกริยา

ภาษานอร์เวย์จะใช้คำกริยาเป็นตัวบอกเวลา ว่าประธานทำกริยานั้นๆ ตอนไหน (คล้ายๆภาษาอังกฤษ)

ซึ่งคำกริยาจะต้องผันไปตามกาลเวลาของประโยคนั้นๆ (อดีต / ปัจจุบัน / อนาคต)

3.1) รูปดิค (infinitive form) infinitiv å

กริยาคงที่ หรือที่เราเรียกเองว่ารูปดิค คือ กริยาที่ยังไม่ได้ผัน

เป็นรูปตั้งต้นของคำกริยา ขึ้นต้นด้วย å

เช่น å snakke

ถ้าเทียบในภาษาอังกฤษคือ to ….. (to eat, to go, to speak)

หรือที่เราเคยอ่านมา เขาให้แปลคำว่า å ว่า “การ”

เช่น å snakke – การพูด, å lese – การอ่าน, å spise – การกิน

3.2) รูปปัจจุบัน (present form) Present

เพื่อใช้พูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันสม่ำเสมอ

การผันโดยส่วนใหญ่ จะนำคำกริยารูป infinitiv å มาตัด å ออก และเติม “r” เพื่อแสดงว่าเป็นรูปปัจจุบัน

เช่น å spise – spiser, å lese – leser, å snakke – snakker

3.3) รูปอดีต (past form) Preteritum

เพื่อใช้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตระบุสถานที่/เวลาที่เกิดชัดเจน และจบไปแล้ว ไม่ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

การผันนั้นจะหลากหลายกว่ารูปปัจจุบัน คือนำคำกริยารูป infinitiv å มาตัด å ออก แต่อาจจะเติม “et”, “t”, “te” หรือเปลี่ยนรูปไปเลย **ต้องศึกษาจากตารางการผันกริยา ซึ่งพอจะมีหลักให้จำอยู่ 5 หมวด**

3.4) รูปปัจจุบันสมบูรณ์ (present perfect form) har + Prefektum

เพื่อใช้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว (ในอดีต) และดำเนินมาจนถึงปัจจุบัน หรือใช้พูดเพื่อเน้นผลลัพท์ที่ได้ของเหตุการณ์นั้นๆ

ตัวอย่างการผันคำกริยา

ช่องแรก รูปดิค – ช่องที่ 2 รูปปัจจุบัน – ช่องที่ 3 รูปอดีต  – ช่องที่ 4 รูปปัจจุบันสมบูรณ์

4. รู้จักคำนามในภาษานอร์เวย์ (Substantiv)

คำนามในภาษานอร์เวย์มี 3 เพศ

ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งใหม่สำหรับคนไทย เพราะในภาษาไทยคำนามไม่มีเพศ

เพศของคำนามมีความสำคัญและจำเป็นต้องรู้ เพราะการจะนำไปใช้ต้องผันตามรูปประโยค

ซึ่งแบ่งเป็นการผันบอกรูปไม่เจาะจง (Ubestemt from) และรูปเจาะจง (Bestemt form)

**อ่านรายละเอียดการใช้คำนาม Ubestemt และ Bestemt from ได้ใน Section: Substantiv

นอกจากนี้การผันพวกนี้ยังต้องนำไปใช้กับการแสดงความเป็นเจ้าของและคำคุณศัพท์และอื่นๆ การเรียนรู้เพศ การผัน และการใช้คำนามจึงสำคัญมาก

ที่สำคัญ: ไม่มีหลักในการแยกแยะว่าคำนามอะไร เป็นเพศอะไร ต้องจำเอง

– เพศชาย ใช้คำนำหน้าคำนาม En เช่น En gutt, En far, En bil

– เพศหญิง ใช้คำนำหน้าคำนาม Ei เช่น Ei kvinne, Ei mor, Ei dør

– ไร้เพศ ใช้คำนำหน้าคำนาม Et เช่น Et tog, Et hus, Et fly

*คำนามเพศหญิงสามารถใช้ Ei หรือ En ก็ได้

ตัวอย่างการผันคำนาม

5. รู้จักคำกริยาช่วย Skal, Vil, Kan, Må และ Bør (Modalverb)

หลักการใช้คือ เมื่อใช้คำกริยาช่วยทั้ง 5 นี้ ต้องตามด้วยคำกริยาแท้ช่อง infinitiv å

แต่ตัด å ออก

คำกริยาช่วยเหล่านี้จะได้ใช้บ่อยมากในชีวิตประจำวัน ควรฝึกเขียนให้คล่อง

skal = จะ

vil = ต้องการจะ, อยากจะ

kan = สามารถ

må = ต้อง คงจะต้อง

bør = ควร

6. รู้จักคำแสดงคำถาม

ในภาษานอร์เวย์ก็มี Question word (คำแสดงคำถาม) เหมือนภาษาไทย ภาษาอังกฤษ

เช่น Hva – อะไร, Hvor – ที่ไหน, Hvem – ใคร, Hvordan – อย่างไร, Når – เมื่อไหร่, Hvorfor – ทำไม

“6 ข้อนี้คือสิ่งที่โบคิดว่าน้องใหม่จำเป็นต้องรู้ เพื่อที่สามารถหัดเขียนภาษานอร์เวย์แบบง่ายๆได้ก่อน 

สิ่งสำคัญคือต้องค่อยๆ ทำความเข้าใจหน้าที่ของคำ 

จากนั้นฝึกเขียน ฝึกแต่งประโยคบ่อยๆให้คล่อง

แล้วค่อยๆ ขยับไปเรียนรู้คำคุณศัพท์ คำกริยาช่วยอื่นๆ เพื่อให้สามารถแต่งประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้นได้”

ตัวอย่างการแต่งประโยค

1) ประโยคบอกเล่าโดยทั่วไป

ประธาน (Subject) + กริยา (Verb) + กรรม (Object)

รูปปัจจุบัน (present form) Present

– Jeg spiser lunsj. ฉันกำลังกินอาหารกลางวัน

– Jeg står opp klokkla 7 hver dag. ฉันตื่นนอนตอน 7 โมงเช้าทุกวัน (กิจวัตรประจำวัน)

รูปอดีต (past form) Preteritum

– Jeg spiste lunsj. ฉันกินอาหารกลางวันแล้ว

– Jeg sto opp klokkla 7 i dag. วันนี้ฉันตื่นนอน 7 โมงเช้า (ตื่นมาแล้ว)

รูปปัจจุบันสมบูรณ์ (present perfect form) Har + Prefektum

– Han har bodd i Norge i 2 år. เขาอาศัยอยู่นอร์เวย์มา 2 ปีแล้ว (ตอนนี้ก็ยังอยู่ที่นอร์เวย์)

– Jeg har studert norsk i seks måneder. ฉันเรียนภาษานอร์เวย์มา 6 เดือนแล้ว (ตอนนี้ก็ยังเรียนอยู่)

2) ประโยคบอกเล่าในรูปปฏิเสธ (ใช้กริยาช่วย ikke)

ประธาน (Subject) + กริยา (Verb) + คำวิเศษณ์ (Adverb) + กรรม (Object)

รูปปัจจุบัน (present form) Present

– Jeg spiser ikke lunsj. ฉันไม่ได้กำลังกินอาหารกลางวัน

– Jeg snakker ikke norsk. ฉันไม่ได้พูดภาษานอร์เวย์

รูปอดีต (past form) Preteritum

– Jeg spiste ikke middag i går. ฉันไม่ได้กินอาหารเย็นเมื่อวาน

รูปปัจจุบันสมบูรณ์ (present perfect form) Har + Prefektum

– Han har ikke bodd i Norge. เขาไม่ได้อาศัยอยู่นอร์เวย์

– Jeg har ikke studert norsk. ฉันไม่ได้เรียนภาษานอร์เวย์

3) ประโยคคำถาม

3.1 ใช้ Question word เพื่อสร้างประโยคคำถาม

Question word + กริยา (Verb) + ประธาน (Subject)?

– Hva spiser du? คุณกำลังกินอะไร

– Hvor bor du? คุณอาศัยอยู่ที่ไหน

– Hvem er han? เขาคือใคร

3.2 สร้างประโยคคำถามแบบไม่มี Question word

กริยา (Verb) + ประธาน (Subject) + กรรม (Object)?

– Spiser du lunsj? คุณกำลังกินข้าวกลางวันอยู่ใช่ไหม

– Snakker du thai? คุณพูดภาษาไทยใช่ไหม

4) ประโยคที่ใช้กริยาช่วย Skal, Vil, Kan, Må และ Bør

ประธาน (Subject) + กริยาช่วย (modalverb) + กริยา (infinitiv å แต่ตัด å ออก)

– Han skal arbeide i Oslo. เขาจะไปทำงานที่ออสโล

– Jeg vil ha en kopp kaffe. ฉันต้องการกาแฟ 1 แก้ว

– Jeg kan snakke engelsk. ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้

– Du må hente meg. คุณต้องมารับฉัน

5) ประโยคที่ใช้กริยาช่วย Skal, Vil, Kan, Må และ Bør ในรูปปฏิเสธ

ประธาน (Subject) + กริยาช่วย (modalverb) + คำวิเศษณ์ (IKKE) + กริยา (infinitiv å แต่ตัด å ออก)

– Jeg skal ikke spise middag i dag. วันนี้ฉันจะไม่กินข้าวเย็น

– Jeg vil ikke ha en kopp kaffe. ฉันไม่ต้องการกาแฟ 1 แก้ว

– Jeg kan ikke snakke engelsk. ฉันไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้

6. ประโยคที่มีคำกริยามากกว่า 1 คำ (กริยาหลัก-กริยารอง)

**ใน 1 ประโยคสามารถมีคำกริยาหลัก (present หรือ preteritum หรือ perfektum) ได้ 1 คำเท่านั้น

กริยารองจะต้องมาในรูป Infinitiv å (ไม่ต้องตัด å)

ประธาน (Subject) + กริยาหลัก (Verb) + กริยารอง (Infinitiv å) + กรรม (Object)

– Jeg liker å lese norskbok. ฉันชอบการอ่านหนังสือภาษานอร์ช

– Jeg liker å se på tv. ฉันชอบการดูทีวี

– Jeg hater å lese norskbok. ฉันเกลียดการอ่านหนังสือภาษานอร์ช

7. ประโยคที่มีคำกริยามากกว่า 1 คำ ในรูปปฏิเสธ (ใช้กริยาช่วย ikke)

ประธาน (Subject) + กริยาหลัก (Verb) + คำวิเศษณ์ (Adverb – IKKE) + กริยารอง (Infinitiv å) + กรรม (Object) / กริยาช่วย (Adverb)

– Han liker ikke å spise kake. เขาไม่ชอบการกินเค้ก

– Jeg liker ikke å lese norskbok. ฉันไม่ชอบการอ่านหนังสือภาษานอร์ช

Share this:

Like this:

Like

Loading…

[NEW] ตัวอย่างประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำถาม Present Simple Tense มีวิธีการแต่งดังนี้ | ตัวอย่าง ประโยค ปฏิเสธ ภาษา ไทย – NATAVIGUIDES

69

SHARES

Facebook

Twitter

ตัวอย่างประโยค present simple tense

ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense

กริยาแท้ Verb to be ( is,  am,  are)

is am are ที่ยกตัวอย่างนี้ เป็นกริยาแท้นะครับ (เพราะมีตัวเดียวในประโยค ไม่ได้ไปเสริมกับกริยาตัวอื่น)

บอกเล่า She is a doctor. หล่อนเป็นหมอ
ปฏิเสธ  She is not a doctor. หรือ She isn’t a doctor. หล่อนไม่เป็นหมอ
คำถาม  Is she a doctor?  หล่อนเป็นหมอใช่ไหม
คำตอบ Yes, she is. / No, she isn’t. หรือ No, she is not. ใช่ / ไม่ใช่

บอกเล่า I am a student. ฉันเป็นนักเรียน
ปฏิเสธ  I am not a student.. หรือ I’m not a student. ฉันไม่เป็นนักเรียน
คำถาม  Are you a student? ฉันเป็นนักเรียนใช่ไหม
คำตอบ Yes, I am. / No, I’m not. หรือ No, I am not. ใช่ ไม่ใช่

บอกเล่า You are  a tiger. คุณเป็นเสือ
ปฏิเสธ  You are not a tiger. หรือ You aren’t  a tiger. คุณไม่เป็นเสือ
คำถาม  Am I a tiger? ฉันเป็นเสือใช่ไหม
คำตอบ Yes, you are. / No, you are not. หรือ No, you aren’t. ใช่/ ไม่ใช่

กริยาแท้ Verb to have (Have, Has)

กริยาตัวนี้ ถ้าเป็นกริยาแท้ในประโยค ไม่ควรเอานำหน้าเพื่อทำเป็นประโยคคำถาม ถึงแม้จะถูกต้องตามไวยากรณ์ แต่ก็ไม่นิยมใช้กันแล้ว

การสร้างประโยคคำถามและปฏิเสธให้เอา Do กับ Does มาใช้ครับ (เดี๋ยวค่อยเรียนรู้ให้ละเอียดในหัวข้อ การใช้ have has)

บอกเล่า  He has a car. เขามีรถ
ปฏิเสธ  He does not have a car. หรือ He doesn’t have a car. เขาไม่มีรถ
คำถาม  Does he have a car? เขามีรถใ่ช่ไหม
คำตอบ Yes, he does. / No, he does not. หรือ No, he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  They have a cat. พวกเขามีแมว
ปฏิเสธ  They do not have a cat. หรือ They don’t have a cat. พวกเขาไม่มีแมว
คำถาม  Do they have a cat? พวกเขามีแมวใ่ช่ไหม
คำตอบ Yes, they do. / No, they do not. หรือ No, they don’t. ใช่/ ไม่ใช่

กริยาช่วย can, should, must

บอกเล่า  A dog can swim. หมาสามารถว่ายน้ำได้
ปฏิเสธ  A dog cannot swim. หรือ A dog can’t swim. หมาไม่สามารถว่ายน้ำได้
คำถาม Can a dog swim? หมาว่ายน้ำได้ใช่ไหม
คำตอบ Yes, a dog can. / No, a dog cannot. หรือ No, a dog can’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  Somchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้
ปฏิเสธ  Somchai should not go to school now. หรือ Somchai shouldn’t go to school now. สมชายไม่ควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้
คำถาม  Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม
คำตอบ Yes, Somchai should. / No, Somchai should not. หรือ No,Somchai shouldn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  She must go. หล่อนต้องไป
ปฏิเสธ She must not go. หรือ She mustn’t go. หล่อนต้องไม่ไป
คำถาม Must she  go? หลอ่นต้องไปใช่ไหม
คำตอบ Yes, She must. / No, she must not. หรือ No, she mustn’t. ใช่/ ไม่ใช่

ถ้าไม่มีกริยาช่วยในประโยคให้เอา Do กับ Does มาใช้ในประโยคคำถาม

Do + ประธานพหูพจน์

Does + ประธานเอกพจน์

บอกเล่า  I eat a banana. ฉันกินกล้วย
ปฏิเสธ  I do not eat a banana. หรือ I don’t eat a banana. ฉันกินกล้วย
คำถาม  Do I eat a banana? ฉันกินกล้วยใช่ไหม
คำตอบ Yes, I do. / No, I do not. หรือ No,I  don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  She eats a banana. หล่อนกินกล้วย
ปฏิเสธ  She does not eat a banana. หรือ She doesn’t eat a banana. หล่อนไม่กินกล้วย
คำถาม  Dose she eat a banana? หล่อนไม่กินกล้วยใช่ไหม
คำตอบ Yes, she does. / No, she does not. หรือ No, she doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  They go to school by bus. พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัส
ปฏิเสธ  They do not go to school by bus. หรือ They don’t go to school by bus. พวกเขาไม่ไปโรงเรียนโดยรถบัส
คำถาม  Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนรถบัสใช่ไหม
คำตอบ Yes, they do. / No, they do not. หรือ No,they don’t. ใช่/ ไม่ใช่

บอกเล่า  He goes to school. เขาไปโรงเรียน
ปฏิเสธ  He does not go to school . หรือ He doesn’t go to school. เขาไม่ไปโรงเรียน
คำถาม  Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม
คำตอบ Yes, he do. / No, he does not. หรือ No,he doesn’t. ใช่/ ไม่ใช่

ประโยคคำถามด้านบนเรียกว่า yes – no question เพราะคำตอบจะเป็น yes กับ no ส่วนด้านล่างเรียกว่า wh-question

 การสร้างคำถามโดยใช้ Wh-Question

(Who, What, Where, When, Why, How) ทำได้โดยเอาคำเหล่านี้นำหน้าประโยคคำถามด้านบน แต่ต้องตัดคำที่จะเป็นคำตอบออกด้วย เช่น

Is she a doctor? หล่อนเป็นหมอใช่ไหม

  • Who is she?  หล่อนเป็นใคร (ตัดหมอออก เพราะต้องการคำตอบเป็นบุคคล)
  • She is a doctor.  หล่อนเป็นหมอ

Do they have a car? พวกเขามีรถใช่ไหม

  •  What do they have?  พวกเขามีอะไร (ตัดรถออกเพราะต้องการคำตอบสิ่งของ)
  • They have a car. พวกเขามีรถ

Does he go to school? เขาไปโรงเรียนใช่ไหม

  • Where does he go? พวกเขาไปที่ไหน (ตัดโรงเรียนออก เพราะต้องการคำตอบสถานที่)
  • He goes to school. เขาไปโรงเรียน

Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม

  •  When should Somchai go to school? สมชายควรจะไปโรงเรียนเมื่อไหร่ (ตัดเดี๋ยวนี้ เพราะต้องการคำตอบที่เป็นเวลา)
  • Shomchai should go to school now. สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้

Should Somchai go to school now? สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ใช่ไหม

  • Why should Somchai go to school now? ทำไม สมชายควรจะไปโรงเรียนเดี๋ยวนี้ (ไม่ตัดอะไรเลย เพราะคำตอบไม่ได้อยู่ในประโยค)
  • Because he will be late. เพราะว่า เขาจะไปสาย

Do they go to school by bus? พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัสใช่ไหม

  • How do they go to school? พวกเขาไปโรงเรียนอย่างไร (ตัดโดยรถบัสออก เพราะคำตอบต้องการวิธีการ)
  • They go to school by bus. พวกเขาไปโรงเรียนโดยรถบัส

สรุปประเด็นที่ต้องจดจำให้ได้

1. การสร้างประโยคคำถาม (yes – no question) จากประโยคบอกเล่า ให้ดูว่ามีกริยาช่วยอยู่หรือเปล่า ถ้ามีให้นำหน้าประโยคได้เลย (แต่ไม่ใช่ทุกตัว) ถ้าไม่มี ให้เอา Do กับ Does มาใช้แทน
2. การสร้างประโยคคำถาม (wh- question) ให้เอา wh-question นำหน้า yes-no question ได้เลย แต่ต้องตัดคำตอบออกด้วย

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.5 / 5. Vote count: 274

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)


ภาษาอังกฤษกับเคลี่ คอร์สภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: ภาษาอังกฤษกับเคลี่ @englishwithkaylee นักเรียนติดตามเพจ 1.2 ล้านคน
INSTAGRAM: KAYLEE WONDER DMD @drkayleewonder

บริจาคที่ www.paypal.me/kayleewonder ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ

ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัสค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีนักเรียนมาเรียนด้วยเยอะแบบนี้ อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงเป๊ะค่ะ ตอนนี้ก็สอนเป็นงานอดิเรกค่ะ เท่าที่มีเวลาว่าง สอนฟรี และไม่มีคอร์สสอนนะคะ แค่ทำงานเป็นหมอฟันครูก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ เรียนฟรีๆก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเงิน ความรู้หาฟรีได้เยอะแยะไป ถ้ามีโอกาสก็อาจจะเปิดคอร์ส แต่ก็คงอีกนานค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันนะคะ

เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)

เรียนรู้เรื่องประโยค – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4


พบสื่อการเรียนการสอนมากมายที่
http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4
เรื่อง เรียนรู้เรื่องประโยค
ถ้าสื่อนี้ดีมีประโยชน์อยากให้ช่วยกดไลค์ หรือ กดติดตามครับ
จะได้มีคนเห็นสื่อการเรียนการสอนนี้มากขึ้น
เพื่อเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย ในการเรียนการสอน
การทบทวน เป็นสื่อการสอน เป็นสื่อการเรียน ถือว่าท่าน
ได้ช่วยสนับสนุนการเรียนการสอนให้เด็กไทย หรือคนที่ยัง
ไม่รู้ว่ามีช่องเผื่อแพร่สื่อเหล่านี้ครับผม
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เรียนรู้เรื่องประโยค - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.4

ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฎิเสธ วิชาภาษาไทย ป.4


บทเรียนออนไลน์กระทรวงศึกษาธิการ

ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม ประโยคปฎิเสธ วิชาภาษาไทย ป.4

DLTV ป 3 ภาษาไทย 2564 7 8 ฝึกแต่งประโยค บอกเล่า คำถาม ปฏิเสธ ขอร้อง คำสั่ง


DLTV ป 3 ภาษาไทย 2564 7 8 ฝึกแต่งประโยค  บอกเล่า คำถาม ปฏิเสธ ขอร้อง คำสั่ง

บทเพลงแห่งประชาธิปไตย – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.5


สื่อการเรียนการสอน วิชา ภาษาไทย ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5
เรื่อง บทเพลงแห่งประชาธิปไตย
สื่อการสอน ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5
ประกอบไปด้วยทั้งหมด 5 กลุ่มสาระวิชา
1. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาไทย
2. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)
3. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์
4. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
5. กลุ่มสาระการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์
ท่านสามารถติดตาม สื่อการเรียนการสอน
\”ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน\” ได้อีกหลายช่องทาง
webpage : http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
twitter : https://goo.gl/yHzunt
ฝากติดตามเพจ channel website ด้วยครับเพื่อพบกับ
สื่อการเรียนการสอน ที่เราอัพเดทให้ใหม่ๆ ตลอดฟรีๆ
สื่อการสอนนี้นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เรียนภาษาไทย สื่อการสอนภาษาไทย ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
เรียนภาษาไทยด้วยตนเอง อ่านออกเขียนได้ คำศัพท์ภาษาไทย สอนภาษาไทย สื่อการสอนป5

บทเพลงแห่งประชาธิปไตย - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.5

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่าง ประโยค ปฏิเสธ ภาษา ไทย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *