Skip to content
Home » [NEW] “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ” | ตั้งแต่ ถึง ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ” | ตั้งแต่ ถึง ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ตั้งแต่ ถึง ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

Table of Contents

 บทนำ

ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

  • British English แบบบริติช
  • American English แบบอเมริกัน

โครงสร้างประโยคคำถาม

ประโยคคำถาม เพื่อถามถึงเวลา เช่น

  • ถามเวลาแบบ Direct question:

What time is it right now?

= ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

 

เรามักจะเจอคำถามในลักษณะนี้ในสถานการณ์แบบเป็นกันเอง ภาษาที่ใช้จะดูใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนเราที่ถามทาง หรือ คนใกล้ตัว คุณพ่อ คุณแม่ เป็นต้น

 

  • ถามเวลาแบบ Indirect question: Can I know…= ขอทราบ/ถาม หน่อย…

Can you tell me what time it is?
= ขอถามหน่อยว่ากี่โมงแล้ว

Excuse me, can I know what time it is?
= ขอโทษนะ ขอทราบหน่อยว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว

***การถามเวลาในรูปแบบประโยคลักษณะ Indirect questions นี้ ประโยคของเราจะดูเป็น ทางการและสุภาพมากยิ่งข้น

 

บอกเวลาแบบ British English

 

 

ใน British English จะใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง โดยจะใช้เลข 1 -12 ตามด้วยคำบอกเวลา a.m. และ p.m. ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษนั่นเองค่า

 

  • การใช้ a.m. และ p.m.

a.m. = ante meridiem ใช้กับเวลา หลังเที่ยงคืน จนถึง ก่อนเที่ยงวัน
(00.01 a.m. – 11.59 a.m.)

p.m. = post meridiem ใช้กับเวลาหลังเที่ยงวัน จนถึง ก่อนเที่ยงคืน
(12.00 p.m. – 11.59 p.m.)

 

หากว่าต้องการบอกเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา หรือพูด a.m. และ p.m. ตามด้วยเวลาต่างๆ ก็ได้ เช่นกันค่ะ

 

11.00 a.m. = eleven o’clock in the morning

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า

05.00 p.m. = five o’clock in the afternoon

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น

 

 

การใช้ to กับเวลาที่กำลังจะมาถึง 

 

 

เวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกิน 30 นาทีมาแล้ว ให้บอกนาทีที่เหลือก่อนจะถึงชั่วโมงถัดไป ตามด้วย “to”  และชั่วโมงถัดไป เช่น

 

08.40 p.m. = twenty to nine

แปลว่า อีกยี่สิบนาทีจะถึงเก้านาฬิกาแล้ว

 สำหรับ การบอกเวลาแบบ British English หากนาฬิกาเป็นเวลา 15 นาทีหรือ 45 นาที ให้ใช้คำว่า a quarter และหากเป็น 30 นาที ให้ใช้ half เช่น

 

06.15 a.m. = a quarter past six

07.30 a.m. = a half past thirty

 

การใช้ “past”

 

past เป็นคำคุณศัพท์ เมื่อใช้กับการบอกเวลา จะแปลว่า ผ่าน….มา……แล้ว โดยส่วนมากจะใช้กับเวลาที่ผ่านล่วงเลยมาไม่ถึง 30 นาที เช่น

 

10.20 a.m. = twenty past ten
แปลว่า  ผ่านสิบนาฬิกามามายี่สิบนาทีแล้ว

ถือว่าเป็นการบอกเวลาทางอ้อม เพราะว่าไม่บอกมาตรงๆ มักจะเจอรูปแบบประโยคนี้ในสถานการณ์ปกติ ที่ไม่เร่งรีบ ในชั้นเรียน แต่อาจจะไม่ใช่การถามเวลาก่อนเที่ยงที่น้องๆหิวข้าว เป็นต้น

 

บอกเวลาแบบ American English

 

 

การอ่านเวลาแบบชาวอเมริกันนั้นได้กำหนดวิธีการบอกเวลาในภาษาอังกฤษสไตล์ชิวๆ ไม่ซับซ้อนเท่ากับวิธีการของ
ชาวบริติช
ซึ่ง American English จะมีการใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยจะใช้ตั้งแต่ตัวเลข 0 ไปจนถึง ตัวเลข 24 และส่วนใหญ่จะไม่มี a.m. และ p.m.
ให้ยุ่งยาก ตามสไตล์
easy going ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนอเมริกันเลยทีเดียว ง่ายๆ ไม่ทำให้ยุ่งยาก

วิธีการบอกเวลาของชาวอเมริกันคือ ให้บอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที โดยทั่วมักจะในกรณีที่เป็นทางการมากๆ  เช่น

 

เวลา 21.15 น. = twenty-one fifteen

เวลา 08.09* น. = eight O nine 

ขออธิบายเพิ่มเติม:

*ใช้เสียง O อ่านว่า โอ จะใช้ แทนเลข 0 ใน American English

 

นอกจากนี้ยังมีคำวิเศษณ์เพื่อประมาณเวลา อีกด้วย เช่น about หรือ nearly  ซึ่งแปลว่า ประมาณ หรือ เกือบๆ เช่น

 

เวลา 09.05 น. =It’s about nine o’clock (แม้ว่าจะผ่านมาแล้วตั้ง 5 นาทีก็ตาม)

เวลา 10.28 น.  = It’s nearly half past ten (แม้ว่าจะยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ตาม)

 

 

บอกเวลาตอนเที่ยง

 

 

ในเวลาเที่ยงคืนหรือเที่ยงวัน สามารถใช้คำว่า “midnight” หรือ “midday / noon” แทนเลข 12 ได้ เช่น  เวลา 00:00 น. แทนช่วงเวลานี้ ว่า midnight หรือ เวลา 12:00 น. แทนช่วงเวลานี้ว่า midday or noon

ส่วนในการพูดอย่างเป็นทางการ สามารถใช้ “a.m.” หรือ “p.m.” ประกอบได้อยู่เหมือนเดิม
เช่น  เวลา 05:15 น. บอกได้ว่า 

It is five fifteen a.m.

= เป็นเวลา ตีห้า  สิบห้านาที

แต่ถ้าไม่เป็นทางการมาก เช่นบอกเวลาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน
ก็สามารถพูดได้ว่า It is ten fifteen.
(ไม่ต้องบอก a.m. ก็ได้ แต่หากช่วงเวลาที่คุยเป็นกลางวัน เพื่อนก็จะเข้าใจไปโดยปริยายว่า มันคือเวลา สิบโมง สิบนาที )

ในกรณีที่ลืมว่า ควรจะใช้ a.m. หรือ p.m. ดี ให้ใช้วลีบอกเวลา เพ่อให้ผู้ที่เราพูดด้วยรู้ว่าเรากำลังบอกเวลาช่วงไหน โดยใช้ in/at แล้วตามด้วยช่วงเวลา เช่น

in the morning = ช่วงเช้า
at midday = เที่ยงวัน
at midnight = เที่ยงคืน
in the afternoon = ตอนบ่าย
in the evening = ตอนเย็น
at night = ตอนกลางคืน

 

แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่ แต่คนที่เลือกใช้ก็คือตัวเราเอง ครูแนะนำให้ดูบริบทการใช้ให้มากนะคะ เช่นตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้นะคะ

 

Situation I: At the train station (สถานการณ์เกิดที่ลานชาลาสถานีรถไฟ)

 

 

Romeo: Excuse me sir, what time is it now?
= ขอโทษนะครับ ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

Tom: It’s a half past ten.
= ตอนนี้ผ่านสิบนาฬิกามาครึ่งชั่วโมงแล้วครับ

Rome: Thank you sir. When will the next train arrive?
= ขอบคุณครับ แล้วรถไฟเที่ยวถัดไปจะมากี่โมงครับ

Tom: It will arrive in a minute.
= เดี๋ยวก็มาแล้วครับ

 

Situation II: At NokAcademy School (สถานการณ์เกิดที่โรงเรียน นกอะคาเดมี)

 

Nestie: Jenny, what time is it now?
= เจนนี่ ตอนนี้กี่โมงแล้ว

Jenny: It’s 9 O’ clock. Why did you ask?
= ตอนนี้เก้าโมง ถามทำไม

Nestie: Oh my gosh, we need to go now.
= โอ้ มาย กอด เราต้องไปตอนนี้เลย

Jenny: Why?
= ทำไมล่ะ

Nestie: The class was already begun 10 minutes ago.
= ชั้นเรียนเริ่มเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว (เราเข้าชั้นเรียนสาย 10 นาทีแล้ว)

น้องๆนักเรียนทุกคน อย่าลืมทบทวนบทเรียน  เรื่อง การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ กับทีชเชอร์กรีซได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า
See you again next time.

+1

[Update] Grammar: สรุป 12 Tenses ในภาษาอังกฤษ | ตั้งแต่ ถึง ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

Tense คือ การเปลี่ยนรูปของคำกริยา เพื่อแสดงช่วงเวลาต่าง ๆ ในประโยคภาษาอังกฤษ ใช้บอกว่าเหตุการณ์นั้นอยู่ในช่วงใด แบ่งเป็น 3 ช่วงเวลา คือ

Past = อดีต
Present = ปัจจุบัน
Future = อนาคต

โดยแต่ละช่วงเวลาแบ่งเป็น 4 แบบและมีโครงสร้างประโยค รวมถึงหลักการใช้ที่แตกต่างกันดังนี้

Past Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอดีต มี 4 แบบ คือ

Past Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วและจบแล้วในอดีต
โครงสร้าง : S + V2
ข้อสังเกต : yesterday, in the past, last + day/month/year, in + ช่วงเวลาในอดีต เช่น in 1989
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Simple Tense เล่าเรื่องอดีต ฉบับอ่านปุ๊บ เข้าใจปั๊บ

Past Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต
โครงสร้าง : S + was/were + V.ing
ข้อสังเกต : at this time yesterday, at that moment, at this time in the past
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past continuous tense อดีตที่กำลังเกิดขึ้น

Past Perfect Tense

หลักการใช้ : ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในอดีตเหตุการณ์หนึ่ง
โครงสร้าง : S + had + V3
ข้อสังเกต : by the time, before, after, when, before last week, by….o’clock yesterday และที่สำคัญ Past Perfect จะใช้คู่กับ Past Simple เสมอ
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Perfect Tense เรื่องหนึ่งจบอีกเรื่องหนึ่งเกิด

Past Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดอย่างต่อเนื่องและเกิดขึ้นก่อนอีกเหตุการณ์หนึ่งในอดีต
โครงสร้าง : S + had + been + V.ing
ข้อสังเกต : for, since, how long, before, after
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Past Perfect Continuous Tense เรื่องราวดำเนินมาเรื่อย ๆ ก่อนเจออีกเรื่องหนึ่ง

Present Tenses ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในปัจจุบัน มี 4 แบบ คือ

Present Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดในปัจจุบัน, ทำเป็นประจำ, เป็นจริงทางวิทยาศาสตร์
โครงสร้าง : S + V1 (s, es)
ข้อสังเกต : always, usually, often, never, today, nowadays, every + day/month/year, normally, habitually, naturally
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Simple Tense : เรื่องจริงในชีวิตประจำวัน

Present Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + V. to be + V.ing
ข้อสังเกต : now, right now, at this moment, at the moment, at present
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> สรุปหลักการใช้ Present Continuous Tense : กำลังทำยังไม่จบ

Present Perfect Tense

หลักการใช้ : เล่าเหตุการณ์ที่เกิดในอดีตและดำเนินมาถึงปัจจุบัน หรือส่งผลถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + have/has + V3
ข้อสังเกต : since, for, just, yet, already, never, ever
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Perfect Tense อดีตถึงปัจจุบันยังคงอยู่

Present Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
โครงสร้าง : S + have/has + been + V.ing
ข้อสังเกต : for an hour, for a week, for a long time, for….years, all day, all morning, since, how long
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Present Perfect Continuous จากอดีตเรื่อยมาถึงปัจจุบัน

Future Tenses ใช้เล่าเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มี 4 แบบ คือ

Future Simple Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วไปในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + V1
ข้อสังเกต : tomorrow, next week/month/year, soon
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Simple Tense อนาคตแสนธรรมดา

Future Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + be + V.ing
ข้อสังเกต : at…(time)…tomorrow, at this time tomorrow
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future continuous tense ส่องดูอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นแน่ ๆ

Future Perfect Tense

หลักการใช้ : ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ที่จะทำเสร็จสมบูรณ์ ณ เวลาหนึ่งในอนาคต
โครงสร้าง : S + will + have + V3
ข้อสังเกต : by the end of this year, by this time tomorrow, in….years time, in…(month)…next year
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Perfect Tense อนาคตที่คาดว่าจะทำเสร็จแล้ว

Future Perfect Continuous Tense

หลักการใช้ : ใช้เล่าถึงเหตุการณ์ในอนาคตที่จะได้ทำไปแล้วเป็นระยะเวลาหนึ่งและกำลังทำอยู่
โครงสร้าง : S + will have + been + V.ing
ข้อสังเกต : for, by, the time
อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้ที่ >> หลักการใช้ Future Perfect Continuous Tense ดำเนินมาและดำเนินต่ออีกระยะ

เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
>>> ความแตกต่างระหว่าง Present Perfect Tense และ Past Simple Tense
>>> เทียบชัด ๆ ให้เคลียร์ หลักการใช้ Present simple กับ Present continuous
>>> หลักการใช้ Past Tense : เล่าอดีตได้อย่างมือโปรเหมือนเจ้าของภาษา

 

 

 

 


ครูลูกกอล์ฟ สอนตั้งแต่ภาษาอังกฤษถึงวิธีคิด ช่วยเด็กพัฒนาจิตใจไปถึงทัศนคติ | We Need To Talk EP.42


ครูลูกกอล์ฟ เป็นแขกรับเชิญในฝันคนหนึ่งของ We Need To Talk Podcast และหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ถ้าไม่มีครูลูกกอล์ฟ รายการนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้น แต่โฮสต์จะไม่ใช่ โบ สาวิตรี เนื่องจากทีมงานเดอะสแตนดาร์ดพอดแคสต์ได้เห็นความสามารถทางภาษาอังกฤษของโบจากรายการ Loukgolf’s English Room นั่นเอง จึงติดต่อไปชวนมาจัดพอดแคสต์
เราจึงดีใจมากที่ครูลูกกอล์ฟตอบรับเชิญ แต่เท่านั้นไม่พอ เขายังพาแฟนหนุ่มชาวอังกฤษ พอล เบอร์เจสส์ มาพูดคุยในรายการด้วย ซึ่งนี่น่าจะเป็นรายการแรกที่ทั้งคู่ได้ปรากฏตัวพร้อมกันแบบเต็มๆ ดังนั้นเชื่อว่าคุณผู้ฟังก็จะได้ทั้งความสนุกสนาน สาระ มุมมอง แบบเต็มๆ ไปด้วยเช่นกัน
Time index
04:11 ความฝันคือสิ่งที่ต้องเพาะบ่ม และจะมันจะสุกงอมในเวลาที่เราพร้อม
09:24 จากทุ่งลุงถึงลอนดอน
16:51 สำเนียงไม่ได้ส่อแค่ภาษา แต่สำเนียงส่อทุกอย่างที่เป็นตัวเรา
21:49 โรงเรียนนี้มีรันเวย์
28:09 ห้องเรียนภาษาอังกฤษบรรจุหนึ่งล้านคน
32:19 ครูลูกมีแค่สองคำที่อยากมอบให้วัยรุ่นทั่วไทย
———————————————
THE STANDARD PODCAST : EYEOPENING FOR YOUR EARS
พอดแคสต์จากสำนักข่าว THE STANDARD
Website : https://www.thestandard.co/podcast
SoundCloud: https://soundcloud.com/thestandardpodcast
Twitter : https://twitter.com/TheStandardPod
Facebook : https://www.facebook.com/thestandardth/

WeNeedToTalk TheStandardPodcast TheStandardco TheStandardth

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ครูลูกกอล์ฟ สอนตั้งแต่ภาษาอังกฤษถึงวิธีคิด ช่วยเด็กพัฒนาจิตใจไปถึงทัศนคติ | We Need To Talk EP.42

ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ภาษาอังกฤษ


เว็ปอดัม: http://www.ajarnadam.com
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ภาษาอังกฤษ

เรียนภาษาอังกฤษฟรี คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ : Lesson 1


คอร์สเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรียนฟรี ปูพื้นฐานใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น เข้าใจง่าย สามารดูคอร์สเรียนอื่นๆที่ www.unfoxenglish.com แหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์และชุมชนของคนรักภาษาอังกฤษ
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/

เรียนภาษาอังกฤษฟรี คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ : Lesson 1

วิธีเทียบอักษรภาษาอังกฤษเป็นไทยง่ายๆ | เขียนชื่อภาษาอังกฤษ


เรียนปูพื้นฐานภาษาอังกฤษ แบบง่ายๆ ด้วย Alphabets ซึ่ง alphabet (แอล’ ฟาเบท) หมายถึง อักษรพยัญชนะ, อักขระ, ระบบตัวอักษร นั่นเองครับ โดยตัวอักษรในภาษาอังกฤษมี 26 ตัว ครับ สระมี 5 และถ้าไปผสมตัวอื่นๆ ที่ได้บอกไว้ใน VDO ก็จะมีเสียงสระเยอะขึ้นนะครับ ก็หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์
การเทียบเสียงอักษร ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย สระ พยัญชนะ ประสมคำ สะกด ชื่อ นามสกุล
ค. ควาย นะครับอ่านผิดไป
เรียนออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuKZYgki4\u0026t=5s
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv47gnc8
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r51ZLFA\u0026t=10s
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1QS7O6s
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5sPRefdA\u0026t=82s
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot65xu6k
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK2AAi9Q\u0026t=3s
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnATbRFCE
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKYd2YFzg\u0026t=2s

วิธีเทียบอักษรภาษาอังกฤษเป็นไทยง่ายๆ | เขียนชื่อภาษาอังกฤษ

สูตรพัฒนาตัวเองสำหรับคนอยากสำเร็จที่ไม่มีวันหมดอายุ


จิตวิทยาพัฒนาตันเองที่ไม่มีวันบูดเน่าใช้ได้ทั้งชีวิต

กดเข้ากลุ่มฟรี! เก่งขึ้นวันละ 1%!
https://www.facebook.com/groups/350505719845935
แจกฟรี! อีบุ๊ก 18 ความลับ!
เปลี่ยนคุณให้เป็นคนเจ้าเสน่ห์
[ทำยังไงให้ใครๆก็รักตั้งแต่แรกพบ]
👉https://lin.ee/iwazNnx
ฟังฟรี! จิตวิทยาการพูดชนะใจคน
👉https://www.youtube.com/playlist?list=PLfdtkwJb5cVr68FikXL1rVSYCpCn0vGle
กลุ่มฟรี! พูดพิชิตใจแบบจ้าวเสน่ห์!
👉https://www.facebook.com/groups/astcharismasecrets/
ติดตาม Exclusive Content ในช่องทางต่างๆได้ที่:
Line Official: https://lin.ee/iwazNnx
Facebook: https://www.facebook.com/Amazingstorytelling
Blockdit: https://www.blockdit.com/amazingstorytelling
▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃▃
ครองใจคน,วิธีชนะมิตรและจูงใจคน,วิธีการพูดนำเสนอ
,พูดอย่างไรให้น่าฟัง,สร้างเสน่ห์,เทคนิคการพูดโน้มน้าวใจ,การพูดพิธีกร,เทคนิคพูดให้น่าฟัง,พูดอย่างไรให้จับใจคนฟัง,พูดอย่างไรให้คนชอบเรา,วิธีการพูดโน้มน้าวจูงใจ,พูดยังไงให้คนรัก,พูดอย่างไรให้คนเชื่อ,พูดอย่างไรให้คนคล้อยตาม,พูดในที่ชุมชน,พูดอย่างไรให้ชนะใจคนฟัง,พูดอย่างไรให้ผู้ชายหลง,พูดอย่างไรให้มีเสน่ห์,คุยอย่างไรให้ได้คบ,คุยอย่างไรให้ผู้ชายชอบ,คุยอย่างไรให้ผู้หญิงชอบ,คุยอย่างไรให้สนุก,คุยอย่างไรไม่ให้เบื่อ,เทคนิคคุยกับลุกค้า,เทคนิคพูดหน้ากล้อง,เทคนิคพูดขายของ,เทคนิคเล่าเรื่อง,เล่าเรื่องอย่างไรให้สะกดใจคน

สูตรพัฒนาตัวเองสำหรับคนอยากสำเร็จที่ไม่มีวันหมดอายุ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตั้งแต่ ถึง ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *