Skip to content
Home » [NEW] ท่องศัพท์ฉบับเหนือเมฆ! รวม 12 สำนวนสุดเก๋ ที่มีคำว่า ‘Cloud’ แต่ไม่ได้แปลว่า ‘เมฆ’ | silver lining แปลว่า – NATAVIGUIDES

[NEW] ท่องศัพท์ฉบับเหนือเมฆ! รวม 12 สำนวนสุดเก๋ ที่มีคำว่า ‘Cloud’ แต่ไม่ได้แปลว่า ‘เมฆ’ | silver lining แปลว่า – NATAVIGUIDES

silver lining แปลว่า: คุณกำลังดูกระทู้

สวัสดีค่ะ ชาว Dek-D … ช่วงนี้ก็เริ่มเข้าฤดูฝนกันแล้วเนอะ พออยู่บ้านเหงาๆ นั่งมองท้องฟ้าที่แสนอึมครึมอยู่ก็นึกได้ว่าเออ! ที่จริงแล้วคำว่า ‘Cloud’ ที่แปลว่า ‘เมฆ’ เนี่ยมี idioms ที่น่าสนใจอยู่นะ แถมเวลานำมาใช้ความหมายก็เปลี่ยนไปด้วย วันนี้พี่ปลื้มก็เลยจะนำสำนวนภาษาอังกฤษที่มีคำว่า cloud มาแชร์ให้น้องๆ ได้นำไปใช้เพิ่มความเก๋กันค่ะ ถ้าพร้อมแล้วก็ Let’s go^^!

Photo Credit: pixabay

1. A Cloud Hangs Over Someone (Or Something)

Giphy.comGiphy.com

A Cloud Hangs Over Someone (Or Something) แปลว่า รู้สึกไม่แน่นอน — ใช้เพื่ออธิบายเมื่อบางคนหรือบางสิ่งบางอย่างรายล้อมไปด้วยความรู้สึกไม่แน่นอน ไม่ไว้วางใจ มักจะใช้หลังจากเหตุการณ์เชิงลบในอดีต หรืออาจจะแปลว่าค้างคาอยู่กับ (บางสิ่งหรือบางคน)

ตัวอย่างประโยค:

  • A cloud hangs over

    the company as the criminal investigations into the CEO continued. 
    สถานการณ์ของบริษัทยังคง

    ไม่แน่นอน

    ในขณะที่การสอบสวนทางอาญาต่อ CEO ยังคงดำเนินต่อไป

 • • • • • • • • • •

2. To Be On Cloud Nine

Giphy.comGiphy.com

สำนวนนี้คล้ายๆ ของไทยก็คือสวรรค์ชั้น 7 แต่คราวนี้เราไปสูงกว่านั้นอีก! เพราะอยู่บนเมฆชั้นที่ 9 เลยค่ะ ฉะนั้น To Be On Cloud Nine   จะเป็นแค่มีความสุขเฉยๆ ไม่ได้ ต้องแปลว่า มีความสุขมากกกก หรือ มีความสุขสุดขีด (คำไม่เป็นทางการ) ไปเลยจ้า >_<

ตัวอย่างประโยค:

  • Jennifer has been

    on cloud nine

    ever since she started going out with Tommy. 
    เจนนิเฟอร์

    มีความสุขมาก

    ตั้งแต่เธอได้เริ่มเดตกับทอมมี่

 • • • • • • • • • •

3. A Cloud Of Suspicion

Giphy.comGiphy.com

บางคนเห็นคำว่า ‘Suspicion’ ที่แปลว่า ‘ความสงสัย’ ก็สามารถเดาความหมายได้เลย เพราะสำนวนนี้ค่อนข้างตรงตัวค่ะ การมีกลุ่มเมฆแห่งความสงสัยลอยอยู่รอบๆ ตัว หรือพูดให้ถูกก็คืิอ A Cloud Of Suspicion แปลว่า มีความรู้สึกสงสัยในการกระทำผิดของใครบางคน

ตัวอย่างประโยค: 

  • There has been

    a cloud of suspicion

    at the bank ever since $10,000 went missing. 
    เกิด

    ข้อสงสัยมากมาย

    กับธนาคารนับตั้งแต่เงิน 10,000 ดอลลาร์หายไป

 • • • • • • • • • •

4. To Cloud The Issue

Giphy.comGiphy.com

To Cloud The Issue แปลว่า  การกระทำเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากหัวข้อที่กำลังพูดถึงอยู่ โดยนำข้อมูลอื่นๆ มาเสนอเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจผิด

ตัวอย่างประโยค: 

  • Rather than give a simple explanation, he

    clouded the issue

    even more by bringing up John’s past. 
    แทนที่จะให้คำอธิบายง่ายๆ แต่เขากลับ

    ทำให้ประเด็นนี้คลุมเครือ

    มากขึ้นโดยยกอดีตของจอห์นขึ้นมาพูด

 • • • • • • • • • •

5. Coming Up A Cloud

Giphy.comGiphy.com

เห็นสำนวนนี้ให้ลองนึกถึงสภาพอากาศหน้าฝนดูค่ะ เมฆอึมครึมแบบเมฆฝนกำลังลอยมาแล้ว Coming Up A Cloud  จึงแปลว่า ดูเหมือนฝนใกล้ตก

ตัวอย่างประโยค: 

  • I think I am going to bring my umbrella. It is really

    coming up a cloud

    outside.
    ฉันคิดว่าฉันจะพกร่มไปด้วย เพราะดูเหมือนข้างนอก

    ฝนใกล้จะตก

    แล้ว

 • • • • • • • • • •

6. Every Dark Cloud Has A Silver Lining

Giphy.comGiphy.com

มาถึงครึ่งทางแล้ว น้องๆ คงเริ่มจับสังเกตได้ว่าการแปลแต่ละสำนวนนั้นสามารถนึกภาพตามได้เกือบทุกอันเลย ฉะนั้นข้อนี้ลองดู Gif ที่พี่ใส่มาให้แล้วลองเดาความหมายเล่นๆ กันค่ะ กลุ่มเมฆมืดๆ แต่มีแสงส่องมาจากด้านหลังควรแปลว่าอะไรดีน๊าาา …. 

เฉลย! Every Dark Cloud Has A Silver Lining แปลว่า สถานการณ์ที่ดูเหมือนแย่ก็อาจมีสิ่งที่​ดีซ่อนอยู่ เปรียบเปรยก้อนเมฆสีดำว่าเป็นเรื่องไม่ดี ส่วนแสงที่ส่องสว่างแทรกออกมาเป็นสิ่งดีๆ นั่นเองค่ะ ช่างจินตนาการจริงๆ ^^

ตัวอย่างประโยค: 

  • Whenever I am going through a hard time, I try to remind myself that

    every dark cloud has a silver lining


    เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก ฉันพยายามเตือนตัวเองว่า

    ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ก็อาจมีสิ่งที่ดีๆ ซ่อนอยู่

 • • • • • • • • • •

7. To Have One’s Head In The Clouds

Giphy.comGiphy.com

สำนวนถัดมามีความหมายตรงตัวเลยค่ะ คือหัว(ของใครบางคน) มุดอยู่ในก้อนเมฆ หรือแปลให้ดีๆ ก็คือ  To Have One’s Head In The Clouds แปลว่า เหม่อลอย / ไม่มีเหตุผล / ไม่ตระหนักถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น / ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

ตัวอย่างประโยค: 

  • It is difficult to try to solve this problem when half of my team

    has their head in the clouds

    .  
    มันเป็นเรื่องยากที่จะพยายามแก้ปัญหานี้เมื่อครึ่งหนึ่งของทีมฉันยังคง

    ไม่ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้น

    เลย

• • • • • • • • • •

8. In The Clouds

Giphy.comGiphy.com

สำนวนที่ 8 เป็นสำนวนที่ใช้มานานมากแล้วค่ะ เวลาเราดูการ์ตูนแล้วตัวละครมีการนึกคิดหรือเพ้อก็จะมีเจ้าเมฆแบบนี้โผล่มาตลอดเลย 5555 ฉะนั้นสำนวนการอยู่บนเมฆ In The Clouds แปลว่า เพ้อฝันถึงสิ่งที่ไม่จริง

ตัวอย่างประโยค:

  • It is hard to talk to Key about his business because he is always

    in the clouds

    dreaming about his next business adventure.
    เป็นเรื่องยากที่จะพูดคุยกับคีย์เกี่ยวกับธุรกิจของเขา เพราะเขามักจะ

    เพ้อฝัน

    ถึงความสนุกของการทำธุรกิจครั้งหน้าอยู่

• • • • • • • • • •

9. A Cloud On The Horizon

Giphy.comGiphy.com

โดยปกติแค่ ‘on the horizon’  เฉยๆ จะมีความหมายว่า ‘จะเกิดขึ้นในไม่ช้า / กำลังจะมาถึง / ที่ปลายขอบฟ้า’ เป็นสำนวนไม่เป็นทางการ แต่พอเพิ่ม A Cloud เข้าไปปุ๊บ ความหมายก็เปลี่ยนปั๊บเลยค่ะ กลายเป็น A Cloud On The Horizon แปลว่า สัญญาณบ่งบอกว่าสิ่งเลวร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

ตัวอย่างประโยค: 

  • Although the business is doing well today,

    there is a cloud on the horizon


    แม้ว่าในปัจจุบันธุรกิจจะไปได้สวย แต่มันก็มี

    สัญญาณว่ากำลังจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น

    ในอนาคต

• • • • • • • • • •

10. To Cloud Over

Giphy.comGiphy.com

To Cloud Over ไม่ใช่ทำให้เมฆมาปกคลุมนะคะ แต่จะแปลว่า ทำให้มัวลง / มืดครึ้ม

ตัวอย่างประโยค: 

  • The bathroom mirror started to

    cloud over

    as the steam from the hot shower filled the room. 
    กระจกห้องน้ำ

    เริ่มมัว

    เมื่อไอน้ำจากฝักบัวน้ำอุ่นลอยเต็มห้อง

• • • • • • • • • •

11. Storm Clouds

Giphy.comGiphy.com

เวลาเจอคำว่า Storm หรือพายุให้ตีความไว้ก่อนเลยค่ะว่าคงไม่ใช่เรื่องดี 5555  ฉะนั้น Storm Clouds เลยแปลว่า ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้น / เมฆฝน

ตัวอย่างประโยค: 

  • The

    storm clouds

    of war seem to be looming over the east. 

    ปัญหา

    สงคราม

    ที่กำลังจะเกิด

    ขึ้นดูเหมือนว่าจะเป็นของฝั่งทางโซนตะวันออก

• • • • • • • • • •

12. To Build Castles In The Sky

Giphy.comGiphy.com

คำสุดท้ายของวันนี้ถ้าแปลตรงตัวเลยก็คือสร้างปราสาทบนท้องฟ้าใช่ไหมล่ะคะ ทีนี้ลองนึกตามหลักความเป็นจริงว่าสามารถทำได้ไหม… แน่นอนค่ะว่าทำไม่ได้ To Build Castles In The Sky ก็เลยมีความหมายว่า การวาดความฝันหรือความหวังที่ไม่มีจริง นั่นเอง

ตัวอย่างประโยค: 

  • To create a business from nothing, you can’t just

    build castles in the sky

    , you need to have a definite business plan. 
    ในการจะสร้างธุรกิจโดยเริ่มจากศูนย์ คุณไม่สามารถแค่

    วาดภาพฝัน

    เท่านั้น แต่คุณต้องมีแผนธุรกิจที่ชัดเจนด้วย

 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับกลุ่มเมฆทั้ง 12 กลุ่ม มีใครคุ้นเคยตัวไหนบ้างไหมเอ่ย ^^? ที่จริงแล้วเหล่า idioms พวกนี้สามารถเจอและได้ยินบ่อยพอสมควรเลยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นน้องๆ ก็อย่าลืมฝึกแล้วเอาไปใช้ด้วยนะคะ เราจะได้ดูเก๋ และอัปเดตสกิลภาษาเพิ่มไปแบบสุดปังค่ะ!

 

References:

[NEW] สรุปเนื้อหา หัวใจชายหนุ่ม | silver lining แปลว่า – NATAVIGUIDES

สรุปเนื้อหา หัวใจชายหนุ่ม

– เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๖ ) โดยใช้พระนามแฝงว่า รามจิตติ
– ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต พ.ศ. ๒๔๖๔
– รูปแบบบทประพันธ์ เป็นแบบนวนิยายร้อยแก้วรูปแบบจดหมาย มีจำนวนทั้งหมด ๑๘ ฉบับ มีระยะเวลาในจดหมายทั้งหมด ๑ ปี ๗ เดือน
– มีจุดมุ่งหมาย เพื่อสะท้อนค่านิยมและสภาพสังคมในสมัยนั้น
– เนื้อหาเกี่ยวกับตัวละครเอกสมมุติ นายประพันธ์ ประยูรสิริ นักเรียนนอกที่กลับมาจากประเทศอังกฤษ ที่ได้เขียนจดหมายถึงเพื่อนของเขา นายประเสริฐ สุวัฒน์ เพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมในสมัยนั้น

แก่นของเรื่อง
การรู้จักอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของไทยและรู้จักเลือกวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้ให้เหมาะสม

คุณค่าของเรื่อง
๑. ด้านเนื้อเรื่อง หัวใจชายหนุ่มเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถในงานพระราชนิพนธ์ มีแก่นเรื่องชัดเจน น่าอ่าน น่าติดตาม สนุกด้วยลีลาและโวหารอันเฉียบคม แฝงพระอารมณ์ขัน เช่น การแต่งกายของกิมเน้ยที่แต่งตัวดีแต่มีเครื่องเพชรมากเกินไป
๒. ด้านความคิด เรื่องหัวใจชายหนุ่มมุ่งเสนอให้ผู้อ่านเห็นว่า นักเรียนนอกในสมัยนั้นเป็นผู้นำ “แฟแช่น” อย่างสุดโต่ง เมื่อปฏิบัติไปแล้วผิดพลาดก็ค้นพบตัวเองว่าต้องหาทางเลือกใหม่ที่เหมาะสม ทำให้ได้คิดว่า เราควรรับและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย
๓. ด้านความรู้ เรื่องหัวใจชายหนุ่มแสดงให้เห็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่เริ่มไว้ผมยาว ค่อยๆเลิกนุ่งโจงกระเบน หันมานุ่งผ้าซิ่น การแสดงละครที่ใช้ชายจริงหญิงแท้ การใช้คำทับศัพท์และสำนวนต่างประเทศเพื่อแสดงความเป็นนักเรียนนอกของคนในสมัยนั้น

ย่อเนื้อความในจดหมาย
๑. ฉบับที่ ๑ ( ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เขียนจดหมายฉบับแรก ในระหว่างที่กำลังนั่งเรือ โอยามะ มะรู ผ่านทะเลแดงเล่าบรรยายถึงความเสียใจที่กลับไปยังประเทศไทยและการดูถูกประเทศบ้านเกิดของตนเอง ว่าเป็นประเทศที่อันศิวิไลซ์ แตกต่างจากประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เดินขึ้นบนเรือให้ฟัง คือการได้พบปะกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาสนใจ เธอคือมิสส์มิลเล่อร์ เนื่องด้วยเธอมีลักษณะคล้ายกับลิลี่ แฟนเก่าของเขา จึงชวนพูดคุย และได้รู้ว่าเธอนั้นกำลังจะไปที่ประเทศอียิปต์ เมื่อถึงที่หมาย เขาก็แอบหวังที่เธอจะมีท่าทีเสียใจ แต่ว่าต้องผิดหวัง เพราะเธอนั้นมีคนรักที่มารอรับที่ท่าเรืออยู่แล้ว

๒. ฉบับที่ ๔ ( ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าถึงการพบปะผู้คนหลังมากมายหลังกลับมา แนวคิดของคุณพ่อของเขาที่ไม่คิดว่าคนจะได้ดีจากความสามารถของตนเอง และการเข้ารับราชการในพระราชสำนัก ซึ่งตำแหน่งทั้งหมดนั้นเต็มหมดแล้ว คุณพ่อของเขาจึงใช้เส้นสายโดยการพาไปคุยกับเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการมหาดเล็ก แต่ก็ไม่ได้ผล นายประพันธ์จึงขอคุณพ่อของเขาทำอาชีพค้าขาย แต่ก็ถูกปฎิเสธ เพราะท่านเห็นว่า การค้าขายนั้นไม่มีหนทางที่จะเป็นใหญ่เป็นโตได้ นอกจากนี้ เขายังเล่าถึงการโดนจับคลุมถุงชนของตนกับแม่กิมเน้ย ลูกสาวของนายอากรเพ้ง ที่พ่อของนายประพันธ์รับรองว่าเป็นคนดี สมควรแก่เขาทุกประการ แต่ด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้เกิด-งกัน และได้ข้อสรุปว่า จะให้ไปดูตัวกันเสียก่อน และยังได้เล่าถึง การพบปะผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาถูกใจที่โรงภาพยนตร์พัฒนากรอีกด้วย

๓. ฉบับที่ ๕ ( ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าถึงการได้เข้ารับทำงานราชการ ในตำแหน่งราชการในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์ ว่ายังไม่มีอะไรพิเศษนัก และการดูตัวแม่กิมเน้ย เขาบอกว่าหน้าตาของหล่อนนั้นเหมือนนางซุนฮูหยิน การแต่งกายค่อนข้างพะรุงพะรังเหมือนต้นคริสต์มาส ยังไม่ถูกใจเขาเท่าไหร่ นอกจากนั้น เขาได้เล่าถึงผู้หญิงที่เจอที่โรงภาพยนตร์พัฒนากรที่ตนได้ไปสืบมา เธอชื่อนางสาวอุไร พรรณโสภณ ลูกสาวของพระพินิฐพัฒนากร หล่อนเป็นผู้หญิงสมัยใหม่แท้ ไม่กลัวผู้ชาย ซึ่งนางประไพ น้องสาวของตนนั้นก็รู้จักเธอ เขาจึงหวังว่าตนจะได้รู้จักกับนางอุไร เขาให้ความเห็นว่า ถ้าได้รู้จักกับแม่อุไร จะพอทำให้คิดถึงประเทศอังกฤษได้ และจะทำให้ชีวิตน่าอยู่มากขึ้น

๔. ฉบับที่ ๖ ( ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าถึงการพบแม่อุไรในคืนวันที่ ๒ มกราคม จากประไพที่ได้นัดเชิญให้ไปดูการแต่งไฟทางลำน้ำให้ และหลังจากนั้น ก็ได้พบปะกันอีกหลายครั้ง เขาชมว่าแม่อุนั้นสวย น่ารัก น่าพึงพอใจในหลายๆเรื่อง พูดถึงประเพณีที่ในเมืองไทยนั้น พี่น้องจูบกันไม่ได้ แตกต่างกับพวกฝรั่ง และได้พูดถึงนางกิมเน้ย ที่หลังจากเขาได้เดินผ่านหน้าร้านคุณภักดีไปกับนางอุไร เธอก็โกรธยกใหญ่ และไม่คุยกับนายประพันธ์อีก

๕. ฉบับที่ ๙ ( ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์เล่าว่า ตนนั้นได้แต่งงานกับแม่อุไรแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤษภาคม หลังจากกลับมาจากหัวหิน นายประพันธ์ได้ขอให้คุณพ่อไปขอแต่งงานกับนางอุไร ท่านไม่ค่อยเห็นด้วย ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักกับผู้ชายหลายคน และก็ไกล่เกลี่ยว่า จะให้ดูไปก่อนประมาณ ๑ ปี แต่นายประพันธ์ปฎิเสธการรอคอย คุณพ่อของเขาจึงจัดการขอแม่อุไร และเมื่อแต่งงานกันแล้ว จึงได้ไปฮันนีมูนที่หันหิน

๖. ฉบับที่ ๑๑ ( ๒๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์เล่าเกี่ยวกับบ้านใหม่ของเขา ว่าปกติแล้ว บ้านควรจะเป็นสถานที่พักผ่อนอันพึงใจ สุขใจเพราะได้เห็นภรรยาของตนเอง แต่ตัวเขากลับไม่ได้เช่นนั้น เขากับนางอุไรกลับจากเพชรบุรีในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอนั้นเบื่อการอยู่หัวเมือง และเมื่อถึงกรุงเทพ ก็ไม่มีใครไปรับ ทำให้เธอโกรธ แต่ก็บอกว่า หลังขึ้นจากเรือจ้างแล้วค่อยทะเลาะกัน เพราะการทะเลาะกันต่อหน้าคนแจวเรือดูไม่งดงาม พอมาถึงบ้านใหม่ที่ดูไม่พร้อม สียังทาไม่แห้ง ของต่างๆก็ยังไม่ได้จัด เกิด-งขึ้นเล็กน้อย และในวันต่อๆมา ก็มีเหตุการณ์ขัดใจขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่านายประพันธ์จะทำอะไร นางอุไรก็จะมองว่าผิดเสมอ จนทำให้นายประพันธ์รู้สึกเหมือนไปโรงเรียนเมื่อกลับบ้าน
๗. ฉบับที่ ๑๒ ( ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์เล่าว่า นางอุไรนั้นแท้งลูกแล้ว เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม และสิ้นรักนายประพันธ์แล้ว แต่นายประพันธ์ก็ยอมทนอยู่ด้วยรับชะตากรรม หลังจากที่นางอุไรหายเจ็บท้องแล้ว เธอก็ชอบเที่ยวเสมอๆ พอประพันธ์ถาม นางอุไรก็ฉุนเฉียว นานๆเข้า ก็มีห้างและร้านต่างๆ ส่งใบทวงค่าใช้จ่ายมามากขึ้นจนนายประพันธ์เตือน และโดนสวนกลับมาว่า ก่อนจะแต่งงานกับเธอทำไมไม่ดูให้ดีเสียก่อนว่าเธอใช้จ่ายอะไรบ้าง และไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง จนประพันธ์ต้องไปยืมเงินพ่อมาใช้หนี้ให้แม่อุไร คุณพ่อของนายประพันธ์โกรธ จึงลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ว่าจะไม่ชดใช้หนี้ให้นางอุไร เมื่อแม่อุไรเห็นจึงได้แจ้งความกลับไปว่า เธอไม่ขอรับผิดชอบในเรื่องหนี้สิน และไม่ให้นายประพันธ์มีอำนาจในทรัพย์สมบัติของเธออีกต่อไป และไปอยู่บ้านพ่อของเธอ หลังจากนั้น คุณหลวงเทพปัญหาก็มาหานายประพันธ์ที่บ้าน คุยเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องแม่อุไร ที่เที่ยวอยู่กับพระยาตระเวนนคร ด้วยความเป็นห่วงนางอุไร นายประพันธ์จึงส่งจดหมายไปกล่าวเตือน แต่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆกลับมา ต่อมาหลวงเทพก็มาหานายประพันธ์เพื่อบอกว่า แม่อุไรไปค้างบ้านพระยาตระเวนนครแล้ว เมื่อปรึกษากัน หลวงเทพนั้นรับธุระเรื่องขอหย่าไปพูดกับนางอุไร เธอตกลง นายประพันธ์จึงกลับมาโสดอีกครั้ง

๘. ฉบับที่ ๑๓ ( ๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์เล่าว่า ตนนั้นมีความสุขมากขึ้นมากขึ้นเมื่อเป็นโสด ถึงการที่หย่ากับนางอุไรจะทำให้ถูกบางคนนินทาติโทษ แต่เขาถือว่า การแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครมาสุขหรือทุกข์แทนเขาได้ ส่วนนางอุไรก็อยู่กับพระยาตระเวนที่มีนางบำเรอถึง ๗ นาง และพวกเธอก็ชอบแผลงฤทธิ์ในระหว่างที่พระยาตระเวนไม่อยู่บ้าน นางอุไรทนไม่ไหวจึงหนีไปอยู่บ้านพ่อ พระยาตระเวนก็ตามไปง้อ และให้นางอุไรอยู่บ้านอีกหลังนึงที่ถนนราชประสงค์ และได้เล่าอีกว่า ตนได้เลื่อนตัวแหน่งมาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนทางเสือป่า เขาได้เข้าไปประจำอยู่ในกรมม้าหลวงตามที่สมปรารถนา และได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่เอก

๙. ฉบับที่ ๑๕ ( ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าถึงงานเฉลิมพระชนมพรรษาของปีนี้ว่าค่อนข้างสนุก พระยาตระเวนก็เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังเป็นชายโสดเพราะยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันโดยทางราชการ และในช่วงนั้น พระยาตระเวนก็ได้ควงกับผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆ เธอชื่อ นางสร้อย แต่นางอุไรก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้าเลิกกับพระยาตระเวนจะได้รับความลำบากและต้องกลับไปง้อพ่อ ซึ่งเธอได้อวดดีไว้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพ่ออีกต่อไป จึงยอมที่จะอยู่นิ่งเฉย นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงสภาพสังคมฝรั่งว่า พวกฝรั่งเห็นว่า การมีภรรยาหลายคนไม่ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวในบ้าน

๑๐. ฉบับที่ ๑๖ ( ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับงานที่ตนเองทำอยู่นั้นว่า เป็นสิ่งที่ให้เกิดความเพลิดเพลินและมีประโยชน์ ได้พบปะพูดคุยกับผู้อื่น และรู้ความคิดที่กว้างขวางขึ้น เพราะปกติ ต่างคนต่างมีราชการไปทำที่ออฟฟิศ พอหมดเวลาก็แยหย้ายกันไป ไม่ได้พบปะพูดคุยกัน พูดถึงสโมสรที่ตั้งใหม่ขึ้นหลายแห่ง ว่าดูไม่ค่อยจะสำเร็จได้เลย ส่วนสโมสรไทยนั้นที่ยั่งยื่นที่สุด คือสามัคยาจารย์สมาคม เป็นของสำหรับจำเพาะข้าราชการกระทรวงเดียว และกระทรวงนั้นก็ยังหนุนหลังสมาคมไว้อยู่ และได้พูดถึงการเล่นละครที่ผู้ชายเล่นเป็นตัวผู้ชาย ผู้หญิงเล่นเป็นตัวผู้หญิง ที่ตนดูของคณะละครศรีอยุทธยารม ว่าเป็นละครที่แสดงดี ผู้หญิงที่เป็นตัวละครในคณะนี้ก็ยังสาวๆอยู่ ถึงจะมีสามีและบุตรแล้วก็ตาม ผู้หญิงที่มีลูกแล้วไม่จำเป็นต้องแก่อย่างที่เขาว่ากัน ผู้ชายที่เบื่อผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ก็ต้องโทษผู้หญิงด้วยเช่นกัน เพราหมายคนมักเข้าใจผิดว่า พอมีลูกก็ชอบปล่อยตัวให้ทรุดโทรม แต่ถ้าผู้หญิงดูแลตัวเอง ปฎิบัติให้สามีรู้สึกมีความสุข ก็ไม่จำเป็นต้องห้ามเขาไปมีคนอื่นเลย เพราะเขาจะรู้สึกว่า มีแค่คนเดียวก็มีความสุขพอแล้ว

๑๑. ฉบับที่ ๑๗ ( ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าว่าตนนั้นได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่แล้ว และเมื่อกลับบ้านได้ไม่กี่วัน นางอุไรก็ได้มาหาที่บ้าน และขอให้นายประพันธ์ช่วยดูแลตนอีกครั้ง ด้วยเหตุว่า พระยาตระเวนต้องการบ้านที่ถนนราชประสงค์ให้นางสร้อย เมียรักของเขาอยู่ เขาจึงขอให้นางอุไรย้ายไปอยู่ที่อื่น เงินก็ไม่มีใช้สอย ครั้นจะกลับไปอาศัยพ่อก็กลัวจะเสียหน้า เพราะเคยพูดอวดอ้างไว้ นายประพันธ์แนะนำให้นางอุไรกลับไปง้อพ่อของเธอ นางจึงไปง้อและกลับไปอยู่กับพ่อของตน

๑๒. ฉบับที่ ๑๘ ( ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๖- )
นายประพันธ์ได้เล่าว่า นางอุไรได้ตกลงแต่งงานกับหลวงพิเศษ ผลพานิชที่เป็นพ่อค้าแล้ว ประพันธ์จึงคลายกังวล และนายประพันธ์เองก็ได้รักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อนางสาวศรีสมาน เป็นลูกสาวเจ้าพระยาพิสิฐเสวก ทั้งสองฝ่ายคุยจนเป็นที่ต้องใจกันแล้ว และนายประพันธ์ก็ได้ลงท้ายไว้ว่า จะให้นายประเสริฐมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว

สำนวนสุภาษิตในเรื่อง
ฉบับที่ ๔
๑. เดินเข้าท้ายครัว โดยทั่วไปหมายความว่า เข้าทางภรรยา ในที่นี้หมายถึงใช้ความรู้จักคุ้นเคยกันเป็นส่วนตัวเป็นเครื่องช่วยให้ได้งานทำ
๒. หมอบราบคาบแก้ว ยอมตามโดยไม่ขัดขืน
๓. คลุมถุงชน การแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดการให้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้จักกันหรือไม่ได้รักกันมาก่อน
๔. ลงรอยเป็นท่าประนม ในที่นี้ หมายถึง ยกมือไหว้บ่อยๆ จนมือแทบจะค้างอยู่ในท่านั้น

ฉบับที่ ๖
๑. ทำตัวเป็นหอยจุ๊บแจง หอยจุ๊บแจง เป็นชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยว จะอ้าฝาเปิดปากในน้ำนิ่ง แต่เมื่อมีสิ่งใดมากกระทบ ก็จะปิดฝาซ่อนตัวทันที ในที่นี้หมายถึง ผู้หญิงที่มักเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ขี้อาย ไม่รู้จักเข้าสังคม
๒. ค้อนเสียสามสี้วง

ฉบับที่ ๙
๑. โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้ เป็นคำที่คุณพ่อของนายประพันธ์พูดถึงนางอุไรว่า เป็นผู้หญิงที่คุ้นเคยกับผู้ชายหลายคน
๒. ชิงสุกก่อนห่าม ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัย หรือยังไม่ถึงเวลา มักหมายถึง การลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน

ฉบับที่ ๙
๑. เมฆทุกก้อนมีซับในเป็นเงิน ( Ever cloud has a silver lining ) เป็นสำนวนอังกฤษ หมายความว่าในอุปสรรค์หรือความทุกข์ก็ยังมีสิ่งดีๆ หรือความสุขแทรกอยู่บ้าง
๒. อุทิศตัวเป็นพรหมจรรย์ ประพฤติตนเหมือนนักบวชโดยเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์

ฉบับที่ ๑๕
๑. ขนมปังครึ่งก้อนยังดีกว่าไม่มีเลย ( Half a loaf is better than none ) เป็นสำนวนอังกฤษ หมายความว่า แม้จะไม่ได้สิ่งใดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ถ้าพอมีอยู่บ้างก็ยังดีกว่าไม่มีเลย

ฉบับที่ ๑๗
๑. ขุดอู่ หมายถึง เปลเด็ก มาจากสำนวนว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ผูกอู่ตามใจผู้นอน ซึ่งหมายความว่า ทำตามความพอใจของผู้ที่ได้รับผล โดยตรง “ขุดอู่” ในที่นี้หมายถึง การเลือกคู่ครองด้วยตนเอง

ฉบับที่ ๑๘
๑. เทวดาถอดรูป มีรูปร่างหน้าตาดีราวกับเทวดา

คำทับศัพท์ , คำศัพท์ ภายในเรื่อง

กรมท่าซ้าย หมายถึง ส่วนราชการในสมัยก่อน
สังกัดกรมพระคลัง
ครึ หมายถึง เก่า ล้าสมัย
โช หมายถึง อวดให้ดู
แบชะเล่อร์ ( Bachelor ) หมายถึง ชายโสด
ปอปูลาร์ ( Popular ) หมายถึง ได้รับความนิยม
พิสดาร หมายถึง ละเอียดลออ กว้างขวาง
พื้นเสีย หมายถึง โกรธ
ไพร่ หมายถึง ชาวบ้าน
ฟรี หมายถึง เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์หรือการควบคลุม
เร็สตอรังต์ ( Restaurant ) หมายถึง ภัตตาคาร ร้านอาหาร
เรี่ยม หมายถึง สะอาดหมดจด
ลอยนวล หมายถึง ตามสบาย
เล็กเช่อร์ ( Lecture ) หมายถึง บรรยาย
ศิวิไลซ์ ( Civilize ) หมายถึง เจริญ มีอารยธรรม
สิ้นพูด หมายถึง หมดคำพูดที่จะกล่าว
หดหู่ หมายถึง หอเหี่ยวไม่ชื่นบาน
หมอบราบ หมายถึง ยอมตามโดยไม่ขัดขืน
หมายว่า หมายถึง คาดว่า
หัวนอก หมายถึง คนที่นิยมแบบฝรั่ง
หัวเมือง หมายถึง ต่างจังหวัด
อยู่ข้าง หมายถึง ค่อนข้าง
อินเตอเร้สต์ ( Interest ) หมายถึง ความสนใจ
เอดูเคชั่น ( Education ) หมายถึง การศึกษา
ฮันนี่มูน ( Honeymoon ) หมายถึง การไปเที่ยวด้วยกันของคู่แต่งงานใหม่

หลวง หมายถึง บรรดาศักดิ์ข้าราชการ
ที่สูงกว่าและต่ำกว่าพระ
สัปเปอร์ ( Supper ) หมายถึง อาหารเย็นซึ่งรับประทานตอนหัวค่ำ
หรืออาหารเบาๆ ที่รับประทานตอน กลางคืน

อ้างอิง : https://www.hunsa.com/threads/
http://thn2373202.blogspot.com/p/blog-page_4529.html
http://thn2328333thai.blogspot.com/2015/01/blog-post_51.html

– เป็นบทพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ( รัชกาลที่ ๖ ) โดยใช้พระนามแฝงว่า รามจิตติ- ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ดุสิตสมิต พ.ศ. ๒๔๖๔- รูปแบบบทประพันธ์ เป็นแบบนวนิยายร้อยแก้วรูปแบบจดหมาย มีจำนวนทั้งหมด ๑๘ ฉบับ มีระยะเวลาในจดหมายทั้งหมด ๑ ปี ๗ เดือน- มีจุดมุ่งหมาย เพื่อสะท้อนค่านิยมและสภาพสังคมในสมัยนั้น- เนื้อหาเกี่ยวกับตัวละครเอกสมมุติ นายประพันธ์ ประยูรสิริ นักเรียนนอกที่กลับมาจากประเทศอังกฤษ ที่ได้เขียนจดหมายถึงเพื่อนของเขา นายประเสริฐ สุวัฒน์ เพื่อเล่าเรื่องราวต่างๆ และแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพสังคมในสมัยนั้นแก่นของเรื่องการรู้จักอนุรักษ์วัฒนธรรมอันดีงามของไทยและรู้จักเลือกวัฒนธรรมตะวันตกมาปรับใช้ให้เหมาะสมคุณค่าของเรื่อง๑. ด้านเนื้อเรื่อง หัวใจชายหนุ่มเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถในงานพระราชนิพนธ์ มีแก่นเรื่องชัดเจน น่าอ่าน น่าติดตาม สนุกด้วยลีลาและโวหารอันเฉียบคม แฝงพระอารมณ์ขัน เช่น การแต่งกายของกิมเน้ยที่แต่งตัวดีแต่มีเครื่องเพชรมากเกินไป๒. ด้านความคิด เรื่องหัวใจชายหนุ่มมุ่งเสนอให้ผู้อ่านเห็นว่า นักเรียนนอกในสมัยนั้นเป็นผู้นำ “แฟแช่น” อย่างสุดโต่ง เมื่อปฏิบัติไปแล้วผิดพลาดก็ค้นพบตัวเองว่าต้องหาทางเลือกใหม่ที่เหมาะสม ทำให้ได้คิดว่า เราควรรับและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมที่ดีงามของไทย๓. ด้านความรู้ เรื่องหัวใจชายหนุ่มแสดงให้เห็นวัฒนธรรมการแต่งกายที่เริ่มไว้ผมยาว ค่อยๆเลิกนุ่งโจงกระเบน หันมานุ่งผ้าซิ่น การแสดงละครที่ใช้ชายจริงหญิงแท้ การใช้คำทับศัพท์และสำนวนต่างประเทศเพื่อแสดงความเป็นนักเรียนนอกของคนในสมัยนั้นย่อเนื้อความในจดหมาย๑. ฉบับที่ ๑ ( ๒๓ กันยายน พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เขียนจดหมายฉบับแรก ในระหว่างที่กำลังนั่งเรือ โอยามะ มะรู ผ่านทะเลแดงเล่าบรรยายถึงความเสียใจที่กลับไปยังประเทศไทยและการดูถูกประเทศบ้านเกิดของตนเอง ว่าเป็นประเทศที่อันศิวิไลซ์ แตกต่างจากประเทศอังกฤษ นอกจากนี้ ยังเล่าถึงเหตุการณ์ที่เดินขึ้นบนเรือให้ฟัง คือการได้พบปะกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาสนใจ เธอคือมิสส์มิลเล่อร์ เนื่องด้วยเธอมีลักษณะคล้ายกับลิลี่ แฟนเก่าของเขา จึงชวนพูดคุย และได้รู้ว่าเธอนั้นกำลังจะไปที่ประเทศอียิปต์ เมื่อถึงที่หมาย เขาก็แอบหวังที่เธอจะมีท่าทีเสียใจ แต่ว่าต้องผิดหวัง เพราะเธอนั้นมีคนรักที่มารอรับที่ท่าเรืออยู่แล้ว๒. ฉบับที่ ๔ ( ๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าถึงการพบปะผู้คนหลังมากมายหลังกลับมา แนวคิดของคุณพ่อของเขาที่ไม่คิดว่าคนจะได้ดีจากความสามารถของตนเอง และการเข้ารับราชการในพระราชสำนัก ซึ่งตำแหน่งทั้งหมดนั้นเต็มหมดแล้ว คุณพ่อของเขาจึงใช้เส้นสายโดยการพาไปคุยกับเจ้าคุณผู้สำเร็จราชการมหาดเล็ก แต่ก็ไม่ได้ผล นายประพันธ์จึงขอคุณพ่อของเขาทำอาชีพค้าขาย แต่ก็ถูกปฎิเสธ เพราะท่านเห็นว่า การค้าขายนั้นไม่มีหนทางที่จะเป็นใหญ่เป็นโตได้ นอกจากนี้ เขายังเล่าถึงการโดนจับคลุมถุงชนของตนกับแม่กิมเน้ย ลูกสาวของนายอากรเพ้ง ที่พ่อของนายประพันธ์รับรองว่าเป็นคนดี สมควรแก่เขาทุกประการ แต่ด้วยความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ทำให้เกิด-งกัน และได้ข้อสรุปว่า จะให้ไปดูตัวกันเสียก่อน และยังได้เล่าถึง การพบปะผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาถูกใจที่โรงภาพยนตร์พัฒนากรอีกด้วย๓. ฉบับที่ ๕ ( ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าถึงการได้เข้ารับทำงานราชการ ในตำแหน่งราชการในกรมพานิชย์และสถิติพยากรณ์ ว่ายังไม่มีอะไรพิเศษนัก และการดูตัวแม่กิมเน้ย เขาบอกว่าหน้าตาของหล่อนนั้นเหมือนนางซุนฮูหยิน การแต่งกายค่อนข้างพะรุงพะรังเหมือนต้นคริสต์มาส ยังไม่ถูกใจเขาเท่าไหร่ นอกจากนั้น เขาได้เล่าถึงผู้หญิงที่เจอที่โรงภาพยนตร์พัฒนากรที่ตนได้ไปสืบมา เธอชื่อนางสาวอุไร พรรณโสภณ ลูกสาวของพระพินิฐพัฒนากร หล่อนเป็นผู้หญิงสมัยใหม่แท้ ไม่กลัวผู้ชาย ซึ่งนางประไพ น้องสาวของตนนั้นก็รู้จักเธอ เขาจึงหวังว่าตนจะได้รู้จักกับนางอุไร เขาให้ความเห็นว่า ถ้าได้รู้จักกับแม่อุไร จะพอทำให้คิดถึงประเทศอังกฤษได้ และจะทำให้ชีวิตน่าอยู่มากขึ้น๔. ฉบับที่ ๖ ( ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าถึงการพบแม่อุไรในคืนวันที่ ๒ มกราคม จากประไพที่ได้นัดเชิญให้ไปดูการแต่งไฟทางลำน้ำให้ และหลังจากนั้น ก็ได้พบปะกันอีกหลายครั้ง เขาชมว่าแม่อุนั้นสวย น่ารัก น่าพึงพอใจในหลายๆเรื่อง พูดถึงประเพณีที่ในเมืองไทยนั้น พี่น้องจูบกันไม่ได้ แตกต่างกับพวกฝรั่ง และได้พูดถึงนางกิมเน้ย ที่หลังจากเขาได้เดินผ่านหน้าร้านคุณภักดีไปกับนางอุไร เธอก็โกรธยกใหญ่ และไม่คุยกับนายประพันธ์อีก๕. ฉบับที่ ๙ ( ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์เล่าว่า ตนนั้นได้แต่งงานกับแม่อุไรแล้ว ตั้งแต่วันที่ ๑๘ พฤษภาคม หลังจากกลับมาจากหัวหิน นายประพันธ์ได้ขอให้คุณพ่อไปขอแต่งงานกับนางอุไร ท่านไม่ค่อยเห็นด้วย ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่รู้จักกับผู้ชายหลายคน และก็ไกล่เกลี่ยว่า จะให้ดูไปก่อนประมาณ ๑ ปี แต่นายประพันธ์ปฎิเสธการรอคอย คุณพ่อของเขาจึงจัดการขอแม่อุไร และเมื่อแต่งงานกันแล้ว จึงได้ไปฮันนีมูนที่หันหิน๖. ฉบับที่ ๑๑ ( ๒๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์เล่าเกี่ยวกับบ้านใหม่ของเขา ว่าปกติแล้ว บ้านควรจะเป็นสถานที่พักผ่อนอันพึงใจ สุขใจเพราะได้เห็นภรรยาของตนเอง แต่ตัวเขากลับไม่ได้เช่นนั้น เขากับนางอุไรกลับจากเพชรบุรีในวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอนั้นเบื่อการอยู่หัวเมือง และเมื่อถึงกรุงเทพ ก็ไม่มีใครไปรับ ทำให้เธอโกรธ แต่ก็บอกว่า หลังขึ้นจากเรือจ้างแล้วค่อยทะเลาะกัน เพราะการทะเลาะกันต่อหน้าคนแจวเรือดูไม่งดงาม พอมาถึงบ้านใหม่ที่ดูไม่พร้อม สียังทาไม่แห้ง ของต่างๆก็ยังไม่ได้จัด เกิด-งขึ้นเล็กน้อย และในวันต่อๆมา ก็มีเหตุการณ์ขัดใจขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่านายประพันธ์จะทำอะไร นางอุไรก็จะมองว่าผิดเสมอ จนทำให้นายประพันธ์รู้สึกเหมือนไปโรงเรียนเมื่อกลับบ้าน๗. ฉบับที่ ๑๒ ( ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์เล่าว่า นางอุไรนั้นแท้งลูกแล้ว เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม และสิ้นรักนายประพันธ์แล้ว แต่นายประพันธ์ก็ยอมทนอยู่ด้วยรับชะตากรรม หลังจากที่นางอุไรหายเจ็บท้องแล้ว เธอก็ชอบเที่ยวเสมอๆ พอประพันธ์ถาม นางอุไรก็ฉุนเฉียว นานๆเข้า ก็มีห้างและร้านต่างๆ ส่งใบทวงค่าใช้จ่ายมามากขึ้นจนนายประพันธ์เตือน และโดนสวนกลับมาว่า ก่อนจะแต่งงานกับเธอทำไมไม่ดูให้ดีเสียก่อนว่าเธอใช้จ่ายอะไรบ้าง และไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง จนประพันธ์ต้องไปยืมเงินพ่อมาใช้หนี้ให้แม่อุไร คุณพ่อของนายประพันธ์โกรธ จึงลงแจ้งความในหนังสือพิมพ์ว่าจะไม่ชดใช้หนี้ให้นางอุไร เมื่อแม่อุไรเห็นจึงได้แจ้งความกลับไปว่า เธอไม่ขอรับผิดชอบในเรื่องหนี้สิน และไม่ให้นายประพันธ์มีอำนาจในทรัพย์สมบัติของเธออีกต่อไป และไปอยู่บ้านพ่อของเธอ หลังจากนั้น คุณหลวงเทพปัญหาก็มาหานายประพันธ์ที่บ้าน คุยเรื่องต่างๆรวมถึงเรื่องแม่อุไร ที่เที่ยวอยู่กับพระยาตระเวนนคร ด้วยความเป็นห่วงนางอุไร นายประพันธ์จึงส่งจดหมายไปกล่าวเตือน แต่ถูกฉีกเป็นชิ้นๆกลับมา ต่อมาหลวงเทพก็มาหานายประพันธ์เพื่อบอกว่า แม่อุไรไปค้างบ้านพระยาตระเวนนครแล้ว เมื่อปรึกษากัน หลวงเทพนั้นรับธุระเรื่องขอหย่าไปพูดกับนางอุไร เธอตกลง นายประพันธ์จึงกลับมาโสดอีกครั้ง๘. ฉบับที่ ๑๓ ( ๒๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์เล่าว่า ตนนั้นมีความสุขมากขึ้นมากขึ้นเมื่อเป็นโสด ถึงการที่หย่ากับนางอุไรจะทำให้ถูกบางคนนินทาติโทษ แต่เขาถือว่า การแต่งงานเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่มีใครมาสุขหรือทุกข์แทนเขาได้ ส่วนนางอุไรก็อยู่กับพระยาตระเวนที่มีนางบำเรอถึง ๗ นาง และพวกเธอก็ชอบแผลงฤทธิ์ในระหว่างที่พระยาตระเวนไม่อยู่บ้าน นางอุไรทนไม่ไหวจึงหนีไปอยู่บ้านพ่อ พระยาตระเวนก็ตามไปง้อ และให้นางอุไรอยู่บ้านอีกหลังนึงที่ถนนราชประสงค์ และได้เล่าอีกว่า ตนได้เลื่อนตัวแหน่งมาเป็นผู้ช่วยเจ้ากรมโรงเรียนในพระบรมราชูปถัมภ์ ส่วนทางเสือป่า เขาได้เข้าไปประจำอยู่ในกรมม้าหลวงตามที่สมปรารถนา และได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่เอก๙. ฉบับที่ ๑๕ ( ๒๓ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าถึงงานเฉลิมพระชนมพรรษาของปีนี้ว่าค่อนข้างสนุก พระยาตระเวนก็เห็นด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังเป็นชายโสดเพราะยังไม่ได้เป็นสามีภรรยากันโดยทางราชการ และในช่วงนั้น พระยาตระเวนก็ได้ควงกับผู้หญิงคนหนึ่งบ่อยๆ เธอชื่อ นางสร้อย แต่นางอุไรก็ทำอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้าเลิกกับพระยาตระเวนจะได้รับความลำบากและต้องกลับไปง้อพ่อ ซึ่งเธอได้อวดดีไว้แล้วว่าไม่จำเป็นต้องพึ่งพ่ออีกต่อไป จึงยอมที่จะอยู่นิ่งเฉย นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงสภาพสังคมฝรั่งว่า พวกฝรั่งเห็นว่า การมีภรรยาหลายคนไม่ทำให้ได้รับความเสื่อมเสีย เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวในบ้าน๑๐. ฉบับที่ ๑๖ ( ๓๑ มกราคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าเรื่องเกี่ยวกับงานที่ตนเองทำอยู่นั้นว่า เป็นสิ่งที่ให้เกิดความเพลิดเพลินและมีประโยชน์ ได้พบปะพูดคุยกับผู้อื่น และรู้ความคิดที่กว้างขวางขึ้น เพราะปกติ ต่างคนต่างมีราชการไปทำที่ออฟฟิศ พอหมดเวลาก็แยหย้ายกันไป ไม่ได้พบปะพูดคุยกัน พูดถึงสโมสรที่ตั้งใหม่ขึ้นหลายแห่ง ว่าดูไม่ค่อยจะสำเร็จได้เลย ส่วนสโมสรไทยนั้นที่ยั่งยื่นที่สุด คือสามัคยาจารย์สมาคม เป็นของสำหรับจำเพาะข้าราชการกระทรวงเดียว และกระทรวงนั้นก็ยังหนุนหลังสมาคมไว้อยู่ และได้พูดถึงการเล่นละครที่ผู้ชายเล่นเป็นตัวผู้ชาย ผู้หญิงเล่นเป็นตัวผู้หญิง ที่ตนดูของคณะละครศรีอยุทธยารม ว่าเป็นละครที่แสดงดี ผู้หญิงที่เป็นตัวละครในคณะนี้ก็ยังสาวๆอยู่ ถึงจะมีสามีและบุตรแล้วก็ตาม ผู้หญิงที่มีลูกแล้วไม่จำเป็นต้องแก่อย่างที่เขาว่ากัน ผู้ชายที่เบื่อผู้หญิงที่มีลูกแล้ว ก็ต้องโทษผู้หญิงด้วยเช่นกัน เพราหมายคนมักเข้าใจผิดว่า พอมีลูกก็ชอบปล่อยตัวให้ทรุดโทรม แต่ถ้าผู้หญิงดูแลตัวเอง ปฎิบัติให้สามีรู้สึกมีความสุข ก็ไม่จำเป็นต้องห้ามเขาไปมีคนอื่นเลย เพราะเขาจะรู้สึกว่า มีแค่คนเดียวก็มีความสุขพอแล้ว๑๑. ฉบับที่ ๑๗ ( ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าว่าตนนั้นได้เลื่อนยศเป็นนายหมู่ใหญ่แล้ว และเมื่อกลับบ้านได้ไม่กี่วัน นางอุไรก็ได้มาหาที่บ้าน และขอให้นายประพันธ์ช่วยดูแลตนอีกครั้ง ด้วยเหตุว่า พระยาตระเวนต้องการบ้านที่ถนนราชประสงค์ให้นางสร้อย เมียรักของเขาอยู่ เขาจึงขอให้นางอุไรย้ายไปอยู่ที่อื่น เงินก็ไม่มีใช้สอย ครั้นจะกลับไปอาศัยพ่อก็กลัวจะเสียหน้า เพราะเคยพูดอวดอ้างไว้ นายประพันธ์แนะนำให้นางอุไรกลับไปง้อพ่อของเธอ นางจึงไปง้อและกลับไปอยู่กับพ่อของตน๑๒. ฉบับที่ ๑๘ ( ๑๓ เมษายน พ.ศ.๒๔๖- )นายประพันธ์ได้เล่าว่า นางอุไรได้ตกลงแต่งงานกับหลวงพิเศษ ผลพานิชที่เป็นพ่อค้าแล้ว ประพันธ์จึงคลายกังวล และนายประพันธ์เองก็ได้รักกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อนางสาวศรีสมาน เป็นลูกสาวเจ้าพระยาพิสิฐเสวก ทั้งสองฝ่ายคุยจนเป็นที่ต้องใจกันแล้ว และนายประพันธ์ก็ได้ลงท้ายไว้ว่า จะให้นายประเสริฐมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวสำนวนสุภาษิตในเรื่องฉบับที่ ๔๑. เดินเข้าท้ายครัว โดยทั่วไปหมายความว่า เข้าทางภรรยา ในที่นี้หมายถึงใช้ความรู้จักคุ้นเคยกันเป็นส่วนตัวเป็นเครื่องช่วยให้ได้งานทำ๒. หมอบราบคาบแก้ว ยอมตามโดยไม่ขัดขืน๓. คลุมถุงชน การแต่งงานที่ผู้ใหญ่จัดการให้โดยที่เจ้าตัวไม่รู้จักกันหรือไม่ได้รักกันมาก่อน๔. ลงรอยเป็นท่าประนม ในที่นี้ หมายถึง ยกมือไหว้บ่อยๆ จนมือแทบจะค้างอยู่ในท่านั้นฉบับที่ ๖๑. ทำตัวเป็นหอยจุ๊บแจง หอยจุ๊บแจง เป็นชื่อหอยทะเลกาบเดี่ยว จะอ้าฝาเปิดปากในน้ำนิ่ง แต่เมื่อมีสิ่งใดมากกระทบ ก็จะปิดฝาซ่อนตัวทันที ในที่นี้หมายถึง ผู้หญิงที่มักเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ขี้อาย ไม่รู้จักเข้าสังคม๒. ค้อนเสียสามสี้วงฉบับที่ ๙๑. โรงเรียนฝึกหัดเจ้าชู้ เป็นคำที่คุณพ่อของนายประพันธ์พูดถึงนางอุไรว่า เป็นผู้หญิงที่คุ้นเคยกับผู้ชายหลายคน๒. ชิงสุกก่อนห่าม ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัย หรือยังไม่ถึงเวลา มักหมายถึง การลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงานฉบับที่ ๙๑. เมฆทุกก้อนมีซับในเป็นเงิน ( Ever cloud has a silver lining ) เป็นสำนวนอังกฤษ หมายความว่าในอุปสรรค์หรือความทุกข์ก็ยังมีสิ่งดีๆ หรือความสุขแทรกอยู่บ้าง๒. อุทิศตัวเป็นพรหมจรรย์ ประพฤติตนเหมือนนักบวชโดยเว้นจากการมีเพศสัมพันธ์ฉบับที่ ๑๕๑. ขนมปังครึ่งก้อนยังดีกว่าไม่มีเลย ( Half a loaf is better than none ) เป็นสำนวนอังกฤษ หมายความว่า แม้จะไม่ได้สิ่งใดอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ถ้าพอมีอยู่บ้างก็ยังดีกว่าไม่มีเลยฉบับที่ ๑๗๑. ขุดอู่ หมายถึง เปลเด็ก มาจากสำนวนว่า ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ผูกอู่ตามใจผู้นอน ซึ่งหมายความว่า ทำตามความพอใจของผู้ที่ได้รับผล โดยตรง “ขุดอู่” ในที่นี้หมายถึง การเลือกคู่ครองด้วยตนเองฉบับที่ ๑๘๑. เทวดาถอดรูป มีรูปร่างหน้าตาดีราวกับเทวดาคำทับศัพท์ , คำศัพท์ ภายในเรื่องกรมท่าซ้าย หมายถึง ส่วนราชการในสมัยก่อนสังกัดกรมพระคลังครึ หมายถึง เก่า ล้าสมัยโช หมายถึง อวดให้ดูแบชะเล่อร์ ( Bachelor ) หมายถึง ชายโสดปอปูลาร์ ( Popular ) หมายถึง ได้รับความนิยมพิสดาร หมายถึง ละเอียดลออ กว้างขวางพื้นเสีย หมายถึง โกรธไพร่ หมายถึง ชาวบ้านฟรี หมายถึง เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์หรือการควบคลุมเร็สตอรังต์ ( Restaurant ) หมายถึง ภัตตาคาร ร้านอาหารเรี่ยม หมายถึง สะอาดหมดจดลอยนวล หมายถึง ตามสบายเล็กเช่อร์ ( Lecture ) หมายถึง บรรยายศิวิไลซ์ ( Civilize ) หมายถึง เจริญ มีอารยธรรมสิ้นพูด หมายถึง หมดคำพูดที่จะกล่าวหดหู่ หมายถึง หอเหี่ยวไม่ชื่นบานหมอบราบ หมายถึง ยอมตามโดยไม่ขัดขืนหมายว่า หมายถึง คาดว่าหัวนอก หมายถึง คนที่นิยมแบบฝรั่งหัวเมือง หมายถึง ต่างจังหวัดอยู่ข้าง หมายถึง ค่อนข้างอินเตอเร้สต์ ( Interest ) หมายถึง ความสนใจเอดูเคชั่น ( Education ) หมายถึง การศึกษาฮันนี่มูน ( Honeymoon ) หมายถึง การไปเที่ยวด้วยกันของคู่แต่งงานใหม่หลวง หมายถึง บรรดาศักดิ์ข้าราชการที่สูงกว่าและต่ำกว่าพระสัปเปอร์ ( Supper ) หมายถึง อาหารเย็นซึ่งรับประทานตอนหัวค่ำหรืออาหารเบาๆ ที่รับประทานตอน กลางคืนอ้างอิง : https://www.hunsa.com/threads/http://thn2373202.blogspot.com/p/blog-page_4529.htmlhttp://thn2328333thai.blogspot.com/2015/01/blog-post_51.html


ALESTI – Silver Lining (feat. Rob Endling)


Newest track ‘Voices’: https://www.youtube.com/watch?v=7dCJH3t_U2o
Spotify https://sptfy.com/alesti
Apple Music https://apple.co/2NwBjbF
Bandcamp https://alesti.bandcamp.com
MERCH: https://alestimerch.com
Music \u0026 lyrics: ALESTI
Production \u0026 Mix: ALESTI Productions
► Check out Rob Endling and his band \”Sixlight\” here:
https://www.facebook.com/sixlightmusic/
https://www.youtube.com/channel/UCqGAFnG9SuIfuOiq3_Okb6g
► Lyrics:
Every cloud has a silver lining
(Every cloud has a silver lining)
(Every cloud has a silver lining)
I feel as if I’ve been here before
Knocking helplessly at this same old door
I can’t do this any more
‘Cause every move I make
Puts me one step back
With every breath that I take
I feel my eyesight fade to black
How can I win this war
(How can I win this war)
I’ve found my remedy at last
And now my guiding star is shining
As my present becomes my past
I realise that every cloud has a silver lining
(That every cloud has a silver lining)
I feel as if I’ve been far from home
I’ve been to places I didn’t even know
I was sinking and as good as gone
But I have covered the costs
Of making it back
I have found what was lost
And turned to light what was turning black
A nighttime turned to dawn
I’ve found my remedy at last
And now my guiding star is shining
As my present becomes my past
I realise
(that every cloud has a silver lining)
I’ve found my remedy at last
And finally my stars are aligning
As my present becomes my past
I realise that every cloud has a silver lining
(That every cloud has a silver lining)
(That every cloud has a silver lining)
A silver lining
Enjoyed the music? Be sure to subscribe!
ALESTI SIXLIGHT RobEndling

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ALESTI - Silver Lining (feat. Rob Endling)

We Say – You Say: Every cloud has a silver lining


Use your language to help you remember English expressions. English speakers say ‘every cloud has a silver lining’ to say that in every bad situation something good exists, even though it may not always be obvious. Hear how it is said in Azeri, Thai and Swahili. Then check your understanding here http://www.bbc.co.uk/learningenglish/english/course/experiment/unit1/session4
More episodes:
Once bitten, twice shy
https://www.youtube.com/watch?v=YFKPQ7BiIOg
Don’t cry over spilt milk
https://www.youtube.com/watch?v=oBm2zhpSeZg
Too many cooks spoil the broth
https://www.youtube.com/watch?v=eoW1DZTQhHA\u0026t=6s
A leopard can’t change its spots
https://www.youtube.com/watch?v=L5jZanNyuS4
Don’t judge a book by its cover
https://www.youtube.com/watch?v=yhFvpqjadI
Every cloud has a silver lining
https://www.youtube.com/watch?v=tUUx9jsGRiU\u0026t=1s
[Images: GETTY IMAGES]
We like receiving and reading your comments please use English when you comment.
For more videos and content that will help you learn English, visit our website: http://www.bbclearningenglish.com
LearnEnglish WeSayYouSay EnglishIdioms

We Say - You Say: Every cloud has a silver lining

Jessie J – Silver Lining (Crazy ‘Bout You)


Music video by Jessie J performing Silver Lining (Crazy ‘Bout You) from Silver Linings Playbook. (C) 2012 Realsongs

Jessie J - Silver Lining (Crazy 'Bout You)

เพลงสากลแปลไทย Something Sad – Timothy B. Schmit (Lyrics \u0026 Thai subtitle)


ฟังเพลงสากลแปลไทยทั้งหมด https://www.youtube.com/playlist?list=PL2HflD3d29ayrvmqKfkiKKyBVUMAH9ifL
Credit and thanks for pics and audio to their original owners.
No copyright infringement intended.
For entertainment and English learning purposes only.
♪♫♫ ♥ ….♪♫♫ ♥
….Thank you to everyone for subscribing, rating, faving, and commenting my videos and channel. It really means a lot to me

เพลงสากลแปลไทย Something Sad -  Timothy B. Schmit (Lyrics \u0026 Thai subtitle)

Maître Gims – Bella (Clip officiel)


Maître Gims \”Bella\” (clip officiel)
Retrouve toute la discographie de Maître Gims : https://maitregims1.lnk.to/b0C9tID

Abonnetoi à la chaîne officielle de Maître Gims pour découvrir toutes ses vidéos : https://www.youtube.com/channel/UCCB1Byx5yTbLpQaVrlfmtA/?sub_confirmation=1
Retrouve tous les albums de Maître Gims : https://www.youtube.com/channel/UCCB1Byx5yTbLpQaVrlfmtA/playlists?view=50\u0026sort=dd\u0026shelf_id=968
Retrouve tous les clips de Maître Gims : https://www.youtube.com/playlist?list=PLwMuWIGfMyJUxQiAHSpJHff66uFpN5IT

Retrouve Maître Gims sur :
Facebook : https://www.facebook.com/maitregimsoff
Twitter: https://twitter.com/maitrgims
Website: http://www.maitregims.fr
Album : \”Subliminal\” :
01. Intro
02. Meurtre par strangulation
03. J’me tire
04. Freedom
05. VQ2PQ
06. Ça décoiffe
07. One Shot
08. Où est ton arme ?
09. Interlude
10. La chute
11. Ça marche
12. Épuisé
13. Laisse tomber
14. À la base
15. Pas touché
16. Outsider
17. Bella
18. Changer

Maître Gims - Bella (Clip officiel)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ silver lining แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *