Skip to content
Home » [NEW] | พบเจอ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] | พบเจอ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

พบเจอ ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

การนัดหมาย (Making Appointments)

  • I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)

  • Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)

  • Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)

  • Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)

  • Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)

  • Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)

 

นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)

  • Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)

  • Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)

  • How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)

  • Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)

  • When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)

  • Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)

  • Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)

  • What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)

  • Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)

  • Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)

  • What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)

  • Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)

  • Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)

  • Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)

  • I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)

 

การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)

  • I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)

  • I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)

  • I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)

  • I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)

  • I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)

  • I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)

  • I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)

 

ตัวอย่างที่ 1 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

A        :         Good morning. I would like to make an appointment to see Mr. Smith. (สวัสดีครับ ผมอยากจะขอนัดพบคุณสมิธ)

B        :         When do you want to see him? (คุณต้องการพบเขาเมื่อไรครับ)

A        :         Is Friday at 9.00 a.m. convenient for him? (วันศุกร์ 9 โมงเช้าสะดวกสำหรับเขาไหมครับ)

B        :         Let me see first …. OK. Your appointment will be Friday at 9.00 a.m. (ผมขอดูก่อนนะ …. ตกลงครับ การนัดหมายของคุณคือ วันศุกร์ 9 โมง)

A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

 

ตัวอย่างที่ 2 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

(A = Somsri , B = Somchai)

A        :         Good morning, may I speak to khun Somchai, please? (สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับคุณสมชาย ครับ)

B        :         Hello, this is Somchai speaking. (สวัสดีครับ ผมสมชายพูดครับ)

A        :         This is Somsri, Mr. Somkiat’s secretary. He would like to make an appointment with you sometime next week. (ดิฉัน สมศรีค่ะ เป็นเลขานุการของคุณสมเกียรติ คุณสมเกียรติต้องการนัดพบคุณสัปดาห์หน้าค่ะ)

B        :         On what business he has with me? (เขาต้องการพบผมในเรื่องธุรกิจอะไรครับ)

A        :         He has a new proposal to present to you. (เขามีข้อเสนอใหม่ที่จะนำเสนอคุณค่ะ)

B        :         Certainly. I’m available on Tuesday from 10 to 12 in the morning. Could he come to see me at my office by that time? (ได้สิ ผมว่างวันอังคาร ตั้งแต่ 10-12 โมงเช้า เขาจะมาพบที่ออฟฟิตผมได้ไหมล่ะ)

A        :         Yes, he can. Thank you sir. (ได้ค่ะ เขาไปได้ ขอบคุณมากค่ะ)

B        :         OK. Bye. (ตกลงนะ สวัสดี)

[NEW] Way to say: คำและสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้ในการทักทาย | พบเจอ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

การทักทาย เป็นคำแรก ๆ ในการเรียนภาษาต่าง ๆ อีกทั้งยังพบเจอได้บ่อยในข้อสอบภาษาอังกฤษรวมถึงข้อสอบวัดระดับทางภาษา ในภาษาอังกฤษมีคำและสำนวนที่ใช้ในการทักทายหลายคำและสำนวน โดยแยกระดับการใช้ที่ทุกคนต้องรู้ เพื่อประโยชน์ในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันและสอบต่าง ๆ โดยเฉพาะการวัดระดับทางภาษา CEFR Level A1 ที่ต้องสามารถสื่อสารการทักทายเบื้องต้นได้

Formal Greetings คำทักทายอย่างเป็นทางการ

การใช้ภาษาอย่างเป็นทางการบ่งบอกถึงความสุภาพและความเป็นมืออาชีพ โดยสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้คำอย่างเป็นทางการ เช่น การแสดงความเคารพต่อผู้สูงวัยกว่า, การสนทนากับคนที่เพิ่งรู้จัก, การสัมภาษณ์งาน, การประชุม, การสื่อสารกับผู้บริหารระดับสูง, การสนทนากับลูกค้า

Good morning / Good afternoon / Good evening

สามคำทักทายพื้นฐานที่รู้จักกันมาตั้งแต่เริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ใช้ในการทักทายแต่ละช่วงเวลา ดังนี้
Good morning    ทักทายได้ตั้งแต่ช่วงเช้าถึงก่อนเที่ยง
Good afternoon   ทักตั้งแต่เที่ยงถึงช่วงหกโมงเย็น
Good evening     ทักตั้งแต่ช่วงหกโมงเย็นถึงช่วงค่ำ

เพื่อแสดงความเคารพ สามารถใส่ชื่อของผู้ที่เราทักทายตามท้ายคำกล่าวทักทายได้ เช่น Good morning, Mr. Somchai, Good afternoon, Jenny
หรือหากทักทายบุคคลที่ไม่ทราบชื่อจะใช้ sir/madam ต่อท้ายคำทักทาย เช่น Good morning, sir/madam

ข้อควรจำ : Goodnight ไม่นับว่าเป็นคำทักทาย แต่ในการสื่อสารอย่างเป็นทางการจะใช้เป็นคำกล่าวลา เช่น Goodnight! See you tomorrow.

How do you do?

เป็นวลีที่มีความเป็นทางการอย่างมาก ใช้กับคนที่พบเจอกันครั้งแรก โดยผู้ที่ถูกทักทายจะตอบกลับมาว่า How do you do? เช่นกัน

Nice to meet you / Pleased to meet you

เป็นวลีสุภาพที่ใช้ตอบกลับในการทักทายสำหรับคนที่พบเจอกันครั้งแรก โดยปกติเมื่อพบกันตามธรรมเนียมตะวันตกจะจับมือกัน (shake hands) ประมาณสองถึงสามวินาทีพร้อมกับพูดว่า Nice to meet you / Pleased to meet you (ยินดีที่ได้พบคุณ)

How have you been?

เรารู้จัก How are you? (คุณเป็นอย่างไรบ้าง) กันดี แต่ถ้าอยากให้สุภาพมากยิ่งขึ้นจะใช้ How have you been? โดยใช้ทักทายคนที่ไม่ได้พบเจอกันมานาน

คำทักทายอย่างเป็นทางการที่ใช้กับจดหมายและอีเมล

ในทุกภาษาจะใช้คำที่เป็นทางการมากที่สุดในภาษาเขียน เช่น การสมัครงาน, การติดต่องาน, การร้องเรียนทางกฎหมาย โดยส่วนใหญ่จะใช้ในการขึ้นต้นจดหมายหรืออีเมล

Dear Sir/Madam

เมื่อส่งจดหมายหรืออีเมลถึงบุคคลที่ไม่รู้จักชื่อจะใช้ Dear Sir (ใช้ส่งถึงผู้ชาย) / Dear Madam (ใช้ส่งถึงผู้หญิง) ซึ่งเป็นการเริ่มต้นการสนทนาที่เป็นทางการที่สุด

To Whom It May Concern

แม้วลี To Whom It May Concern จะดูล้าสมัย แต่มีความเป็นทางการในการติดต่อทางอีเมลที่ไม่มีที่อยู่หรือแผนกที่เฉพาะเจาะจง เช่น ส่งอีเมลไปแผนกที่ไม่คุ้นเคย, ส่งคำร้องเรียนกับบริษัท, ส่งจดหมายรับรอง

ข้อควรจำ : การใช้ To Whom It May Concern แต่ละคำจะขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ และตามด้วยเครื่องหมาย colon ( : ) เสมอ แล้วเคาะเว้นสองบรรทัดก่อนเริ่มเนื้อหาจดหมายหรืออีเมล

ตัวอย่าง:
To Whom It May Concern:

I saw your company announced the opening of ………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

To the Hiring Manager

ในการส่งจดหมายหรืออีเมลสมัครงานส่วนใหญ่จะใช้คำขึ้นต้นว่า To the Hiring Manager รวมถึงจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการส่งอีเมล “info@” ไปยังกล่องข้อความของบริษัท เนื่องจากเป็นการบ่งบอกว่าอีเมลนั้นเกี่ยวกับโอกาสในทำงาน และเป็นการระบุว่าให้ใครก็ตามส่งต่อข้อความนั้นไปยังฝ่ายบุคคลในทันที

Dear Mr. / Mrs. / Ms. / Miss / Prof.  / Dr.

หากทราบชื่อบุคคลนั้น จะขึ้นต้นคำทักทายด้วย Dear และตามด้วยคำนำหน้าและนามสกุลของบุคคลนั้น เช่น Dear Mr. Smith หรือจะใช้ Dear sir/madam แทนก็ได้

Informal Greetings คำทักทายอย่างไม่เป็นทางการ

คำทักทายอย่างไม่เป็นทางการจะใช้ในสถานการณ์ เช่น การประชุมไม่เป็นทางการกับเพื่อนร่วมงาน, การพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน, พูดคุยกับเพื่อน ด้วยคำและสำนวนต่าง ๆ ดังนี้

Hello/Hi/Hey

Hello/Hi เป็นคำที่รู้จักกันดีและนิยมใช้กันบ่อยมาก โดยมักตามด้วยชื่อบุคคล เช่น Hello, Tom. How are you? Hi, Pim. Nice to see you!

ส่วน Hey จะใช้กับบุคคลที่รู้จักและสนิทกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าใช้กับคนแปลกหน้าในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการต้องระวังในออกเสียง หากเน้นเสียงหนักมากเกินไปอาจกลายเป็นหยาบคายได้  

Morning/Afternoon/ Evening

เป็นการทักทายในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการที่ให้ความรู้สึกเป็นมิตรและอบอุ่น อีกทั้งยังฟังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย

How are you doing? / How’s it going?

ใช้ถามว่า “เป็นอย่างไรบ้าง” แบบสบาย ๆ อย่างเป็นกันเอง โดยมักถามหลังจากทักทายกันแล้ว และตอบสั้น ๆ ในเชิงบวก เช่น

Tom: Hello, Pim. How are you doing? (สวัสดีพิม เป็นอย่างไรบ้าง)
Pim: Fine, thanks. And you? (สบายดี ขอบใจนะ แล้วนายล่ะ)

Thu: Hi, Pom. How’s it going?  (สวัสดี ป้อม เป็นไงบ้าง)
Pom: I’m very well. How’re you?  (สบายมากเลยล่ะ แล้วนายล่ะเป็นไง)

Nice to see you/It’s great to see you/ Good to see you

เป็นคำทักทายที่เป็นมิตรใช้เวลาที่ไม่ได้เจอกันหรือเจอกันโดยบังเอิญ และสามารถใช้เริ่มต้นบทสนทนาหรือหลังจากกล่าวทักทาย Hello เช่น Hello, Jenny. Nice to see you again. (สวัสดีเจนนี่ ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะ)

Long-time no see / It’s been a while/It’s been ages.

ใช้เมื่อได้พบเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมานาน เมื่อทักทายด้วยวลีนี้แล้วมักตามด้วยคำถามอย่าง How are you?

ความรู้เพิ่มเติม: ages เมื่อเติม s เป็น ages หมายถึง นานมาก ๆ

Jene: Hi, Jub! Long-time no see. How are you? (หวัดดีจุ๊บ ไม่เจอกันนานเลยนะ เธอเป็นอย่างไรบ้าง)
Jub: I’m fine, thanks! What’s new? (สบายดี ขอบใจนะ แล้วเธอล่ะ)

Mark: Hey, Tim. How have you been? (เฮ้ ทิม เป็นยังไงบ้าง ไม่เจอกันนานเลยนะ)
Tim: Yes, it’s been a while since I saw you last time. (ใช่ นานแล้วนะตั้งแต่เจอกันครั้งสุดท้ายน่ะ)

Slang Greetings คำและสำนวนสแลงที่ใช้ในการทักทาย

นอกจากนี้ยังมีคำและสำนวนสแลงในการทักทาย ที่ใช้ในสถานการณ์ไม่เป็นทางการและไร้สาระนิดหน่อย มักใช้กับเพื่อนสนิทมาก ๆ

What’s up? / What’s new?

What’s up? คำทักทายสแลงที่ใช้กันโดยทั่วไป เป็นวิธีทักทายเพื่อน ๆ อย่างผ่อนคลายด้วยการถามพวกเขาว่ากำลังทำอะไรหรือมีอะไรใหม่ในชีวิต และเนื่องจากไม่ดูหยาบคายจึงใช้ทักทายเพื่อร่วมงานที่สนิท รวมถึงคนในครอบครัวได้

Sup

เป็นคำสั้น ๆ ที่รวบมาจาก What’s up? ที่อเมริกานิยมใช้กันมากในช่วงต้นยุค 2000 สำหรับปัจจุบันส่วนมากใช้แดกดันหรือในข้อความเท่านั้น

Yo!

คำทักทายสนุก ๆ ที่มาจากวัฒนธรรมฮิพฮอพอเมริกายุค 1990 และทุกวันนี้ยังคงใช้กันทั่วไปในอเมริกา

Heyyy

มาจาก Hey ที่เวลาส่งข้อความหากันมักเพิ่ม ‘y’ เข้าไปสามหรือสี่ตัว คล้ายกับเวลาส่งข้อความภาษาไทยอย่าง “เหรออออ” “แล้ววว”

 


คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบเจอในวันฮาโลวีน Halloween


สวัสดีค่ะ วันนี้เจน่าห์ทำคลิป Quick Wednesday Clip มาแต่มาเร็วนิดค่ะ เนื่องจากวันนี้เป็นวันฮาโลวีน จึงอยากให้คลิปตรงกับวันที่ลงค่ะ ยังไงก็ฝากเพื่อนๆติดตาม clip ต่อๆไป และถ้าชอบก็กด Like และชอบมากๆก็ช่วย share และ subscribe ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ Cheers!
———————————————————————————————————————
สำหรับการ Subscribe
เพื่อนๆจะต้อง sign up หรือสมัครอีเมล์ของ Gmail ก่อนค่ะ แล้วเข้าไปที่หน้าหลักของ YouTube พิมพ์ “Learn English with TextAndTalk” ที่ช่องค้นหา และเมื่อเข้า page ของเจน่าห์แล้ว ตรงข้างบนทางขวามือจะเห็นปุ่ม Subscribe หรือเมนูภาษาไทยเรียกว่า ‘สมัครสมาชิก’ FREE! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ทำไมต้อง Subscribe ก็เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆค่ะ เพราะเมื่อสมัครแล้ว ทุกๆครั้งที่เจน่าห์ up clip ใหม่ๆ Clip ของเจน่าห์จะขึ้นที่ page ของเพื่อนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องมา Search หากันทุกครั้ง และจะได้ไม่ลืมกันนะอิอิ ^^
———————————————————————————————————————
ตามหาเจน่าห์ที่อื่นๆได้ที่ Follow me:
Instagram: exchangeswithjeynah
Facebook: https://www.facebook.com/Exchangeswit…

สนใจเรียน at my school: TextAndTalk Academy
Facebook: English Training Thailand (รับเป็นวิทยากรและจัดเทรนนิ่งให้หน่วยงานและองค์กร) https://www.facebook.com/EnglishTrain…
Website: www.textandtalk.com
———————————————————————————————————————
Music:
YouTube Audio Library
Artist: http://audionautix.com/Ghost Dance by Kevin MacLeod is licensed under a Creative Commons Attribution license (https://creativecommons.org/licenses/…)
Source: http://incompetech.com/music/royalty…
Artist: http://incompetech.com/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่พบเจอในวันฮาโลวีน Halloween

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล


ฝึกพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคพื้นฐาน | สำหรับผู้เริ่มเรียน | สามารถจำนำไปใช้ได้เลย
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน ฝึกแบบนี้ได้แน่นอน
👉https://www.youtube.com/watch?v=kxZAU…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน วลีต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ
👉https://www.youtube.com/watch?v=AT2p…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.2
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cZqpc…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.3
👉 https://www.youtube.com/watch?v=uQ3k…
📌 เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ การใช้ This, That, These, Those พร้อมประโยคตัวอย่าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=qS1MH…
📌 คำศัพท์ ที่เราคิดว่าเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียกว่าแบบนี้หรอ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cAa9v…
📌สรุปการใช้ Verb to be ( is , am , are, was ,were) เข้าใจง่าย | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉https://www.youtube.com/watch?v=b9M76…
📌 50 คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=19Two…

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล

50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)


ภาษาอังกฤษกับเคลี่ คอร์สภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: ภาษาอังกฤษกับเคลี่ @englishwithkaylee นักเรียนติดตามเพจ 1.2 ล้านคน
INSTAGRAM: KAYLEE WONDER DMD @drkayleewonder

บริจาคที่ www.paypal.me/kayleewonder ขอบคุณมากๆ จากใจค่ะ

ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัสค่ะ ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีนักเรียนมาเรียนด้วยเยอะแบบนี้ อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงเป๊ะค่ะ ตอนนี้ก็สอนเป็นงานอดิเรกค่ะ เท่าที่มีเวลาว่าง สอนฟรี และไม่มีคอร์สสอนนะคะ แค่ทำงานเป็นหมอฟันครูก็เหนื่อยมากแล้วค่ะ เรียนฟรีๆก็ดีแล้ว ไม่ต้องเสียเงิน ความรู้หาฟรีได้เยอะแยะไป ถ้ามีโอกาสก็อาจจะเปิดคอร์ส แต่ก็คงอีกนานค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันนะคะ

เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

50+ ประโยคคำถามภาษาอังกฤษ (อัพเดท บทเรียนใหม่ เพิ่มรายละเอียด)

(Viet/Engsub-AIS5G) BKPP Skyline Live


BKPP

(Viet/Engsub-AIS5G) BKPP Skyline Live

N๒๐: คำศัพท์ 300 คำ-จำเป็นมาก [ตอน1/3] | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง


https://www.youtube.com/watch?v=TSu2pUF3iLo
ลิงค์นี้คือคลิปเดียวกับคลิปที่คุณดูอยู่นี้ แต่เราปรับเสียงให้ดังฟังชัดยิ่งขึ้น ลงไว้ในช่องยูทูปอีกช่องหนึ่งชื่อว่า Naked English (เป็นยูทูปช่องที่สองของ อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง) – ต้องขออภัยที่คลิปต้นฉบับเสียงเบามาก เนื่องจาก ณ เวลาที่เราถ่ายทำและตัดต่อวิดีโอนี้ เรายังมีประสบการณ์น้อย หวังว่าคลิปที่ปรับเสียงใหม่นี้จะทำให้คุณเรียนภาษาอังกฤษได้ราบรื่นยิ่งขึ้นครับ … จากทีมงาน Beautiful World และ Naked English
อ่านบทความเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ (ฟรี) \u0026 ดูรายละเอียดคอร์สเรียน Eng ได้ที่
www.NakedEnglish.net หัวข้อ: บทความที่น่าสนใจ
ติดตามเราได้ที่ Facebook.com/EnglishWithPiboon
เราเน้นเรียน+สอนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ให้สนทนาและเข้าใจหลักการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
[จัดทำและสอนโดย อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง] Piboon Jangsawang

N๒๐: คำศัพท์ 300 คำ-จำเป็นมาก [ตอน1/3] | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ พบเจอ ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *