Skip to content
Home » [NEW] คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | foot พหูพจน์ – NATAVIGUIDES

[NEW] คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | foot พหูพจน์ – NATAVIGUIDES

foot พหูพจน์: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

คำนามเอกพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของเพียงชิ้นเดียว คนๆเดียว หรือสัตว์ตัวเดียว เช่น กระเป๋า 1 ใบ (a bag) ผู้ชาย 1 คน (a man) พูดง่ายๆเลยก็คือ อะไรก็ตามที่มีเพียงหนึ่งหน่วย

คำนามพหูพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของที่มีมากกว่า 1 ชิ้น เช่น กระเป๋า 2 ใบ (2 bags) ผู้ชาย 4 คน (4 men) เป็นต้น

อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในภาษาอังกฤษเวลาที่เราต้องการเปลี่ยน “คำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์” เพื่อบอกปริมาณสิ่งของที่เพิ่มขึ้นนั้นสามารถทำได้หลายวิธี มาดูกันว่ามีวิธีการใดบ้าง
วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีทั้งหมด 7 วิธีด้วยกัน

1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย

       ได้ยินกันบ่อยมากกก เรื่องของการ เติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน

ตัวอย่าง I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.

2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ

Singular
Plural
คำแปล

bush (บุช)
bushes (บุช-เชส)
พุ่มไม้

bus (บัส)
buses (บัส-เซส)
รถเมล์

dress (เดรส)
dresses (เดรส-เซส)
ชุดกระโปรง

church (เชิร์ช)
churches (เชอร์-เชส)
โบสถ์

3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es
– ส่วนมากแล้วคำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย เช่น Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส) , Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
– บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์)
buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส)
ควาย

domino (ดอ-มิ-โนว์)
dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส)
โดมิโน่

hero (ฮี-โรว์)
heroes (ฮี-โรว์ส)
ฮีโร่

echo (เอ็ค-โคว์)
echoes (เอ็ค-โคว์ส)
เสียงก้อง

mosquito (มอส-กี-โทว์)
mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส)
ยุง

potato (เพอะ-เท-โทว์)
potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส)
มันฝรั่ง

tomato (โท-เม-โทว์)
tomatoes (โท-เม-โทว์ส)
มะเขือเทศ

 

4.

คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม-s หรือเติม –es

    ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s เช่น

Singular
Plural
คำแปล

monkey (มัง-คิ)
monkeys (มัง-คิส์)
ลิง

birthday (เบิร์ธ-เดย์)
birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส)
วันเกิด

key (คีย์)
keys (คีย์ส)
กุญแจ

way (เวย์)
ways (เวย์ส)
เส้นทาง

chimney (ชิม-นีย์)
chimneys (ชิม-นีย์ส)
ปล่องไฟ

 สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัว คือ a, e, i, o, u

    ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

enemy (เอเน-มิ่)
enemies (เอเนมิ่ส์)
ศัตรู

berry (เบร์-ริ่)
berries (เบร์ริ่ส์)
ลูกเบอร์รี่

duty (ดิว-ทิ่)
duties (ดิว-ทิ่ส์)
หน้าที่

spy (สปาย)
spies (สปายส์)
สายลับ

library (ไล-แบร-ริ่)
libraries (ไล-แบร-ริ่ส์)
ห้องสมุด

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

 life (ไลฟ)
lives (ลายฟส์)
ชีวิต

 shelf (เชลฟ์)
shelves (เชลฟส์)
ชั้นวางของ

 loaf (โลฟ)
loaves (โลฟส์)
ก้อนขนมปัง

 thief (ธีฟ)
thieves (ธีฟส์)
โจร

 wife (ไวฟ)
wives (ไวฟส์)
ภรรยา

6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที
อันนี้เรามักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่น

Singular
Plural
คำแปล

child (ชายลด์)
children (ชิล-เดริน)
เด็ก

tooth (ทูธ)
teeth (ทีธ)
ฟัน

foot (ฟุท)
feet (ฟีท)
เท้า

mouse (เมาส์)
mice (ไมส์)
หนู

man (แมน)
men (เม็น)
ผู้ชาย

7. คำนามบางคำ สามารถใช้รูปเดิมได้ทั้งเวลาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์

