Skip to content
Home » [NEW] | ตัวอย่าง ประโยค ภาษา อังกฤษ ประธาน กริยา กรรม – NATAVIGUIDES

[NEW] | ตัวอย่าง ประโยค ภาษา อังกฤษ ประธาน กริยา กรรม – NATAVIGUIDES

ตัวอย่าง ประโยค ภาษา อังกฤษ ประธาน กริยา กรรม: คุณกำลังดูกระทู้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

1.8K viewed

Active Voice and Passive Voice

 

หลาย ๆ ครั้งเราก็สงสัยว่าประโยคหนึ่งๆ อะไรเป็นประธาน อะไรเป็นกรรม ซึ่งโดยปกติแล้วในประโยคก็จะมีการเรียง ประธาน + กริยา  + กรรม คือ ประธานกระทำต่อกรรม

กลับกันรูปแบบประโยคอีกแบบหนึ่งคือ ประธานของประโยคถูกกระทำ กรรมใดที่มีคือประธานของประโยคนั่นเอง แล้วอะไรคือข้อแตกต่าง หรือมีเงื่อนไขอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

 

  1. Active Voice

    คือ

    ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง

    โดยมีกรรมมารับหรือไม่มีกรรมมารับประโยคก็ได้ซึ่งมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ

    ดังนี้

Subject + Verb (ประธาน + กริยา)

 

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษแบบย่อ คือ

S. + V.

 

โดยทั่วไป สามารถเขียนโครงสร้างประโยคออกเป็นแบบต่างๆ แบ่งตามกาลเวลา และขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความหมายที่ต้องการสื่อ โดยในภาษาอังกฤษจะใช้หลักโครงสร้าง tense ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะแบ่งเป็น 12 tense ซึ่งเป็นโครงสร้างสำหรับอดีต 3 แบบ ปัจจุบัน 3 แบบ และอนาคต 3 แบบ

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับปัจจุบัน คือ

Present simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอดีต คือ

Past Simple

 

โครงสร้างพื้นฐานสำหรับอนาคต คือ

Future Simple

2. Passive Voice คือ กรรมวาจก เป็นประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ เป็นประโยคที่นำเอาคน สัตว์ สิ่งของ หรือสถานที่ ที่ถูกกริยาของประโยคกระทำ มาวางไว้ข้างหน้าประโยค เป็นประธานของประโยค โดยมีโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ ดังนี้

 

             Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle)

             ประธาน + กริยา to be + กริยาช่องที่ 3

 

             โครงสร้างประโยค Passive Voice แบบย่อ คือ

             S. + V. to be + V.3

โครงสร้างหลักของ Passive voice คือ Subject + Verb to be + Verb 3 ซึ่งมีความแตกต่างของแต่ละ tense อิงตามโครงสร้าง tense แบบ active voice โดยสามารถทำประโยค passive voice ได้ง่ายๆ เพียงแค่นำ V. to be ไว้หน้ากริยา แล้วทำกริยานั้นให้กลายเป็นช่องที่ 3 ดูได้จากโครงสร้าง และตัวอย่างประโยค passive voice ทั้ง 12 tenses ต่อไปนี้

  Passive voice ใน Tense ตระกูล Present (ปัจจุบัน)

 

present simple tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + Verb 3

ตัวอย่าง The lessons are taught (by Lisa) today.

 

present continuous tense

โครงสร้าง Subject + is, am, are + being + Verb 3

ตัวอย่าง The car is being fixed (by Peter) right now.

 

present perfect tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + Verb 3

ตัวอย่าง It has been sent.

 

present perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + have, has + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง They have been being interviewed since 9 a.m.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Past (อดีต)

 

past simple tense

โครงสร้าง Subject + was, were + Verb 3

ตัวอย่าง They were informed.

 

past continuous tense

โครงสร้าง Subject + was, were + being + Verb 3

ตัวอย่าง They were being warned.

 

past perfect tense

โครงสร้าง Subject + had + been + Verb 3

ตัวอย่าง He had been hit before he became disable.

 

past perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + had + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง It had been being built for three years.

 

Passive voice ใน Tense ตระกูล Future (อนาคต)

 

future simple tense

โครงสร้าง Subject + will + be + Verb 3

ตัวอย่าง You will be loved forever.

 

future continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + be + being + Verb 3

ตัวอย่าง It will be being made when you come tomorrow.

 

future perfect tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + Verb 3

ตัวอย่าง It will have been read by tomorrow.

 

future perfect continuous tense

โครงสร้าง Subject + will + have + been + being + Verb 3

ตัวอย่าง The stories will have been being told for 20 minutes when you arrive.

การเปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็น Passive Voice

1.ให้เอากรรมของประโยค Active Voice มาเป็นประธานในประโยค Passive Voice ถ้าเป็นคำนามไม่ต้องเปลี่ยนรูป แต่ถ้าคำสรรพนามให้เป็นเปลี่ยนเป็นรูปกรรม

2.ให้เปลี่ยน Verb to be อยู่ใน Tense เดียวกับกริยาหลักของประโยค Active Voice และผันตามประธานในประโยค Passive Voice

3.กริยาหลักในประโยค Active Voice ควรเปลี่ยนเป็นกริยาช่องที่ 3

4.ต่อด้วย by + ประธานในประโยค Active Voice ที่เปลี่ยนรูปกรรม ถ้าเป็นคำนามให้คงรูปเดิม แต่คำสรรพนามให้เปลี่ยนเป็นรูปกรรมก่อน

 

ตัวอย่างเช่น

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น is , am , are

เช่น She drinks milk.

Milk is drunk by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (is,am,are) + being

เช่น She is eating oranges.

Oranges are being eaten by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Present Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (has,have) + been

เช่น He has written these letters.

These letters have been written by him.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น was, were

เช่น She drinks milk.

Milk was drunk by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Continouns ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (was,were) + being

เช่น She was eating oranges.

Oranges were being eaten by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Past Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น had been

เช่นHe had written these letters.

These letters had been written by him.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Simple ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + be

เช่น She will do her homework.

Her homework will be doneby her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Continuous ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น

(will,shall) + be + being

เช่น She will be sending a letter.

A letter will be being sent by her.

 

– กริยาหลักในประโยค Active Voice เป็น Future Perfect ให้ Verb to be ในประโยค Passive Voice เป็น (will,shall) + have + been

เช่น They will have cleaned this room this weekend.

This room will have been cleaned by them this weekend.

 

 

การเปลี่ยนประโยคคำถาม

Active Voice

เป็น

Passive Voice

 

ถ้าประโยคขึ้นต้นด้วย Helping Verb

1.เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.เปลี่ยนประโยคบอกเล่าจาก Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Helping Verb ขึ้นต้นประโยคและตามด้วยประธาน กริยา และส่วนอื่นๆ ต่อไป

ตัวอย่างเช่น

Does she buy this book ?

ขั้น 1   She buys this book.

ขั้น 2   This book is bought by her.

ขั้น 3   Is this book bought by her ? (Passive Voice)

 

ถ้าประโยคคำถามขึ้นต้นด้วย Question Word

1.ให้เปลี่ยนประโยคคำถามเป็นประโยคบอกเล่า

2.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Active Voice เป็นประโยค Passive Voice

3.ให้เปลี่ยนประโยคบอกเล่า Passive Voice เป็นประโยคคำถาม โดยใช้ Question Word เป็นคำขึ้นต้นประโยคและตามด้วย helping verb ประธาน กริยาและส่วนอื่น ๆ ต่อไป ยกเว้น คำว่า Who ในประโยค Active Voice ให้เปลี่ยนเป็น By whom ในประโยค Passive Voice

เช่น   Who sees her ?

ขั้น 1.  Who sees her.

ขั้น 2.  She is seen by whom.

ขั้น 3.  By whom is she seen?

 

Which car do you buy?

ขั้น 1.  You buy which car.

ขั้น 2, 3  Which car is bought by you ?

 

Verbs Expressing Emotion หมายถึง กริยาที่แสดงความรู้สึก เช่น interest , amuse , bore , please , frighten , excite , tire , astonish , surprise , disappoint , etc. ลักษณะการใช้กริยาเหล่านี้ คือ

1.ใช้เป็น Verb ในรูป Active Voice (Subj + V + obj) แปลว่า ทำให้   

เช่น This car interests me. แปลว่า รถคันนี้ทำให้ฉันสนใจ

2.ใช้ใน present participle (V-ing) แปลว่า น่า เมื่อมีความรู้สึกอย่างใดอย่างหนึ่งต่อบุคคลหรือสิ่งใด ให้เติม -ing หลัง Verb นั้น

เช่น John is boring . แปลว่า จอห์นเป็นคนน่าเบื่อ

This book is interesting . แปลว่า หนังสือเล่มนี้น่าสนใจ

3.ใช้เป็น Adj หรือในรูป Passive Voice เรียก Past participle adjective คือ adj ที่มาจาก past participle (Subj + Verb to be +past participle adj + prep) แปลว่า รู้สึก เมื่อบุคคลใดมีความรู้สึกอย่างไรต่อบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่น เติม ed หลัง Verb และมี preposition ตาม

เช่น John is bored with her.

แปลว่า จอห์น เบื่อเธอ

 

She is interested in this book .

แปลว่า เธอ สนใจในหนังสือเล่มนี้

 

 

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี (อ.ต้นอมร) http://www.tonamorn.com/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9/active-passive-voice/

[NEW] Clauses ประโยคย่อย หรือ อนุประโยค | ตัวอย่าง ประโยค ภาษา อังกฤษ ประธาน กริยา กรรม – NATAVIGUIDES

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

1.1K viewed

ประโยคย่อย หรือ อนุประโยค (clauses) คือประโยคที่เป็นส่วนหนึ่งของ compound หรือ complex sentences หรืออนุประโยค ที่เป็นกลุ่มคำซึ่งมีประธานและกริยาในประโยค แต่มีใจความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง จึงไม่สามารถใช้โดยลำพังได้ ต้องอาศัยใจความจากประโยคหลักเข้ามาช่วย หรืออีกนัยหนึ่ง clause ก็คือประโยคที่ซ่อนอยู่ในประโยคนั่นเอง clause อาจใช้เสมือนเป็น noun, adjective หรือ adverb ก็ได้

 

ตัวอย่าง ประโยคย่อย หรือ อนุประโยค

     – ประโยค My sister arrived early in the morning, and my brother arrived at noon.

ประกอบด้วยประโยคย่อย 2 ประโยคต่อไปนี้ โดยเชื่อมเข้ากันด้วย and

1) My sister arrived early in the morning.

2) My brother arrived at noon.

 

     -ประโยค The woman who is standing over there is my boss.

ประกอบด้วยประโยคย่อย 2 ประโยคต่อไปนี้

1) The woman is my boss.

2) Who is standing over there.

ประโยคย่อย Who is standing over there ทำหน้าที่ขยายความ the woman  เพื่อให้เกิดความชัดเจนยิ่งขึ้นว่าเป็นผู้หญิงคนไหน

 

ประเภทของประโยคย่อย

ประโยคย่อยอาจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ประโยคย่อยอิสระ และประโยคย่อยไม่อิสระ

  1. ประโยคย่อยอิสระ (independent clause)

คือ ประโยคย่อยที่สามารถอยู่ได้ตามลำพัง กล่าวคือ เป็นประโยคย่อยที่ได้ใจความสมบูรณ์ โดยไม่ต้องอาศัยประโยคย่อยอื่น

ตัวอย่าง

                        My sister arrived early this morning.

                        My brother arrived at noon.

 

  1. ประโยคย่อยไม่อิสระ (dependent clause)

คือ ประโยคย่อยที่อยู่ตามลำพังไม่ได้ เช่น ประโยคย่อย Who is standing over there. ที่ทำหน้าที่ขยายความ The woman ในประโยค The woman who is standing over there is my boss.    

 ประโยคย่อยไม่อิสระ อาจแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ

                                2.1 noun clause คือ ประโยคย่อยที่ขึ้นต้นด้วย noun clause marker เช่น that, whether, if และ question words ซึ่งได้แก่ who, what, when, where, why, which และ how  ประโยคย่อยประเภทนี้ทำหน้าที่เหมือนคำนาม เช่น ทำหน้าที่ประธาน กรรม เป็นต้น

ตัวอย่าง

                               What you said is true.  (What you said ทำหน้าที่ประธานของประโยค)

                                I believe that Jack is innocent. (that Jack is innocent ทำหน้าที่กรรมของประโยค)

                                Please let me know if (หรือ whether) you can come to my birthday party on Sunday night. (if / whether you can come to my birthday party on Sunday night ทำหน้าที่กรรมของกริยา know)

                                 

                                2.2 adjective clause หรือ relative clause คือ ประโยคย่อยที่ขึ้นต้นด้วย relative pronouns เช่น who, which, that, etc.  ประโยคย่อยชนิดนี้จะทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์

ตัวอย่าง

                        The boy who came late is my nephew. (who came late ทำหน้าที่ขยาย The boy)

 

                                  2.3 adverb clause คือ ประโยคย่อยที่ขึ้นต้นด้วยคำสันธาน ที่เรียกว่า subordinate conjunction ซึ่งทำหน้าที่ต่าง ๆ เช่น

2.3.1           บอกเวลา ได้แก่  when, while, before, after, etc.

2.3.2           บอกเงื่อนไข ได้แก่ if, unless, provided, after, etc.

2.3.3           บอกวัตถุประสงค์ ได้แก่ so that, in order that, etc.

2.3.4           บอกความขัดแย้ง ได้แก่ although, though, even if, etc.

2.3.5           บอกสถานที่ ได้แก่ where, wherever, etc.

2.3.6           บอกลักษณะ ได้แก่ as if, as though, etc.

2.3.7           บอกการเปรียบเทียบ ได้แก่ as…as, etc.

2.3.8           บอกสาเหตุ ได้แก่ because, etc.

2.3.9           บอกผล ได้แก่ so, etc.

ตัวอย่าง

       -I will go when I have finished my work.

(when I have finished my work ทำหน้าที่บอกเวลา)

       -If it snows, we will stay indoors.

(If it snows ทำหน้าที่บอกเงื่อนไข)

       – I read the newspaper every day so that I know what is going on.

(so that I know what is going on ทำหน้าที่บอกวัตถุประสงค์)

        -Although John is poor, he is happy.

(Although John is poor ทำหน้าที่บอกความขัดแย้ง)

        -I want to live where it is really quiet.

 

(where it s really quiet ทำหน้าที่บอกสถานที่)

        -She talked as if she had seen the accident herself.

(as if she had seen the accident herself ทำหน้าที่บอกลักษณะ)

        -I walked as fast as I could.

(as fast as I could ทำหน้าที่บอกการเปรียบเทียบ)

        -Mary did not pass the final exam because she did not study for it at all.

(because she did not study for it at all ทำหน้าที่บอกสาเหตุ)

        -Sumalee wants to be able to speak English fluently, so she attends classes at the British Council every day.

(so she attends classes at the British Council every day ทำหน้าที่บอกผล)

 

จากตัวอย่าง clause ข้างต้น จะสังเกตได้ว่าอนุประโยคเหล่านี้ไม่สามารถใช้โดยลำพังได้ และบางที clause อาจสั้นจนดูเหมือนเป็นวลี

เช่น      When (you are) in doubt, ask your teacher.

             We shall fight, if (it is) necessary.

 

ที่มา: http://www.stou.ac.th/


ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน | V.to be | is am are was were | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


เรียนภาษาอังกฤษ ฝึกแต่งประโยคในชีวิตประจำวัน ฟรีภาษาอังกฤษ
คลิปนี้จะมาสอนการฝึกแต่งประโยคด้วยการใช้ verb to be จะมาทำความรู้จักกับ verb to be is am are was were แต่งประโยคปัจจุบันอดีตอนาคตโครงสร้างประโยคทั่วไปประธานกริยากรรมจำที่ใช้หลัง verb to be

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน | V.to be | is am are was were | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animal


คำศัพท์ สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animal
คำศัพท์อังกฤษ ภาษาอังกฤษ กีฬาอังกฤษ

คำศัพท์ สัตว์ ภาษาอังกฤษ Animal

คำศัพท์ที่ใช้แต่งประโยค | ภาษาอังกฤษ | | Noun | นามนับได้ | นามนับไม่ได้ | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


เรียนภาษาอังกฤษ เรียนภาษา ฝึกพูดภาษาอังกฤษ
คลิปนี้จะเป็นคำมานะคะสอนเกี่ยวกับคำนามนับได้และคำนามนับไม่ได้นะคะเป็นหนึ่งในชนิดของ Parts of speech นะคะส่วนของคำพูดในภาษาอังกฤษเอาไว้แต่งประโยคภาษาอังกฤษค่ะ

คำศัพท์ที่ใช้แต่งประโยค | ภาษาอังกฤษ | | Noun | นามนับได้ | นามนับไม่ได้ | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

คำกริยา – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.3


ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
webpage : http://www.kruao.com
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
วีดีโอนี้จะสอนเกี่ยวกับ
มาเรียนรู้ ความหมาย และการใช้ คำกริยา
ตัวอย่างคำศํพท์ และประโยค ของ คำกริยา
บทเรียนอิเล็กทรอกนิกส์ วิชา ภาษาไทย ป.3 ชุดนี้
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
http://www.otpchelp.com

คำกริยา - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.3

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย


100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย
กริยาอังกฤษ ภาษาอังกฤษ verb
ภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
กริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษใช้บ่อย,
คำกริยาอังกฤษ,
คำกริยาภาษาอังกฤษ,
กริยาอังกฤษใช้บ่อย,

100 คำกริยาภาษาอังกฤษverb ที่ใช้บ่อย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่าง ประโยค ภาษา อังกฤษ ประธาน กริยา กรรม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *