horrible แปล-ว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
ฮัลโหลลล สวัสดีค่ะชาว Dek-D ทุกคน คำว่า ‘very’ เป็น adverb (กริยาวิเศษณ์) ที่ดีมากในภาษาอังกฤษ เพราะมันช่วยเพิ่มอรรถรสในการเม้าธ์มอยของเราให้สนุกขึ้น อย่างถ้าเราจะบอกว่ามีความสุขมาก ก็แค่ใส่ very ไปด้านหน้า กลายเป็น very happy ก็ดูแสนจะง่าย แต่ถ้าใช้แบบนี้อาจจะดูน่าเบื่อไปหน่อยค่ะ ยิ่งถ้าน้องๆ นำมาใช้สื่อสารแบบทางการก็ดูไม่โอเคอีก เพราะคำว่า very นั้นเหมาะกับการใช้ในภาษาพูดมากกว่า แล้วแบบนี้ต้องใช้คำไหนล่ะ?
วิธีแก้ปัญหาก็คือ เราควรใช้คำอื่นเพื่อเพิ่มระดับความโปรขึ้นไปอีกขั้นค่ะ วันนี้เลยคัดมาให้ 20 คำที่สามารถใช้แทนคำว่า very ได้ บอกเลยว่าใช้แล้วดูดี มีความเป็นธรรมชาติเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้นอีกด้วย จะมีคำว่าอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
__________
Table of Contents
1. Very Good = Excellent
Excellent (Adj.) ดีเยี่ยม, ดีเลิศ, ยอดเยี่ยม
ตัวอย่างประโยค
- Her car is in
excellent
condition.
รถของเธออยู่ในสภาพดีเยี่ยม - The food was
excellent
.
อาหารรสชาติดีมาก
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Wonderful
แปลว่า วิเศษมาก, มหัศจรรย์
-
Great
แปลว่า เยี่ยมมาก
-
Finest
แปลว่า ดีที่สุด (ขั้นสูงสุดของ Fine นั่นเองค่ะ)
-
Magnificent
แปลว่า ไม่ธรรมดา, อลังการ
-
Exceptional
แปลว่า ยอดเยี่ยม, พิเศษ (ฟีลแบบดีงามจนเป็นข้อยกเว้น)
__________
2. Very Bad = Awful
Awful (Adj.) แย่มาก, น่ากลัว, เลวร้าย
ตัวอย่างประโยค
- She’d been ill and she looked
awful
.
เธอป่วยและเธอดูแย่มาก - The food was
awful
.
อาหารรสชาติแย่มาก (ห่วยมาก)
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Appalling
แปลว่า น่ากลัว (ประมาณว่าทำให้รู้สึกช็อกหรือตกใจอย่างแรง)
-
Atrocious
แปลว่า โหดร้าย, เลวร้าย
-
Ghastly
แปลว่า น่ากลัวมาก (ใช้ในตอนที่กลัวมากจนหน้าซีด หรือน่ากลัวเหมือนภูติผีปีศาจก็ได้ค่ะ)
-
Horrible
แปลว่า น่ากลัว, สยดสยอง
-
Hideous
แปลว่า น่ากลัว, น่าตกใจ
giphy.com
3. Very Funny = Hilarious
Hilarious (Adj.) ตลกขบขัน, สนุกสนานเฮฮา, ร่าเริง
ตัวอย่างประโยค
- I thought it was
hilarious
.
ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องตลก - This is the most
hilarious
comedy on television.
นี่เป็นรายการตลกที่ฮาที่สุดในรายการทีวี
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Entertaining
แปลว่า ซึ่งให้ความเพลิดเพลิน, ซึ่งให้ความสนุกสนาน
-
Humorous
แปลว่า ตลก, ขบขัน
-
Laughable
แปลว่า น่าขำ, น่าหัวเราะ
-
Lively
แปลว่า ร่าเริง, สนุกสนาน
-
Comical
แปลว่า น่าหัวเราะ, ตลก
__________
4. Very Clear = Obvious
Obvious (Adj.) ชัดเจน, ชัดแจ้ง, เด่นชัด
ตัวอย่างประโยค
- There is no
obvious
solution.
ไม่มีทางออกที่ชัดเจน - It’s
obvious
that he doesn’t like me.
เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ชอบฉัน
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Accessible
แปลว่า เข้าถึงได้ง่าย
-
Clear
แปลว่า ชัดเจนแจ่มแจ้ง
-
Conspicuous
แปลว่า ที่เห็นได้ชัดเจน, เด่นจนเตะตา, เป็นที่สนใจ
-
Discernible
แปลว่า ซึ่งมองออก, มองเห็นได้
-
Straightforward
แปลว่า ตรงไปตรงมา, ไม่อ้อมค้อม
giphy.com
5. Very Big = Massive
Massive (Adj.) ใหญ่โต, หนักและแข็งมาก, มหึมา
ตัวอย่างประโยค
- They have a
massive
house.
พวกเขามีบ้านที่ใหญ่โตมาก - Things are going super well. It’s all a
massive
success.
ทุกอย่างกำลังเป็นไปด้วยดี ทั้งหมดนี้เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Enormous
แปลว่า ใหญ่มหึมา
-
Extensive
แปลว่า กว้างใหญ่, กว้างครอบคลุม
-
Huge
แปลว่า ใหญ่โต, มหึมา
-
Gigantic
แปลว่า ใหญ่โตผิดปกติ, มหึมา, มหาศาล
-
Tremendous
แปลว่า ใหญ่โต, ใหญ่มาก (ใหญ่จนน่ากลัว น่าตกใจ)
__________
6. Very Little = Tiny
Tiny (Adj.) เล็กมาก
ตัวอย่างประโยค
- He loves a
tiny
baby dog.
เขารักลูกสุนัขตัวเล็กๆ - Can you just trim a
tiny
bit off my hair?
คุณช่วยเล็มผมออกแค่เล็กน้อยได้ไหมคะ
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Bitty
แปลว่า ชิ้นเล็กๆ , เล็กที่สุด
-
Little
แปลว่า เล็กน้อย, จำนวนเล็กน้อย
-
Mini
แปลว่า เล็กกว่าปกติ, จิ๋วๆ
-
Minimum
แปลว่า จำนวนน้อยที่สุด, ขั้นต่ำ
-
Puny
แปลว่า เล็กและอ่อนแอ, กระจ้อยร่อย, เล็กนิดเดียว
giphy.com
7. Very Stupid = Idiotic
Idiotic (Adj.) โง่,บ้า,ปัญญาอ่อน (คำหยาบ)
ตัวอย่างประโยค
- It’s
idiotic
if you ask me.
มันฟังดูโง่มาก ถ้าคุณถามฉันอะนะ - I don’t want to listen to the
idiotic
stories anymore.
ฉันไม่อยากจะฟังเรื่องเล่าปัญญาอ่อนอีกแล้วนะ
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Crazy
แปลว่า คนบ้า, พิลึก
-
Silly
แปลว่า โง่, ไร้สาระ
-
Dull
แปลว่า น่าเบื่อ, หัวทึบ
-
Foolish
แปลว่า โง่, ไม่มีสมอง
-
Insane
แปลว่า บ้า, ประสาท, วิกลจริต
__________
8. Very Smart = Intelligent
Intelligent (Adj.) ซึ่งมีไหวพริบ, ฉลาด, มีเชาว์ปัญญา
ตัวอย่างประโยค
- He seems like a very
intelligent
young man.
เขาดูเหมือนคนที่ฉลาดมาก - That’s an
intelligent
answer.
นั่นเป็นคำตอบที่ฉลาดมาก
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Clever
แปลว่า เฉลียวฉลาด (มีแสลงคำว่า clever-clogs เอาไว้เรียกคนที่มีความรู้มากค่ะ)
-
Bright
แปลว่า เฉียบแหลม, หลักแหลม, หัวไว
-
Sharp
แปลว่า ฉลาด, เฉียบขาด
-
Brilliant
แปลว่า ฉลาดหลักแหลม
-
Brainy
แปลว่า มีปัญญา, ฉลาดมาก
giphy.com
9. Very Complete = Comprehensive
Comprehensive (Adj.) กว้างขวาง, ครอบคลุม
ตัวอย่างประโยค
- Is this list
comprehensive
or are there some names missing?
ในรายการนี้มีชื่อครบเรียบร้อยแล้วหรือว่ายังมีอะไรขาดไปไหม - He has written a fully
comprehensive
guide.
เขาได้เขียนคู่มือที่ครอบคลุมอย่างครบถ้วน
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Expansive
แปลว่า ซึ่งขยายออกได้, ครอบคลุม
-
Thorough
แปลว่า ถี่ถ้วน, ตลอดทั่วถึง
-
Absolute
แปลว่า ไม่มีขอบเขต, ล้วน
-
Broad
แปลว่า กว้างขวาง, ขยับขยาย
-
Full
แปลว่า เต็ม, สมบูรณ์
__________
10. Very Talented = Gifted
Gifted (Adj.) สามารถ, มีพรสวรรค์, เก่ง
ตัวอย่างประโยค
- I’ve never seen such a
gifted
student.
ฉันยังไม่เคยเจอนักเรียนที่มีพรวรรค์ขนาดนั้นมาก่อนเลย - B: I think she is one of the most
gifted
children on Earth.
ฉันคิดว่าเธอคือเด็กที่มีพรสวรรค์มากที่สุดคนหนึ่งบนโลกนี้เลยแหละ
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Skilled
แปลว่า มีทักษะ, มีฝีมือ, ช่ำชอง
-
Shine at
แปลว่า เก่งในเรื่อง, เชี่ยวชาญใน, ฉลาดในเรื่อง
-
Able
แปลว่า ที่มีทักษะดี, เก่ง, มีฝีมือ
-
Adroit
แปลว่า คล่องแคล่ว
-
Expert
แปล่า ซึ่งเชี่ยวชาญ (ถ้าเป็นคำนามจะแปลว่าผู้เชี่ยวชาญค่ะ)
giphy.com
11. Very Cute = Adorable
Adorable (Adj.) น่าชื่นชม, น่านิยม, น่ารัก
ตัวอย่างประโยค
- I think it’s
adorable
that your parents still hold hands.
ฉันคิดว่ามันน่ารักดีที่พ่อกับแม่เธอยังจับมือกันอยู่ - He was an absolutely
adorable
child.
เขาเป็นเด็กที่น่ารักมาก
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Captivating
แปลว่า ที่มีเสน่ห์
-
Charming
แปลว่า น่าหลงใหล, น่ารัก
-
Delightful
แปลว่า น่าชื่นใจ, น่าตื้นตัน, สดใส
-
Appealing
แปลว่า ดึงดูดความสนใจ
-
Attractive
แปลว่า มีเสน่ห์, มีแรงดึงดูด
__________
12. Very Beautiful = Gorgeous
Gorgeous (Adj.) งดงาม, สวยงาม, หรูหรา, โอ่อ่า, น่ายินดี
ตัวอย่างประโยค
- What a
gorgeous
room! ช่างเป็นห้องที่สวยอะไรขนาดนี้!
- The bride looked
gorgeous
. เจ้าสาวดูงดงามมาก
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Impressive
แปลว่า ประทับใจ, ซาบซึ้งใจ
-
Glorious
แปลว่า รุ่งโรจน์, มีชื่อเสียง, สวยงามมาก
-
Luxurious
แปลว่า หรูหรา, โอ่อ่า
-
Pleasing
แปลว่า เป็นที่พอใจ, เป็นที่ถูกใจ
-
Stunning
แปลว่า สวยเลิศ, ยอดเยี่ยม (สวยจนอึ้งไปเลย)
giphy.com
13. Very Ugly = Hideous
Hideous (Adj.) น่ากลัว, น่าตกใจ, น่าเกลียดมาก, สยดสยอง
ตัวอย่างประโยค
- Today, I will wear the most
hideous
dress you could ever imagine.
วันนี้ฉันจะใส่ชุดที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่คุณจะจินตนาการได้ - The bathroom was absolutely
hideous
!
ห้องน้ำโคตรน่าเกลียดเลย!
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Disgusting
แปลว่า น่ารังเกียจ, น่าอาเจียน, น่าขยะแขยง
-
Dreadful
แปลว่า น่ากลัว, น่าเกลียดน่ากลัว
-
Frightful
แปลว่า น่ากลัว, น่าขนลุก, สยองขวัญ
-
Grim
แปลว่า น่ากลัว, ดุร้าย, ร้ายกาจ
-
Grotesque
แปลว่า พิลึก, วิตถาร, ผิดปกติ
__________
14. Very Quiet = Silent
Silent (Adj.) เงียบ, ไร้เสียง, ไม่ออกเสียง, สงบนิ่ง, ซึ่งถูกลืม
ตัวอย่างประโยค
- I’m putting my phone on
silent
.
ฉันตั้งค่าโทรศัพท์เป็นโหมดปิดเสียง - Just absent and
silent
.
แค่หายตัวไปโดยไม่ต้องพูดอะไรก็พอ
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Hushed
แปลว่า เงียบ, สงบ
-
Mum
แปลว่า นิ่งเงียบ, ไม่พูดไม่จา
-
Mute
แปลว่า ไม่ออกเสียง, ใบ้
-
Reticent
แปลว่า ซึ่งสงบปากสงบคำ, เงียบ
-
Faint
แปลว่า เฉื่อย, เจือจาง, อ่อนกำลัง (คำนี้โดยปกติแปลว่าเป็นลม ฉะนั้นตอนใช้อย่าลืมดูบริบทด้วยนะคะ)
giphy.com
15. Very Angry = Furious
furious (Adj.) เต็มไปด้วยความโกรธ, อารมณ์รุนแรง, รุนแรงมาก, บ้าระห่ำ
ตัวอย่างประโยค
- I was late and he was
furious
with me.
ฉันมาสายและเขาก็โกรธฉันมาก - She was
furious
with me for forgetting to pick her up.
เธอโกรธฉันมากเลย เพราะฉันลืมไปรับเธอ
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Fierce
แปลว่า ดุ, ดุร้าย, ป่าเถื่อน
-
Desperate
แปลว่า เอาเป็นเอาตาย, ไม่คิดชีวิต, รุนแรง
-
Demented
แปลว่า บ้า, วิกลจริต, จิตเสื่อม
-
Frantic
แปลว่า คลั่ง, มีอารมณ์รุนแรง, บ้า
-
Vehement
แปลว่า รุนแรง, เร่าร้อน, ดุเดือด, ฉุนเฉียว
__________
16. Very Careful = Cautious
Cautious ระมัดระวัง, ระวัง, รอบคอบ
ตัวอย่างประโยค
- I’m
cautious
girl. ฉันเป็นผู้หญิงที่รอบคอบค่ะ
- Most doctors are
cautious
about advising you to have surgery.
แพทย์ส่วนใหญ่จะระมัดระวังในการแนะนำให้คุณเข้ารับการผ่าตัด
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Circumspect
แปลว่า รอบคอบ, ระมัดระวัง
-
Discreet
แปลว่า สุขุมรอบคอบ, ระมัดระวัง
-
Judicious
แปลว่า สุขุม, รอบคอบ
-
Watchful
แปลว่า ระมัดระวัง, คอยเฝ้าดู, เพ่งเล็ง
-
Vigilant
แปลว่า ตื่นตัว, เฝ้า, รอบคอบ
giphy.com
17. Very Rich = Wealthy
Wealthy (Adj.) มั่งคั่ง, มากมาย, รวย, อุดมสมบูรณ์
ตัวอย่างประโยค
- Some of our
wealthy
clients pay several thousand a week.
ลูกค้าที่รวยๆ ของเราบางคนจ่ายเงินหลายพันต่อสัปดาห์ - My dad is a very
wealthy
man.
พ่อฉันเป็นคนที่รวยมาก
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Affluent
แปลว่า สมบูรณ์, ร่ำรวย, มั่งคั่ง
-
Moneyed
แปลว่า มีเงิน, รวย
-
Upscale
แปลว่า กว้างขวาง, สมบูรณ์
-
Substantial
แปลว่า มากมาย, ยิ่งใหญ่, มีเนื้อหา
-
Opulent
แปลว่า มั่งคั่ง, อุดมสมบูรณ์, เจริญรุ่งเรือง
__________
18. Very Poor = Destitute
Destitute (Adj.) ยากจน, ขัดสน, ยากไร้, อดอยาก
ตัวอย่างประโยค
- The COVID-19 left thousands of people
destitute
.
โควิดทำให้คนหลายพันคนต้องอดอยาก - His business failures left him
destitute
.
ธุรกิจที่ล้มเหลวทำให้เขาขัดสน
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Broke
แปลว่า ไร้เงิน, ล้มละลาย
-
Penniless
แปลว่า หมดเนื้อหมดตัว, ไร้เงิน
-
Insolvent
แปลว่า ล้มละลาย, หมดตัว
-
Indigent
แปลว่า ยากจน, ไม่พอใช้
-
Needy
แปลว่า ขัดสน, ยากจนมาก
giphy.com
19. Very Slow = Sluggish
Sluggish (Adj.) เฉื่อย, เกียจคร้าน, เอื่อยเฉื่อย
ตัวอย่างประโยค
- We’re all a little
sluggish
today.
พวกเราดูขี้เกียจกันนะวันนี้ - A heavy lunch makes me
sluggish
in the afternoon.
กินอาหารกลางวันเยอะไปทำฉันขี้เกียจในตอนช่วงบ่าย
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Inactive
แปลว่า ไม่มีการใช้งาน, เกียจคร้าน (แบบอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย)
-
Lethargic
แปลว่า เฉื่อยชา, ขาดความกระตือรือร้น
-
Listless
แปลว่า ไม่มีชีวิตชีวา, ไม่ร่าเริง
-
Slack
แปลว่า เฉื่อย, หย่อน
-
Stagnant
แปลว่า นิ่ง, ซึมเซา (อารมณ์หงอยๆ ไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่า)
__________
20. Very Special = Exceptional
Exceptional (Adj.) ผิดปกติ, ผิดธรรมดา, เป็นพิเศษ, เป็นข้อยกเว้น
ตัวอย่างประโยค
- For people with
exceptional
abilities.
สำหรับผู้ที่มีความสามารถพิเศษ - Her leadership style produced
exceptional
results.
ความเป็นผู้นำของเธอสร้างผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม
Synonyms อื่นที่มีความหมายคล้ายกัน
-
Unique
แปลว่า เป็นพิเศษ, โดยเฉพาะ, แตกต่าง
-
Extraordinary
แปลว่า พิเศษ, เกินธรรมดา
-
Odd
แปลว่า แตกต่าง, ต่างจากพวก, แปลก
-
Phenomena
l แปลว่า มหัศจรรย์, พิเศษ, ประหลาด, เด่น
-
Rare
แปลว่า หายาก, พิเศษ, เลิศ
giphy.com
และนี่ก็เป็น 20 คำที่พี่คัดมาให้ในวันนี้ค่ะ ต่อไปนี้ถ้าต้องการพูดว่าฉันรวยมากกก ก็ไม่จำเป็นต้อง I’m very rich. อีกต่อไป ใช้ I’m wealthy. ไปเลยจบๆ ดูดี ดูมีคลังศัพท์เยอะ แถมใช้ได้จริงในข้อสอบด้วย ยังไงน้องๆ ก็อย่าลืมจดและหมั่นขยันท่องและนำไปใช้บ่อยๆ ด้วยนะคะ เพราะการรู้ศัพท์เยอะจะช่วยให้สกิลภาษาน้องๆ พัฒนาขึ้นแน่นอนค่ะ พี่มั่นใจ ^^!
Sources:
[Update] คุณเผาหัวใจเราทั้งเป็น: แปลภาษา อารมณ์ และน้ำตาของราชินีพฤษภาแห่ง Midsommar – postscript. | horrible แปล-ว่า – NATAVIGUIDES
คงเป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่เรายิ้มให้กับฉากจบ
สำหรับคนที่หลงใหลใน ‘ความงดงาม’ ใน ‘ความมืดมนและโกลาหล’ ของมนุษย์สีเทาอย่างเรา ช็อตสุดท้ายของ (2019) งานเริงระบำอาบเลือดกลางฤดูร้อนของ Ari Aster อาริ แอสเตอร์นั้น มาในจังหวะเวลาที่เหมาะสมและถ่ายทอดออกมาได้สวยงามไม่มีที่ติโดยนักแสดงหญิงคนโปรดของเรา (Florence Pugh ฟลอเรนซ์ พิว)
*บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของหนังทั้งหมด
(SPOILER ALERT!)
รอยยิ้มหน้าเปลวเพลิงของ Dani (แดนี่) อาจเป็นจังหวะที่น่าตกใจของหลายคน เป็นอารมณ์ปิติยินดีอันซับซ้อนท่ามกลางบรรยากาศโกลาหลของผู้คนที่กำลังกรีดร้องโอดโอยในเบื้องหลังของเธอ
หาก ‘ความงาม’ ในการยกยิ้มและสายตาสื่ออารมณ์เชิงบวก ที่สวนทางกับ ‘การพังทลาย’ และ ‘ความสูญเสีย’ รอบตัว ซ่อนตัวอยู่ในชั้นเชิง (เลเยอร์) ในอารมณ์ของหญิงสาว ณ จุดๆนั้นของเรื่อง ซึ่งเหตุการณ์ที่ทวีความรุนแรงและวิปริตต่างนำพาเธอมาอยู่หน้ากองไฟนี้
สวมมงกุฎดอกไม้อย่างราชินีที่เธอสมควรเป็นในชีวิต และแสยะยิ้มให้กับกองไฟที่กำลังขจัด ‘ส่วนเกิน’ ที่เคยเกาะกินหัวใจเธอมาตลอด
How Are You Feeling?: วังวนอารมณ์
สิ่งหนึ่งที่เราหลงรักใน คือการ explore ติดตามและดำดิ่งลึกใน ‘อารมณ์’ ของมนุษย์ ซึ่งแปรเปลี่ยนและยุ่งเหยิงในเวลาเดียวกันเมื่อขึ้นอยู่กับบริบท สิ่งแวดล้อม และสิ่งปลุกเร้าที่เจ้าตัวกำลังเผชิญอยู่
บางครั้ง(หรือส่วนใหญ่?) เราหลงรักงานศิลปะ เพลง ตัวศิลปิน หรือหนังเพราะ ‘ความชอบ’ และ ‘ความหลงใหล’ ในสิ่งที่ ‘สัมผัส’ (touch) หรือ ‘กระตุ้น’ ความรู้สึกแรงกล้าในตัวเรา ถึงจะเป็นมนุษย์ผู้สันโดษแค่ไหน ก็ยังไม่วานเสาะหา และใช้เวลาไปกับสิ่งเหล่านั้น ถึงคนรอบข้างจะไม่เข้าใจดีกรีความลึกล้ำหรือ ‘ตัวตน’ / nature ของความชอบเรา
ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศร้า รูปวาดที่น่าสะพรึงอย่าง (1893) ของ Edvard Munch หรือหนังสยองขวัญสั่นประสาทถึงขั้วหัวใจ เราต่างมองหา ‘ความเชื่อมโยง’ การที่จะ ‘เป็นส่วนหนึ่ง’ / identify with งานศิลปะ และยึดติด ยึดมั่นอยู่กับความชอบเพราะศิลปินเขา ‘เข้าถึง’ อารมณ์ที่เรารู้สึก และมองเห็นถึง ‘ความงดงาม’ ใน ‘ความบิดเบี้ยว’ นั้น
เราตกหลุมรักโปสเตอร์ของ เหมือนที่เรารักความรวดร้าวที่สวยงามของ (2017) หรือความเจ็บปวดเพราะความเพอร์เฟคจาก (2017)
แดนี่กำลังร้องไห้ด้วยสายตาหวาดกลัวและสับสน ปากเธอเผยอน้อยๆ แสดงถึงการเก็บงำทางอารมณ์ จังหวะเริ่มต้นของการเสียน้ำตาหยดหนึ่งขณะกำลังอดกลั้น hold back การกรีดร้องหรือสะอื้นออกมาให้เต็มที่ และเพราะ ‘สายตาอันทรมาน’ ของแดนี่เป็นสิ่งที่เด่นชัดที่สุด โปสเตอร์จึงเหมือนจงใจ ‘ยัดเยียด’ ความอัดอั้นที่แสนน่าอึดอัดต่อผู้มองเห็น อารมณ์หนักหน่วงในด้านซ้ายของโปสเตอร์กลับแย้งกับความสว่างสดใสในมงกุฏดอกไม้ที่บานสะพรั่ง
เป็นโปสเตอร์ที่จับอารมณ์ของหนังได้อย่างฉลาดและจัดฉากเตือนผู้ชมแล้วว่ากำลังพาตัวเองเข้าไปเจออะไร
สีหน้าและสายตาของแดนี่บนโปสเตอร์ทำให้เรานึกถึงรูปปั้นกรีก เหมือนกำลังมองการ ‘จับ’ ฉากอารมณ์ที่เข้มข้นแช่แข็งไว้กับกาลเวลา ซึ่งน่าแปลกที่อารมณ์หวาดกลัวของคนที่กำลังดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นอะไรสักอย่างกลับกลายเป็นศิลปะที่ละเอียด น่าพินิจเฝ้าดู
รูปปั้น
ในหัวเราคือ
ผู้กำลังยืดยุดชีวิตตัวเองจากงูพิษ หลังโดนสั่งฆ่าเพราะไปเตือนชาวทรอยไม่ให้รับม้าไม้จากชาวกรีกในช่วงท้ายของสงครามกรุงทรอย (ปัจจุบันแสดงอยู่ที่นครวาติกัน)
ทั้งเรื่องเปรียบเสมือน ‘การครอบงำทางอารมณ์ – emotional hijacking’ ผู้ชม ด้วยเทคนิคลายเซ็นของอาริ แอสเตอร์ ทั้งความตึงเครียดระหว่างกลุ่มคนเล็กๆที่สัมผัสได้ และทวี build-up อารมณ์เครียดและมึนงงขณะจิตกำลังหน่วง ด้วยการปล่อยผู้ชมหลงทางในความรู้สึกที่ไม่อาจระบุเจาะจงสาเหตุได้ถูก การจงใจ ‘แช่’ กล้องไว้ ณ ช็อตต่างๆที่จะฝังตา ฝังใจ และตามหลอกหลอนความรู้สึกในแง่มืดมนที่ยากจะอธิบาย และการจงใจจัดฉากให้นักแสดงชาวหมู่บ้านยิ้มแย้มอย่างหลอกๆ สื่อมิตรไมตรีอย่างคนในท้องทุ่งที่ไม่จริงใจนัก
(ก็เขาบอกแล้วว่า หลอกกันได้ กลางวันแสกๆ!)
ฉากรวม ‘run-through’ แสดงหลายช็อตน่าสะพรึง (ที่เราคาดเดามาแล้วว่าต้องมี) ขณะแดนี่กำลังเมายาทำให้เรานึกถึงฉากสไตล์เดียวกัน (แต่โหดและรัวเร็วกว่าด้วยจำนวนช็อตที่ถี่ขึ้น) ใน (2018)
หนึ่ง ‘ลางบอกเหตุ / Foreshadowing device’ ของเหตุการณ์ในหนังคือหนังสือที่จอช (William Jackson Harper วิลเลียม แจ็คสัน ฮาร์เปอร์) กำลังอ่านในรถขณะเดินทางไปยังฮาร์กา
จากบทต้นฉบับของอาริ แอสเตอร์ (2017)
ที่จอชกำลังอ่าน เป็น
ที่จอชกำลังอ่าน เป็น วรรณกรรม พื้นบ้านของไอซ์แลนด์ (ประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย แถวเดียวกับสวีเดน) เขียนในปี (1000 – 1300 C.E. – Christian Era หรือสากลศักราช) ตัววรรณกรรม Eddas เป็นแหล่งหลักของความรู้เกี่ยวกับความเชื่อโบราณของ ‘คนนอกศาสนา’ ชาวนอร์ส (ancient Norse pagan beliefs) โดยบทกลอน Eddas เป็นโศกนาฎกรรมที่กล่าวถึง ‘สภาวะทางอารมณ์ – emotional state’ ของตัวละครหลัก บรรดาทวยเทพ และวีรบุรุษต่างๆ อย่างละเอียดชัดแจ้ง
และอาริ แอสเตอร์ก็กำลังทำสิ่งเดียวกัน: พาผู้ชมดำดิ่งเข้าไปสู่ ‘สภาวะทางอารมณ์’ ของตัวละครหลักของเขา ณ หมู่บ้านของ ‘คนนอกศาสนา’ ชาวนอร์ส
กลุ่ม ‘คนนอกศาสนา’ ในฮาร์กาก็ยังมี ‘ภาษาลับๆ’ เป็นของตัวเอง ซึ่งเป็นภาษาแรกที่ชาวบ้านเรียนแต่เกิด
บทสนทนาในฉากที่ถูกตัดระหว่างแดนี่และเพเล่
(เช่นคำว่า affection / affectionate ที่หมายถึงความรักและการแสดงออกว่ารักใคร่อย่างไรละ)
เป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนและพัฒนาในตัวเองขึ้นตามกาลเวลา (evolve) เห็นได้จากคัมภีร์ Rupi Radr รูบิ ระเดียร์ในหนัง หรือ ‘ชีทดนตรีแห่งอารมณ์ – emotional sheet music’ ที่หนึ่งอักษรหมายถึงหนึ่งใน 16 อารมณ์ และถูกเขียนขึ้นโดย Ruben รูเบน คนพิการในหมู่บ้าน (เราแทบจะมองไปถึงการละเลงสีบนหน้ากระดาษของรูเบนตามอารมณ์เพียวๆได้ซ้ำ แต่ตรงนี้หนังยังไม่โฟกัสเท่าไหร่)
สมาคมจิตวิทยาแห่งอเมริกา American Psychological Association ( APA ) นิยาม Affect ว่า: ประสบการณ์ใดๆของความรู้สึกหรืออารมณ์ และ Affect ในเป็นภาษาที่ละเอียดอ่อนและพัฒนาในตัวเองขึ้นตามกาลเวลา (evolve) เห็นได้จากคัมภีร์ Rupi Radr รูบิ ระเดียร์ในหนัง หรือ ‘ชีทดนตรีแห่งอารมณ์ – emotional sheet music’ ที่หนึ่งอักษรหมายถึงหนึ่งใน 16 อารมณ์ และถูกเขียนขึ้นโดย Ruben รูเบน คนพิการในหมู่บ้าน (เราแทบจะมองไปถึงการละเลงสีบนหน้ากระดาษของรูเบนตามอารมณ์เพียวๆได้ซ้ำ แต่ตรงนี้หนังยังไม่โฟกัสเท่าไหร่)
สื่ออีกแง่ของ ‘ภาษาอารมณ์’ โดยการทลายกำแพงขวางกั้นของคนๆหนึ่งและกระตุ้นให้เขาเปิดรับต่อสิ่งปลุกเร้า (‘Breaks down your defenses and opens you for the influence.’) คำอธิบายที่หญิงคนหนึ่งให้แก่คริสเตียน แฟนหนุ่มของแดนี่ ขณะยื่นแก้ว ‘น้ำยา’ ให้เขา
การปลุกเร้าเปิดฉากการร่วมรักที่แปลกประหลาดและวิปริตที่สุดจากหนังที่เคยดูมา การจัดฉากอย่างมีพิธีรีตองเปลี่ยน ‘บทสนทนาส่วนตัว’ ระหว่างร่างกายสองคน เป็น ‘กิจกรรมหมู่’ ในการร่วมใจร่วมแรงเฝ้าดู ร้องเพลง และคอยผลักดันการ ‘สร้างเด็ก’ ในท้องของ Maja มายา
ที่น่าสนใจที่สุดคืือ ‘การหายใจ’ พร้อมกันของเหล่าผู้หญิงผู้รายล้อมคนทั้งสอง ซึ่งสื่อถึงความเป็น ‘กลุ่มก้อน’ ของชุมชน ที่แสดงอารมณ์ไปพร้อมกัน แม้กระทั่งการขับลมหายใจ(ที่หมายถึงแรงขับเคลื่อนชีวิต หรือการมีชีวิต) ในระหว่างหนึ่งการกิจกรรมที่(ควร)เป็นส่วนตัวมากที่สุดและเป็นการกระทำเพื่อสร้างชีวิตตามสัญชาตญาณดิบพื้นฐานของมนุษย์
*พอค้นหาความหมายของมายาแล้วก็แอบยิ้ม เป็นอะไรที่ฉลาดและตรงจังหวะอีกแล้ว
Maja เป็นชื่อที่เป็นนิยมในยุโรป ทั้งสแกนดิเนเวียและเยอรมันนี
Maja แปรมาจาก Maia มายอา หนึ่งในลูกสาวของแอตลาสในตำนานกรีก ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของชื่อเดือนพฤษภาคม (May) บางครั้งแปลได้ว่า ‘แม่ตัวน้อย – Little Mother’ และอาจแปลสไตล์นอร์ดิกว่า เป็นชื่อเล่นของ Maria มาเรีย, Mary แมรี่ หรือ Magdalena แม็กดาลีน่า
และแน่นอนว่าคนที่จะ ‘ให้ชีวิต’ แรกแก่มายา หรือแมรี่ ก็คือ ‘คริสเตียน’ ในการร่วมรักนอกศาสนา เพราะตามไบเบิ้ลแล้ว พระแม่มารีเป็นสาวพรหมจรรย์นั่นเอง
Does he feel like home?: หลอกกันว่าฉันรักเธอ
นวนิยาย นิยาม ‘ความใกล้ชิด’ ระหว่างคนสองคนไว้ว่า:
มองเผินๆแล้วคล้ายแดนี่หลงอยู่ในเขาวงกตที่ไร้ทางออกในตอนเปิดเรื่อง เธอไม่กล้าย่างเดินไปทางใดทางหนึ่ง เพราะกลัวผลที่จะตามมา กลัวว่าจะถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวคนเดียวหาก ‘เท’ ความรู้สึกหนักอึ้งและปัญหาทั้งหมดของเธอลงกับแฟนหนุ่ม
ที่จริงแล้ว ความสัมพันธ์ควรเป็น ‘ที่ปลอดภัย’ ที่ทั้งสองฝ่ายควรมีโอกาสคุยกันถึงสิ่งต่างๆในใจ ตกลง เรียนรู้ และเข้าใจกันแต่เนิ่นๆ (ซึ่งเป็นความหมายแท้ๆ ของการ ‘คบหาดูใจ’) ว่าพื้นฐานของคนที่เรากำลังคบอยู่เป็นอย่างไร คนอีกคนในความสัมพันธ์ และเราจะเติมเต็มเขาตรงนั้นได้ไหม จะเป็นฝ่ายที่ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้นมากกว่าอยู่คนเดียวไหม
หากคนๆนั้นเปรียบเสมือน ‘บ้าน’ ของเรา ในทางที่ความสัมพันธ์เป็นการให้-รับเท่าๆกัน เราก็ควรเป็นบ้านที่พักพิงให้เขาด้วย
เราชอบความเห็นในบทวิจารณ์หนึ่งเกี่ยวกับ : ไม่ไร้เหตุผลหรอกที่จะก้าวเดินออกจากความสัมพันธ์ที่เรารู้สึกได้ว่าการเติมเต็มและ/หรือใกล้ชิดกับอีกคนกำลังกินพลังงานมากเกินกว่าที่เรามีให้และเราพอจะรับไหว
คริสเตียนเองขี้ขลาดเกินที่จะบอกหรือเผชิญหน้าคุยกับแดนี่ตรงๆ เขาปล่อยให้อีกฝ่ายคิดวิตกกังวลว่าเป็นความผิดของเธอที่เจ้าปัญหาและอ่อนแอ ทั้งที่ลึกๆแล้วเขาเองอยากที่จะเริ่มใหม่ (สังเกตสายตาเขาที่มองตามพนักงานเสริฟ์หญิงคนนั้นสิ) และอาศัยวิธี gaslighting เอาตัวรอดอย่างเห็นแก่ตัวในความสัมพันธ์ เพื่อให้อีกฝ่ายจำนนต่อเขา รู้สึกดีที่มีเขาในชีวิตและโทษตัวเองอยู่ร่ำไป
gaslighting เป็น ‘การหลอก’ อีกฝ่ายในความสัมพันธ์โดยใช้เทคนิคการควบคุมทางจิตวิทยา – psychological manipulation (ส่วนใหญ่มักจะเป็นฝ่ายชายกระทำต่อฝ่ายหญิง) ในความสัมพันธ์แง่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดแค่เชิงชู้สาว
gaslighting เป็นคำจากละครเวทีปี 1938 และหนังในปี 1940 เกี่ยวกับสามีผู้จงใจปั่นหัวภรรยาด้วยการหรี่ไฟที่มาจากแก๊สในบ้านของพวกเขา และยืนกรานปฎิเสธภรรยาเมื่อนางชี้ให้เห็นว่าแสงไฟมืดลง
โดยใน คริสเตีียน ‘ต้อน’ แดนี่ในบทสนทนาเปิดเรื่อง เขาพยายามอธิบายและนิยาม ‘ความเป็นไป’ ของน้องสาวแดนี่
คริสเตียนแสดงสัญญาณหลักๆของ gaslighting ในบทสนทนาสั้นๆ
1. ทำเหมือนเรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก (Trivializing) – ผู้ชมรับรู้ถึงอารมณ์กระวนกระวายของแดนี่ และการส่งอีเมล์ไปสามครั้งถึงน้องสาวที่ไม่ยอมตอบก็ไม่ใช่เรื่องเล็ก หากคริสเตียนกลับกล่าว: “I’m sure it’s fine – คงไม่มีอะไรน่า” ได้หน้าตาเฉย และไม่ใช่ในแง่การปลอบโยน เขายังพูดเสริมว่า “She does this every other day, Dani – เธอทำยังงี้ทุกวันสองวันแหละแดนี่” เหมือนพยายามบอกแดนี่ว่าเรื่องที่เธอกำลังทุกข์ร้อนอยู่นั้นปกติมากมาย
2. เลี่ยงปัญหา (Diverting) – คริสเตียนกำลังโทษแดนี่ทางอ้อมที่เธอวิตกอยู่ คล้ายจะบอกว่าเธอน่ะ วิตกมากเกินไป เขาตะล่อมเธอด้วยประโยค “…but you do, though, babe. You go straight to crisis mode. แต่เธอเป็นนะ ที่รัก เธอดิ่งไปโหมดปัญหาทันทีเลย” ซึ่งเป็นเทคนิคทำให้อีกฝ่ายสับสนและเกิดไม่แน่ใจใน ‘ความจริง’ ของความรู้สึกตัวเองเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังวิตกอยู่
3. ถามซ้ำซาก (Repetitive Questioning) – ทั้งๆที่รู้ว่าประโยคในอีเมล์สุดท้ายของน้องสาวแดนี่น่ากังวลแค่ไหน (ผู้ชมที่เพิ่งรับรู้สถานการณ์ก็ยังมองว่ามีอะไรน่ากลัวเกิดขึ้นกับน้องสาวแดนี่แน่ๆ) เขายังถามแดนี่ซ้ำว่า “Okay, but is it, though? – โอเค แต่ใช่จริงหรอ” แล้วโยงปัญหานี้เข้ากับ panic attack อื่นๆที่เคยเกิด ทำให้แดนี่ไขว้เขวหนักขึ้นไปอีก
และถึงตัวบทอธิบายว่าแดนี่อยากจะเถียงคริสเตียน เธอก็ไม่อยากทะเลาะและสุดท้ายก็ได้แต่พูดซ้ำๆว่าเขาถูกๆ ซึ่งเป็นการ ‘ถูกกด’ ในบท ‘เหยื่อ’ ของ gaslighting โดยสมบูรณ์
และพอทะเลาะกันหลังรู้ว่าคริสเตียนแอบซ่อนเรื่องไปสวีเดนจากแดนี่ เขาก็แสดงสัญญาณอีกข้อของ gaslighting
4. ปิดตัวเอง (Witholding) – เมื่ออีกฝ่ายแสร้งว่าไม่เข้าใจหรือไม่ยอมฟังท่าเดียว เมื่อจนมุม กล่าวขอโทษ และเถียงแดนี่ไม่ได้ และไม่มีแรงจูงใจหรือความอยากที่จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น (เพราะเขารู้สึกว่า ‘เหนื่อย’ กับผู้หญิงคนนี้มากพอแล้ว) คริสเตียนได้แต่พูดซ้ำๆอย่างหนีปัญหาว่า “Maybe I should just go home – ผมควรจะกลับบ้าน” และยืนกรานว่า ‘ก็พยายามขอโทษแล้ว’ จนทำให้แดนี่ไม่รู้จะทำอย่างไร และขอโทษแทนเขาอีก ทั้งๆที่เขาเป็นฝ่ายผิด และไม่ยอมเปิดเผยพูดตรงๆกับเธอเรื่องเหตุผลที่เขาซ่อนทริปไปสวีเดน
การขอโทษไม่ใช่ทางลัดที่จะปิดรอยรั่ว จบปัญหาง่ายๆแล้วปลีกตัวออกไป ประสบการณ์และปัญหาที่ผ่านมากับคนรอบข้างสอนเราว่าถึงจะยอมรับผิดและขอโทษแล้ว เราควรจะพูดตรงๆกับอีกฝ่าย สารภาพว่าเราตระหนักถึงความผิดนี้ ว่าเราทำผิดไปทำไม มีเหตุผลอะไร และเผชิญหน้ากับปัญหาตรงหน้าโดยตรง
แต่นั่นแหละ ในความสัมพันธ์ เราเชื่อความคำว่า ‘รัก’ ที่แท้จริง (ไม่ใช่ ‘รัก’ จอมปลอมเพียงลมปากของคริสเตียน หรือจากแดนี่ ผู้ไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่เธอประสบอยู่นั้นไม่ใช่ความรักอีกต่อไป) จะทำให้เราพังทลายกำแพงทิฐิ ยอมคุยกับคนที่เรารักดีๆ ตรงๆ ต่อหน้าเขา อย่างที่เราคงจะทำไม่ได้กับคนอื่น เพียงเพราะเรารักคนๆนี้จริงๆ
gaslighting ทำให้แดนี่สงสัยตัวเองอยู่ซ้ำๆ เห็นการขอโทษคริสเตียนเป็นเรื่องปกติ และมักแก้ตัวแทนคริสเตียนให้เพื่อนๆฟังอยู่เสมอ เธอรู้สึกๆว่าอะไรสักอย่าง ‘ไม่ถูกต้อง’ แต่ไม่สามารถอธิบายได้ และสงสัยในตัวเองว่า ‘เป็นตัวถ่วง’ ของคริสเตียน เป็น ‘แฟน’ ที่ไม่ดีพอสำหรับเขา
Jack Reynor แจ็ค เรย์นัว ผู้รับบทคริสเตียน ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเล่นฉากที่คริสเตียนกำลังเมาด้วยฤทธิ์ยาก่อนร่วมรักกับมายาว่าเป็นครั้งแรกที่คริสเตียนเริ่ม ‘รู้ตัว’ จริงๆว่าเขาทำอะไรลงไปกับแดนี่ จากสายตาที่เขามองเธอ จ้องเธอจริงๆ และเริ่มรู้สึกผิด ที่เขาเป็นคน ‘insensitive – ไร้ความเห็นใจต่อแดนี่’ เขาไม่ตัดสินใจเด็ดขาด ยอมตั้งใจลงแรงกับความสัมพันธ์ หรือเลิกกับแดนี่ไปแต่แรก แม้ก่อนจะเกิดโศกนาฎกรรมในชีวิตเธอ
แจ็คให้ความเห็นว่า ถึงโศกนาฎกรรมไม่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างแดนี่กับคริิสเตียนนั้นทั้งแตกหัก เป็นพิษและอาศัยการพึ่งพากันและกัน (broken, toxic, co-dependent) ซึ่งทั้งสองคงจะเลิกกัน ไม่ช้าก็เร็ว
ส่วนหนึ่งของฉากที่ตัดออกจากบทต้นฉบับของอาริ แอสเตอร์ เป็นบทสนทนาระหว่างผู้เฒ่าร่างอวบคนหนึ่งกับคอนนี่ ที่เราอ่านแล้วขนลุกขึ้นมา
Horrible and Beautiful: งดงามในความเลวร้าย
ครึ่งแรกของบท มักกล่าวถึงอากัปกริยาของแดนี่เสมือนเธอเป็นนักโทษในผิวของตัวเอง (a prisoner in her own skin)
อาริ แอสเตอร์กำลังพยายามสื่อถึงความรู้สึกของแดนี่ที่ยัง ‘ไม่เป็นตัวเอง’ รู้สึกอึดอัดกับตัวเองและสิ่งที่เป็น ความคิด อารมณ์และความรู้สึกทุกอย่างที่เธอเก็บงำไว้ภายในไม่ให้เล็ดลอดออกมา ถึงกับต้องวิ่งไปสะอื้นอยู่คนเดียวหลายครั้ง
จนกระทั่ง ‘การสะอื้นหมู่’ ของเธอปลายเรื่อง ที่แดนี่ได้ปลดปล่อยเต็มที่และพร้อมๆกับหญิงชาวบ้านคนอื่นๆ
บทอธิบายถึง ‘การปลดปล่อย’ อารมณ์ทั้งหมดของแดนี่ที่เคยเก็บกักราวยัดใส่ขวดแก้วไว้ อารมณ์ทั้งหมดที่เธอเหนื่อยล้าอดกลั้นไม่ปล่อยออกมา ผู้หญิงทุกคนในวงนั้นเชื่อมโยงกันด้วยความเห็นอกเห็นใจ อาริ แอสเตอร์นิยามฉากว่า “It’s remarkable, and very unsettling – มันช่างโดดเด่นเป็นพิเศษ และน่าตื่นตระหนกเอามากๆ”
และเมื่อการร้องไห้ต่อๆกันกลายเป็นเหมือนโรคติดต่อ อาริ แอสเตอร์อธิบายกลุ่มหญิงสาวร้องไห้ตีโพยตีพายว่าดูคล้ายการกระทำของชนเผ่า (tribal) อย่างแท้จริง
จากส่วนหนึ่งของวงกลมเพื่อช่วงชิงตำแหน่งราชินีพฤษภาคม แดนี่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของ ‘วงกลม’ กลุ่มชนในหมู่บ้านที่ๆทุกอย่างติดต่อเชื่อมโยงกันไปหมด และผสานเป็นหนึ่งกับธรรมชาติเหมือนคำของเพเล่:
และการ ‘ปลดปล่อย’ ของแดนี่ ทำให้เรานึกถึงฉากใน (2010) ที่การแสดงของ Andrew Garfield แอนดริว การ์ฟิลด์ยังติดตาและฝังในความรู้สึกตั้งแต่ครั้งแรกที่ดู ถึงตอนนี้
ในฉาก ตัวละครทอมมี่ที่เล่นโดยแอนดริว เพิ่งรับรู้ความจริงบางอย่างที่ทำให้เขาทนไม่ได้ จนต้องทิ้งตัวลงกรีดร้อง ราวกับปล่อยอารมณ์ทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ออกมา เป็นภาพแห่ง ‘การระเบิด’ ของอารมณ์เมื่อถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางที่ค้นหาคำตอบมาตลอด ซึ่งสวยงามในความหดหู่ของมัน พอๆกับวลีที่อาริ แอสเตอร์ใช้นิยามฉากจบของ :
xxxxxx
ปล. ตัวแจ็ค เรย์นัว (พระเอก) เป็นคอหนังตัวยงและเปิดไอจีพูดคุยเรื่องหนังที่ชอบหลายเรื่อง เห็นทีต้องตามไปดูซะแล้ว 🙂
ปล 2. ทาง A24 โปรโมตหนัง(ในตอนนั้น)แบบสร้างสรรค์อีกแล้ว โดยออก โปสเตอร์ เทศกาลดนตรีหน้าร้อนเลียนแบบ Coachella โคเชลล่า ที่แอลเอเป๊ะๆ ลองอ่านชื่อวงต่างๆดูแล้วคุณจะยิ้มตาม
ขอบคุณที่สนใจอ่านนะคะ <3
คิดเห็น ชอบไม่ชอบยังไง รบกวนกดด้านล่างให้เรารู้ จะได้ปรับปรุงบทความต่อๆไปให้ดีขึ้นค่ะ
ติชม พูดคุยกับเราทางเม้นท์ข้างล่างได้เสมอ
หรือจะแวะมาทาง twitter: @cineflectionsx
หากชอบบทความ ฝากเพจ FB ด้วยนะคะ เราจะมาอัพเดทความคิด บทเรียน และเรื่องราวจากหนังที่ชอบทั้งเก่าและใหม่เรื่อยๆค่ะ
x
ข้าวเอง.
awful ออกเสียงว่า แปลว่า อะไร แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย By ENCONCEPT Dictionary
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม
Awesome ไม่ได้แปลว่า\”น่ากลัว\”แล้วเฟร้ย | Tina Academy Ep.121
♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ดูตัวอย่างหนังสือเสียง https://www.tinaacademy.com/listenup
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
Were กับ Was ใช้ต่างกันอย่างไร
สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching
คลิปสุดท้ายของแมว 200,000 บาท? [update]
ขอแนะนำสำหรับคนจะซื้อแมวนะครับ ถามทางร้านให้ดีก่อนซื้อเลย ว่าการันตีโรคต่างๆด้วยมั้ย เช่น FIP, FIV, FELV, โรคหัวใจต่างๆภานในระยะเวลากี่เดือน เพราะเอสเมอร์นี่ค่าตัวสินสอด ตั้งเกือบ 200,000บาท แต่น้องเป็นโรคเยอะมากๆตั้งแต่เด็ก อายุแค่ 4เดือนกว่าเอง ซึ่งทางโรงพยาบาลสัตว์หลายๆทีก็แนะนำเหมือนกันว่าควรตรวจให้ดีก่อนรับน้องมาเลี้ยงครับ เพราะของแพงไม่ได้การันตีว่าฟาร์มจะคลอดแมวที่พิเศษกว่า หรือปลอดโรคได้นะครับ มันขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยครับ..
SEE ME MORE HERE:
Oppa
ʕ•̮͡•ʔ Instagram : https://www.instagram.com/oppathuchy
ʕ•̮͡•ʔ Fanpage : https://www.facebook.com/oppathuchy
ʕ•̮͡•ʔ Facebook : https://www.facebook.com/thuchyhandsomeandcool
ʕ•̮͡•ʔ Twitter: https://twitter.com/oppathuchy
Ajumma
ʕᴥ• ʔ Instagram : https://www.instagram.com/namnung.p
ʕᴥ• ʔ Fanpage : https://www.facebook.com/ajummanammy
ʕᴥ• ʔ Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100009197442657
ʕᴥ• ʔ Twitter: https://twitter.com/ajummanammy
♡\”OCHYMY FOREVER\”♡
ติดต่อโฆษณา หรือ Sponsor ได้ทาง
Email: [email protected]
Line: @OppaThuchyManager
Esmer OppaThuchy อ้ปป้าทัชชี่
Get, Got ใช้อย่างไร
สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN TO MAKE A WEBSITE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ horrible แปล-ว่า