        อันนี้ไม่ต้องเปลี่ยนรูป หรือเติมอะไรเลย ส่วนมากก็จะเป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งนั้น มาดูกันว่ามีคำไหนบ้าง เช่น

  • fish 

  • deer  

  • sheep  

8. คำนามบางคำเป็นพหูพจน์อยู่เสมอ
คือต้องมี –s หรือ –es ต่อท้ายตลอด ไม่มีไม่ได้ เช่น

  • scissors

  • pants    

  • clothes    

  • jeans    

  • glasses   

  • noodles    

  • goods    

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

1. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch, zz, และ z ให้เติม es ง่ายเวลาออกเสียง

  • bus – buses (รถประจำทาง)

  • kiss – kisses (จูบ)

  • fox – foxes (สุนขจิ้งจอก)

  • brush – brushes (แปรง)

  • witch – witches (แม่มด)

  • buzz – buzzes (เสียงของผึ้ง)

2. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม es

  • buffalo – buffaloes (ควาย)

  • mango – mangoes (มะม่วง)

  • tomato – tomatoes (มะเขือเทศ)

  • potato – potatoes (มันฝรั่ง)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า o เป็นพยัญชนะสามารถเติม s ได้เลย นักเรียนจะต้องสังเกตและจดจำคำศัพท์และการใช้ s และ es จากตัวอย่างที่ให้

ตัวอย่าง การเติม s หลังคำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย

  • piano – pianos (เปียโน)

  • memo – memos (บันทึกข้อความ)

  • solo – solos (การบันเลงเพลงเดี่ยว)

  • photo – photos (รูปถ่าย)

3. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • radio – radios (วิทยุ)

  • bamboo – bamboos (ไม้ไผ่)

4. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es

  • baby – babies (เด็กทารก)

  • copy – copies (สำเนา)

  • lady – ladies (สุภาพสตรี/คุณผู้หญิง)

  • candy – candies (ลูกกวาด/ลูกอม)

5. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • toy – toys (ของเล่น)

  • boy – boys (เด็กผู้ชาย)

  • day – days (วัน)

  • monkey – monkeys (ลิง)

6. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe  ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วเติม es

  • knife – knives (มีด)

  • leaf – leaves (ใบไม้)

  • half – halves (ครึ่งหนึ่ง)

  • shelf – shelves (ชั้นวางของ)

  • wife – wives (ภรรยา)

  • thief – thieves (ขโมย)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า f เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน f หรือ ef เป็น v ก่อน

  • gulf – gulfs (อ่าว)

  • cliff – cliffs (หน้าผา)

  • scarf – scarfs หรือ scarves (ผ้าพันคอ) เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์จะใช้ได้ทั้งสองแบบ

7. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe และหน้า f หรือ fe เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • roof – roofs (หลังคา)

  • belief – beliefs (ความเชื่อ)

  • chief – chiefs (หัวหน้า)

  • proof – proofs (หลักฐาน/พิสูจน์)

  • grief – griefs (ความเศร้าโศก)

  • fife – fifes (ขลุ่ย)

  • safe – safes (ตู้นิรภัย)

8. คำนามเอกพจน์เปลี่ยนรูปไปเลย เมื่อเป็นพหูพจน์

  • man – men (ผู้ชาย)

  • woman – women (ผู้หญิง)

  • tooth – teeth (ฝัน)

  • ox – oxen (วัวตัวผู้)

  • louse -lice (เหา/หมัด)

  • child – children (เด็ก)

  • mouse – mice (หนู)

  • person – people (คน/ประชาชน)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่มาจากภาษาลาตินหรือกรีก จะมีรูปเป็นพหูพจน์ตามภาษษเดิม

  • crisis – crises (เหตุฉุกเฉิน)

  • basis – bases (หลักสำคัญ/หลักเกณฑ์)

  • thesis – theses (ข้อสมมติ/วิทยานิพนธ์)

  • analysis – analyses (การวิเคราะห์)

9. คำนามมีรูปเหมือนกันทั้งคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์

  • dear – dear (กวาง)

  • fish* – fish (ปลา)

  • sheep – sheep (แกะ)

  • salmon – salmon (ปลาแซลมอน)

  • cod – cod (ปลาคอด)

  • trout -trout (ปลาเทราท์)

*Remark* …เราสามารถเติม es หลัง fish เมื่อต้องการจะสื่อ หรือบอกว่ามี ปลาหลายสายพันธุ์

10. คำนามต่อไปนี้เป็นรูปพหูพจน์ แต่ต้องใช้เป็นเอกพจน์เสมอ

  • tactics (กลวิธี)

  • news (ข่าว)

  • headquarters (กองบัญชาการ)

  • means (วิธี)

  • statistics (สถิติ)

  • alms (การให้ทาน)

  • folks (สมาชิกในครอบครัว)

  • United Nations (สหประชาชาติ)

[Update] วิธีการเปลี่ยนนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ [Singular and Plural Nouns] | foot พหูพจน์ – NATAVIGUIDES

วิธีการเปลี่ยนนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ [Singular and Plural Nouns]

1. ให้เติม s หลังนามเอกพจน์ทั่วๆไป
book –> books หนังสือ
cat –> cats แมว
hand –> hands มือ
star –> stars ดาว

2. เติม s ได้เลยเมื่อนามนั้นลงท้ายด้วย e

house –> houses บ้าน
face –> faces หน้า
plate –> plates จาน
place –> places สถานที่
size –> sizes ขนาด

3. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss,sh,ch, x, z เมื่อเป็นพหูพจน์ ให้เติม es

bus –> buses รถประจำทาง
glass –> glasses แก้ว
box –> boxes กล่อง
bush –> bushesพุ่มไม้
bench –> benches ม้านั่ง
buzz –> buzzes เสียงหึ่งๆเหมือนเสียงผึ้ง

ข้อยกเว้น
monarch –> monarchs กษัตริย์ (เพราะ ch ในคำนี้ออกเสียงเป็น ค ไม่ใช่ ช)

4. คำนามที่ลงท้ายด้วย o ให้เติม s

bamboo –> bamboos ไม้ไผ่
studio –> studios ห้องช่างศิลป์
kilo –> kilos กิโลชั่งของขาย
piano –> pianos เครื่องเปียโน
kangaroo –> kangaroos จิงโจ้
zoo –> zoos สวนสัตว์
zero –> zeros เลขศูนย์
photo –> photos รูปถ่าย
casinocasinos –> โรงการพนัน
Eskimo –> Eskimos ชนเผ่าเอสกิโม

ข้อยกเว้น คำเหล่านี้ที่เติม es
hero –> heroes วีระบุรุษ
motto –> mottoes คติพจน์
grotto –> grottoes ถ้ำ
tomato –> tomatoes มะเขือเทศ
mango –> mangoes มะม่วง
volcano –> volcanoes ภูเขาไฟ

5.คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es

city –> cities เมือง
baby –> babies เด็กทารก
fly –> flies แมลงวัน
country –> countries ประเทศ
lady –> ladies สุภาพสตรี
galaxy –> galaxies ทางช้างเผือก
party –> parties งานปาร์ตี้

ข้อยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นเสียงสละ(vowel)ให้เติม s เช่น
ray –> rays
day –> days
boy –> boys
toy –> toys

6. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe ให้เปลี่ยนเป็น v แล้วจึงเติม es

half –> halves ครึ่ง
knife –> knives มีด
wife –> wives ภรรยา
leaf –> leaves ใบไม้
life –> lives ชีวิต
wolf –> wolves สุนัขป่า
elf –> elves

ข้อยกเว้น คำนามบางตัวก็ไม่ต้องเปลี่ยน ให้เติม s ได้เลย เช่น

chief –> chiefs หัวหน้า
roof –> roofs หลังคา
proof –> proofs ข้อพิสูจน์
belief –> beliefs ความเชื่อ
safe –> safes ความปลอดภัย

7. นามเอกพจน์ต่อไปนี้เมื่อทำเป็นพหูพจน์ให้เปลี่ยนสระภายใน

child –> children เด็ก
man –> men ชาย
woman –> women หญิง
foot –> feet เท้า
tooth –> teeth ฟัน
goose –> geese ห่าน
mouse –> mice หนู
louse –> lice เหา,ไร

8. นามเอกพจน์ต่อไปนี้เมื่อทำเป็นพหูพจน์ ให้เติม en หรือ ren ที่ท้ายนามนั้น

ox –> oxen วัวตัวผู้
child –> children เด็ก

9. นามต่อไปนี้มีรูปเหมือนกันทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ ไม่มีการเปลี่ยนรูป เช่น

series –> series ชุด
species –> species ชนิด
sheep –> sheep แกะ
deer –> deer กวาง
salmon –> salmon ปลาแซลมอน
aircraft –> aircraft อากาศยาน
staff –> staff พนักงาน
stuff –> stuff สิ่งของ
equipment –> equipment อุปกรณ์
information –> information ข้อมูล

ข้อยกเว้น คำนามเหล่านี้เมื่อทำเป็นพหูพจน์สามารถใช้ได้ทั้งสองรูป
fish –> fish/fishes ปลา
person –> persons/people
penny –> pence/pennies

10. คำนามที่บอกสัญชาติซึ่งลงท้ายด้วย ss , se ให้ใช้รูปเดียวทั้งเอกพจน์และพหูพจน์

a Japanese –> two Japanese คนญี่ปุ่น
a Chinese –> two Chinese คนจีน

11. นามบางคำมีเพียงพหูพจน์รูปเดียว เช่น

news ข่าว
politics การเมือง
physics ฟิสิกส์
ashes ขี้เถ้า
economics เศรษฐศาสตร์
civics ประชากร
scissors กรรไกร
pants กางเกง
trousers กางเกงขายาว
shears กรรไกร
victuals เสบียงอาหาร
measles หัดเยอรมัน
mumps โรคคางทูม
tongs คีมคีบ
tweezers คีมถอนขน/แหนบ

12. นามต่อไปนี้มีรูปเป็นพหูพจน์แต่นำมาใช้อย่างเอกพจน์

people ประชาชน
cattle วัวควาย
poultry เป็ดไก่
police ตำรวจ
majority คนส่วนมาก
minority คนส่วนน้อย

หมายเหตุ people ถ้าเติม s หมายถึงคนหลายเชื้อชาติ

13. นามต่อไปนี้มีรูปศัพท์เป็นพหูพจน์ และก็ใช้อย่างพหูพจน์เสมอ

trousers กางเกงขายาว
goods สินค้า
shorts กางเกงขาสั้น
eye glasses แว่นตา
scissors กรรไกร
contents สารบัญ
clothes เสื้อผ้า
wages ค่าจ้าง

14. คำนามผสมเมื่อต้องการให้เป็นพหูพจน์ ให้เติม s ที่คำนามหลักเท่านั้น

father-in-law –> fathers–in–law พ่อตา
step–son –> step–sons ลูกเลื้ยง
living–room –> living-rooms ห้องรับแขก

15. นามที่เป็นตัวอักษร หรือตัวเลข เมื่อต้องการให้เป็นพหูพจน์ ให้ทำได้โดยการเติม s

T –> T‘s ตัว t
5 –> 9‘s เลข 9

เช่น
There are two T‘s in little – มี t สองตัว ในคำ little.
Do you see three 9‘s in 999 ไหม? – คุณเห็นเลข 9 สามตัวใน 999 ไหม

16. นามที่บอกจำนวนต่อไปนี้ dozen(โหล) score(ยี่สิบ) gross(12 โหล) hundred( ร้อย) thousand(พัน) million(ล้าน) เมื่อมีเลขบอกจำนวนแน่นอน คือ two, three etc.มาประกอบอยู่ข้างหน้าไม่ต้องเติม s และไม่นิยมใช้ of ตามหลัง

เช่น Suni wanted three dozen eggs for her birthday party.

ข้อยกเว้น ถ้า dozen , hundred , thousand , million มีเลขจำนวนนับไม่แน่นอน เช่น many , several , few , a few มาประกอบอยู่ข้างหน้า และมี of ตามหลัง และนามพหูพจน์นับได้ ให้เติม s ตลอดไป เช่น

I bought many dozens of note-books yesterday.

17. คำนามพหูพจน์บางคำเมื่อนำมาใช้ประกอบหรือขยายนามตัวอื่นในลักษณะคล้ายๆทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ จะต้องเปลี่ยนรูปเป็นเอกพจน์ทันที เช่น

trouser buttons กระดุมกางเกงขายาว

ยกเว้นคำต่อไปนี้เป็นพหูพจน์เหมือนเดิม

a sports car รถสปอร์ท
the savings bank ธนาคารออมสิน

18. ตัวอักษรย่อทำเป็นพหูพจน์ได้โดยการเติม s ที่ท้ายตัวอักษรตัวสุดท้ายของคำนั้น เช่น

VIP –> VIPs Very Important Persons
MP –> MPs Member of Parliament

19. คำต่อไปนี้ไม่นิยมทำเป็นพหูพจน์

freedom เสรีภาพ
music ดนตรี
news ข่าว
advice คำแนะนำ
money เงิน
etc.

ข้อยกเว้น ถ้าหากมี adjective ที่แสดงปริมาณบอกจำนวนมากน้อยมาขยายให้ใช้เฉพาะคำเหล่านี้เท่านั้นได้แก่
little , a little , much ,a lot of , a great deal of, a good deal of , plenty of จะไม่ใช้ many ,few , a few , several , a great number of , a large number of มาขยายเด็ดขาด เช่น I have much knowledge of French.

20. นามต่อไปนี้เมื่อเป็นเอกพจน์มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง และเป็นพหูพจน์มีความหมายอีกอย่างหนึ่ง

air อากาศ –> airs ท่าทางหยิ่ง
iron เหล็ก –> irons โซ่,ตรวน
manner –> อาการ, วิธี –> manners มรรยาท
etc.

21. นามต่อไปนี้เมื่อเป็นเอกพจน์มีความหมายเดียว แต่ถ้าเป็นพหูพจน์มีความหมาย 2 หรือ 3 อย่าง

colour สี –> colours 1.สี 2.ธง
custom ประเพณี –> customs 1.ประเพณี, 2.ภาษีอากร
ect.

22. นามต่อไปนี้เมื่อเป็นเอกพจน์มีความหมาย 2 อย่าง แต่ถ้าเป็นพหูพจน์มีความหมายอย่างเดียว

light 1.แสง 2.ตะเกียง –> lights ตะเกียง
wood 1.ไม้ woods 2.ป่าไม้ –> woods ป่าไม้
ect.

เครดิต : http://www.mmv.ac.th/Result/online/aor/rules.htm


Easy English – Lesson 17.1 การทำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์ การเติม s,es,ies ตอน 1


รายการ Easy English เรียนภาษาอังกฤษ สนุก ง่าย กว่าที่คิด
playlist :
https://www.youtube.com/playlist?list…

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Easy English - Lesson 17.1  การทำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์  การเติม s,es,ies  ตอน 1

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์


เล่า Grammar แบบเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ ได้ฝึกฝนจริงจัง
ติดตามผลงานอื่นๆ ของทีมเราได้ที่
http://www.proudbookshop.com
IG : https://www.instagram.com/proudbook
Facebook : https://www.facebook.com/proudbook
twitter : https://www.twitter.com/proudbook

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์

ประธานเอกพจน์ พหูพจน์อย่างง่าย


การแบ่งประธานออกเป็นประธานเอกพจน์และประธานพหูพจน์ ในภาษาอังกฤษ จะช่วยให้ง่ายต่อการเลือกใช้คำกริยาที่ถูกต้องตามประธานและ Tense ค่ะ ครูตาลลืมอธิบายประธาน I ในตัวอย่างสไลด์สุดท้าย ขออธิบายตรงนี้นะคะ
I ใช้แบบเดียวกับประธานพหูพจน์ทั้งหมด ยกเว้น Verb to Be ค่ะ I จะใช้กับ am และ was เท่านั้นค่ะ

ประธานเอกพจน์ พหูพจน์อย่างง่าย

Singular and Plural I Learning the Grammar


Learning the Grammar, will only enable the students to acquire mastery over the Language. In communication usage of Grammar is important for any language. Explaining grammar with stories and passages makes a better understanding. In this DVD session we have explained basic English grammar using stories and passages which will improve your spoken and written English.

Singular and Plural I Learning the Grammar

Irregular plurals in English


Learn Irregular plural forms of the nouns with our video
Additional materials are here https://www.patreon.com/posts/41704104
Subscribe and learn English with us

Irregular plurals in English

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ foot พหูพจน์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *