Skip to content
Home » [NEW] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | helpful แปลว่า – NATAVIGUIDES

[NEW] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | helpful แปลว่า – NATAVIGUIDES

helpful แปลว่า: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

นามนับได้ – นามนับไม่ได้ – คุณรู้ไหมว่า คำนามใดคือคำนามนับได้และคำนามใดคือคำนามที่นับไม่ได้ ส่วนไวยากรณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองผ่านนะคะ เนื่องจากคำนามทั้ง 2 กลุ่มนี้มีหลักการใช้คำนำหน้าและคำกิริยาที่แตกต่างกันวันนี้เราจะมาดูกันว่าคำนามเหล่านี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร ใช้ในกรณีไหน พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย

เพื่อความเข้าใจอย่างง่ายดาย บทความเกี่ยกับ คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นี้ของเราจะได้แบ่งเป็น สี่ส่วนเนื้อหาหลักๆ ที่ผู้เรียนสามารถติดตามง่ายๆ ดังนี้

  1. คำนามนับได้ (Countable Nouns) คืออะไร
  2. คำนามนับไม่ได้(Uncountable Nouns) คืออะไร
  3. วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
  4. แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ พร้อมข้อเฉลย

ก่อนอื่นเราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดกันนะคะ

Table of Contents

1 – คำนามนับได้ (Countable Noun) คืออะไร

ในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้ (Countable Noun) กันนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ สำหรับคำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ เข้าใจง่ายๆ คือคำนามที่เราสามารถนับและระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน คำนามเหล่านั้นจะเรียกว่า Countable Noun แปลเป็นไทยโดยตรงคือคำนามนับได้

  • Singular: (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียวชิ้นเดียว
  • Plural: (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป

หากอยู่ในรูปเอกพจน์ คำนามนับได้เหล่านี้จะใช้ “a” หรือ “an” นำหน้า หากต้องการทราบจำนวนของคำนามนับได้เหล่านี้ จะถามโดยใช้ “How many?” ตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์ เช่น

เอกพจน์พหูพจน์one dogtwo dogsone horsetwo horsesone ideatwo menone shoptwo ideasone mantwo shopsOne BoyThree boysOne BirdFour BirdsOne BookTwo booksOne pencilFive pencils

ตัวอย่างเช่น

  • She has three dogs. แปลว่า เธอมีสุนัขสามตัว
  • I own a house. แปลว่า ฉันเป็นเจ้าของบ้าน
  • I would like two books please. แปลว่า ฉันต้องการหนังสือสองเล่มโปรด
  • How many friends do you have? แปลว่า คุณมีเพื่อนกี่คน?

คำนามนับได้ (Countable Noun) มีสองประเภคคือ (single) และ  (plural) คำนามนับได้แบบ single พูดถึงจำนวนน้อยคือ 1 ที่มักจะอยู่ด้านหลังของคำว่า  “a/an” หรือ one. ยกตัวอย่างเช่น a pen, one table,…

ส่วนคำนามนับได้แบบ plural พูดถึงจำนวนตั้งแต่ 2 ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น pens, tables,…

ถ้าอยากเปลี่ยนจากคำนามนับได้ single เป็นคำนามนับได้แบบ plural ง่ายมากๆ แค่เพิ่มตัว ‘s’ในตัวอักษรสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น: pen → pens, table → tables,…

แต่ก็มีบ้างคำศัพท์อยู่ในกรณีพิเศษเช่น

  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้าย (ลงท้ายด้วย) เป็น CH, SH, S, X, O ต้องเพิ่ม “es” เข้าตัวอักษรสุดท้าย
    เช่น: a class → classes, a bus → Buses, Brush →Brushes, Math → Matches, Box→ Boxes, Fox → Foxes
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น Y เมื่ออยากเปลี่ยนเป็นคำนาม plural เราจะเปลี่ยนตัวอักษร “y” เป็น “i” และเพิ่ม “es”
    เช่นคำว่า: a candy → candies,  City→ Cities, Duty→Duties, Day → Days, Boy → Boys, Key → Keys
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น F, FE, FF เราลบทิ้งไปและเอาตัว “ves” แทนตัวอักษรสุดท้าย.
    ยกตัวอย่างเช่น: A knife → knives
  • เติม “es” ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย “o” และหน้า “o” เป็นพยัญชนะ
    เช่น: radio → radios, Bamboo → Bamboos, Photo→ Photos, Piano→ Pianos

หมายเหตุ:

มีคำนามบ้างคำที่อยู่ในกรณีพิเศษ หมายถึงว่ามันจะไม่ตามเกณ์ที่พูดดังกล่าว ลองดูตามตารางดังต่อไปนี้กันนะคะ 

คำนาม singleคำนาม pluralความหมายภาษาไทยmanmenผู้ชายwomanwomenผู้หญิงchildchildrenเด็กsheepsheepแกะtoothteethฟันfootfeetเท้าbacteriumbacteriaแบคทีเรียfishfishปลา

2 – คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คืออะไร

สำหรับ Uncountable Noun หรือคำนามนับไม่ได้นี้มีหลากหลายคนพูดถีงเพราะได้เอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันบ่อยมาก คุณสามารถบันทึกการอธิบายที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดดังนี้

คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  เป็นคำนามที่คุณเจอบ่อยเช่นนม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม  ฟางหญ้า เป็นต้น  จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด เป็นคำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ ทั้งหมดเรียกชื่อว่า Uncountable Noun  หรือคำนามนับไม่ได้นั้นเอง

หรืออีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คือคำนามนับไม่ได้ เช่นแนวคิด หรือปริมาณ หรือเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถนับได้ หรือไม่มีรูปร่างแน่นอนจึงทำให้ไม่สามารถนับได้ (เช่น ของเหลว ผง ก๊าซ เป็นต้น)  คำนามนับไม่ได้จะใช้คู่กับคำกิริยาที่อยู่ในรูปเอกพจน์ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคำนามนับไม่ได้เหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์

ยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพชัดๆ ดังนี้สำหรับ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  tea, sugar ,water, air,rice ,knowledge, beauty, anger, fear, love, money, research, safety, evidence

ถ้าจะแบ่งตามประเภทของคำนามเราลองมาดูกันว่ามีคำนามใดบ้างที่ไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษตามตารางดังนี้

GeneralFoodSubjects/ FieldsAstractHomeworkFoodMathematicsAdviceEquipmentFlourEconomicsHelpLuggageMeatPhysiscFunClothingRiceEthicsRecreationFurnitureCakeCivicsEnjoymentMachineryBreadArtInfomationGoldIce cremArchitectureKnowledgeSliverCheeseMusicNewsCottonToastPhotographyPatienceGlassPastaGrammarHappinessJewelrySpaghettiChemistryProgressPerfumeButterHistoryConfidenceSoapOilCommerceCouragePaperHoneyEngineeringEducationWoodSoupPoliticsIntelligencePetrolFishSociologySpaceGasolineFruitPsychologyEnergyBaggageSaltVocabularyLaughterHairTeaArchaeologyPeaceTrafficCoffeePoetryPride

WeatherSportsLanguagesActivitesThunderGolfEnglishSwimmingLightningTennisPortugueseWalkingSnowBaseballHindiDrivingRainBasketballArabicJoggingSleetCricketJapaneseReadingIceHockeyKoreanWritingHeatRugbySpanishListeningHumidityChessFrenchSpeakingHailPokerRussianCookingWindBridgeItalianSleepingLight/HebrewStudyingDarkness/ChineseWorking

เพราะมีเป้าหมายในการใช้งานที่แตกต่างกันเลยคำนามที่นับไม่ได้ไม่ใช้กับ “a”, “an” แทนเป็น ถามโดยใช้ “How much?” จะช่วยคุณทราบปริมาณของคำนามที่นับไม่ได้

 หากต้องการระบุปริมาณของคำนามนับไม่ได้ จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มด้วยการใช้คำเหล่านี้ เช่น some, a lot of, much, a bit of, a great deal of เป็นต้น หรือใช้คำที่บอกปริมาณอย่างเจาะจง เช่น a cup of, a bag of, 1kg of, 1L of, a handful of, a pinch of, an hour of, a day of.

ตัวอย่างเช่น

  • There has been a lot of research into the causes of this disease. แปลว่า มีงานวิจัยมากมายถึงสาเหตุของโรคนี้
  • He gave me a great deal of advice before my interview. แปลว่า เขาให้คำแนะนำมากมายก่อนการสัมภาษณ์
  • Can you give me some information about uncountable nouns? แปลว่า คุณช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้หน่อยได้ไหม
  • Measure 1 cup of water, 300g of flour, and 1 teaspoon of salt. แปลว่า ตวงน้ำ 1 ถ้วยแป้ง 300 กรัมและเกลือ 1 ช้อนชา
  • How much rice do you want? แปลว่า คุณต้องการข้าวเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามยังมีอีกสอง-สามวิธีสำหรับคำนามนับไม่ได้ที่จะรวมกับวลีภาษาอังกฤษอื่น ๆ เพื่อให้กลายเป็นคำนามที่นับได้เช่น

1. บางเรื่องที่ไม่สามารถนับได้ แต่เก็บไว้ในกล่องหรือบรรจุหีบห่อ … จะกลายเป็นคำนามที่นับได้
– ง่ายๆ เช่นคำว่า a cup of tea – แก้วชาหนึ่ง. (น้ำชาเราจะนับไม่ได้แต่ถ้าใส่ในแก้วหนึ่งเราก็จะนับได้แล้วใช่ไหมคะ

2. สำหรับคำนามที่นับไม่ได้เช่น food, money, meat, sand, water,… ถ้าเราตั้งเป็นประโยคเช่น
– This is one of the foods that my younger brother likes very much แปลว่า นี่เป็นหนึ่งในอาหารที่น้องชายของฉันชอบมาก

3. เป็นคำนามที่มีหลายความหมาย ถ้าแปลตามความหมายว่า “เวลา” “time” เป็นคำนามนับไม่ได้ แต่ถ้าแปลว่า “จำนวนครั้ง” “time” จะปิดเป็นคำนามที่นับได้
– ตัวอย่างเช่น

  • Yesterday, I didn’t have enough time to finish my homework  แปลว่า เมื่อวานนี้ฉันมีเวลาพอที่จะทำการบ้านให้เสร็
  • I go jogging three times a week  แปลว่า  ฉันไปจ็อกกิ้งสามครั้งต่อสัปดาห์

3 – วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับได้

ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราใช้ “a / an” ก่อนคำนามเอกพจน์เพื่อแสดงถึงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วน “few/a few” ใช้ก่อนหน้าคำนามพหูพจน์เพื่อแสดงถึงปริมาณเล็กๆ น้อยๆ และ “many” สำหรับพหูพจน์ที่มีมากกว่าสอง ตามตารางดังนี้

aa student, a pencil, a bike,…manymany books, many pens,…fewfew bananas, few answer questions,…a fewa few topics, a few chairs,…

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับไม่ได้

เช่นเดียวกับคำนามที่นับได้คำนามที่นับไม่ได้ยังมีคำ และวลีเช่น “มาก” (many), “litlle / a little” (นิดหน่อย), a little bit of (a little).

muchmuch money, much oil,…littlelittle milk,…a littlea little money,…a little bit ofa little bit of ink,…

คำใช้ได้กับทั้งคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้เฉพราะกับคำนามนับได้ หรือคำนามนับไม่ได้ก็ยังมีกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ได้ทั้งสองเช่น  ‘the, some, any, no, a lot of, lots of, plenty of, enough.

ตัวอย่างเช่น

Countable Noun: the cats, some desks, any rooms, a lot of pets…
Uncountable Noun: some sugar, no money, plenty of milk…

หมายเหตุสิ่งที่ทำให้หลายคนสับสน

คำนามนับได้บางคำ (ในภาษาอื่น) กลับกลายเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ หากพบเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้กฏการใช้คำนามนับไม่ได้กับคำนามนับได้เหล่านั้น คำนามในกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อย คือ accommodation, advice, baggage, behavior, bread, furniture, information, luggage, news, progress, traffic, travel, trouble, weather, work

ตัวอย่างเช่น

  • I would like to give you some advice. แปลว่า ฉันขอคำแนะนำของคุณหน่อยค่ะ
  • How much bread should I bring? แปลว่า ฉันควรนำขนมปังเท่าไหร่
  • I didn’t make much progress today. แปลว่า ฉันไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในวันนี้
  • This looks like a lot of trouble to me. แปลว่า ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากสำหรับฉัน
  • We did an hour of work yesterday. แปลว่า เราทำงานเมื่อวานนี้หนึ่งชั่วโมง

ปรดระวังการใช้ hair ซึ่งเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแล้วคำนี้จะอยู่ในรูปเอกพจน์ แต่หากกล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง สามารถใช้ในรูปพหูพจน์ได้

ตัวอย่างเช่น

  1. She has long blond hair. แปลว่า เธอมีผมสีบลอนด์ยาว
  2. The child’s hair was curly. แปลว่า ผมของเด็กนั้นหยิก
  3. I washed my hair yesterday. แปลว่า ฉันสระผมเมื่อวานนี้
  4. My father is getting a few grey hairs now. (กล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง) 
  5. I found a hair in my soup! (กล่าวถึงเส้นผมเส้นหนึ่ง)

4 – แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้

เรามาลองทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกันเพื่อช่วยจดจำบทเรียนได้ดีขึ้นนะคะ อย่าพึ่งเปิดส่วนข้อเฉลยมาดูค่ะ เราต้องพยายามทำเอง ตามความเข้าใจของตัวเองก่อน แล้วเทียบกับข้อเฉลยดูว่าเราทำถูกผิดขนาดไหน นะคะ แบบฝึกหัดนี้สามารถหาเจอในเน็ตได้ง่ายๆ ค่ะ สำหรับผู้เรียนท่านไหนที่อยากทำแบบฝึกหัดเพิ่มให้ชินก็สามารถหาทำด้วยต้วเองง่ายๆ นะคะ

แบบฝึกหัดที่ 1: ลองดูคำนามเหล่านี้เป็นคำนามประเภทไหน

คำนามนับได้ (Countable Noun) หรือคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นะคะ

  1. tea →
  2. butter →
  3. song →
  4. living room →
  5. hour →
  6. coffee →
  7. child →
  8. homework →
  9. key →
  10. orange →

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

  1. If you want to know the news, you can read paper/ a paper.
  2. I had two tooths/teeth pulled out the other day.
  3. Light/a light comes from the sun.
  4. I was very busy, and I didn’t have time/ a time for

    breakfast

    today.

  5. Sue was very helpful. She is always willing to give us some very useful advice/advices everytime we need.
  6. Did you raise these tomato/tomatoes in your garden?
  7. We were very

    unfortunate

    . We had bad luck/a bad luck.

  8. I had to buy a/some bread for breakfast.
  9. Bad news don’t/doesn’t make people happy.
  10. My hair is/ My hairs are too long. I should have it/them cut three days ago.

แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนให้ประโยคเหล่านี้ได้สมบูนณ์และถูกต้อง

1. Study the next three (chapter).
2. Can you recommend some good (book)?
3. I had two (tooth) pulled out the other day.
4. You can always hear (echo) in this mountain.
5. They are proud of their (son-in-law).
6. Did you raise these (tomato) in your garden?
7. I think we need two (radio).
8. My (foot) really hurt.
9. The (roof) of these houses are tiled.
10. Get me two (loaf) of bread.

แบบฝึกหัดที่ 4: แก้คำผิดในประโยคเหล่านี้ให้ประโยคได้สมบูรณ์

1. There are many dirts on the floor. แปลว่า มีสิ่งสกปรกมากมายบนพื้น
2. We want more fuels than that. แปลว่า เราต้องการเชื้อเพลิงมากกว่านั้น
3. He drank two milks. แปลว่า เขาดื่มนมสองแก้ว
4. Ten inks are needed for our class. แปลว่า จำเป็นต้องใช้หมึกสิบอันสำหรับชั้นเรียนของเรา
5. He sent me many foods. แปลว่า เขาส่งให้ฉันอาหารเยอะมากมาย
6. Many golds are found there. แปลว่า พบทองคำจำนวนมากที่นั่น
7. He gave me a great deal of troubles. แปลว่า เขาทำให้ฉันมีปัญหามากมาย
8. cows eat glasses. แปลว่า พวกวัวกินยาเยอะแยะ
9. The rain has left many waters. แปลว่า ฝนตกน้ำหลักมาก
10. I didn’t have many luggages. แปลว่า ฉันไม่มีกระเป๋าเดินทางมากมาย

ข้อเฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. tea →Uncountable Noun เพราะมันเป็นน้ำที่เราจะเอามานับไม่ได้แน่นอน
  2. butter →Uncountable Noun ที่หมายถึงว่า เนย เป็นอาหารที่นับไม่ได้ถ้าไม่ระบุว่าอยู่ในกี่ห่อ หรือกี่กล่อง
  3. song →Countable Noun ที่สามารถนับได้ง่ายๆ ว่ามีทั้งหมดกี่เพลง
  4. living room →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เช่นในบ้านหลังหนึ่งจะมีห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกกี่ห้อง ห้องนอนกี่ห้อง ประมาณนั้น
  5. hour →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เหมือนกันว่าใช้กี่ชั่วโมงแล้ว
  6. coffee →Uncountable Noun ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหรือเป็นฝงที่เรานับไม่ได้ถ้าไม่แจ้งว่าบรรจุที่ไหน
  7. child →Countable Noun เป็นคำนามที่นับได้เพราะหมายถึงเด็กน้อย
  8. homework →Uncountable Noun เป็นคำนามที่นับไม่ได้
  9. key →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้
  10. orange →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้เพราะเป็นสิ่งของที่เราเห็นได้ จับได้และมันชัดเจนอยู่แล้ว

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. A paper
  2. Teeth
  3. Light
  4. Time
  5. Advice
  6. Tomatoes
  7. Bad luck
  8. Some
  9. Doesn’t
  10. My hair is

แบบฝึกหัดที่ 3:

  1. Chapters
  2. Books
  3. Teeth
  4. Echoes
  5. Sons-in-law
  6. Tomatoes
  7. Radios
  8. Feet
  9. Roofs
  10. Loaves

แบบฝึกหัดที่ 4:

  1. There is much dirt on the floor.  
  2. We want more fuel than that.
  3. He drank two glasses of milk.
  4. Ten pens are needed for our class.
  5. He sent me much food.
  6. Much gold is found there.
  7. He gave me a lot of trouble.
  8. Cows eat glass.
  9. The rain has left much water.
  10. I didn’t have much luggage.

ว่าอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์ดีๆ และรู้จักวิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) มันเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ถือว่าไม่ค่อยยากนะคะ แต่ก็ไม่ควรมองผ่านเพราะเป็นคำนามที่มักจะใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในการสื่อสารประจำวันถึงการเขียนบทความต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ติดตามเราเพื่ออัพเดทสารข้อมูลดีๆ ทุกวันนะคะ แชร์กันประสบการณ์เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking!

[Update] การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ | helpful แปลว่า – NATAVIGUIDES

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม. 3 ที่น่ารักทุกคน วันนี้ครูจะพาไปดูเทคนิค การแสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า

การแสดงความต้องการ

 

 

Question: สงสัยมั้ยว่า need/want /would like to have สามคำนี้ต่างกันยังไง?

ตัวอย่างการใช้ need VS want  ในประโยคบอกเล่า เช่น

I need some sugar. ฉันอยากได้น้ำตาล
***ค่อนข้างเป็นภาษาระดับกันเองมากๆ

I want some sugar. ฉันต้องการน้ำตาล
****เป็นภาษาระดับกลาง ใช้กับคนสนิทหรือ บุคคลทั่วไป

หากต้องการถามขอน้ำตาลก็สามารถพูดได้ว่า

Can I have some sugar please?
ขอน้ำตาลหน่อยค่ะ/ครับ

***ในกรณีที่ต้องใช้ประโยคคำถามแบบสุภาพมากๆ ซึ่ง มักจะเจอในบริบทที่ เป็นทางการ หรือ สถานการณ์ที่เราไม่คุ้นเคย ซื้อของกับพนักงาน บทสนทนาในร้านอาหาร จะใช้ โครงสร้าง “I would like to have + สิ่งที่ต้องการ ..เช่น

Situation: At the restaurant. ณ ร้านอาหาร

James: I would like to have some water please!
แปลว่า ขอน้ำด้วยนะคะ/ครับ
***จะสังเกตได้ว่าเป็นภาษาพูดที่สุภาพมากๆเลยจร้า

Waitress: Here you are sir.
แปลว่า นี่ค่ะน้ำ คุณผู้ชาย

 

ประโยคเสนอแนะที่เจอบ่อย

 

คำศัพท์น่าสนใจ

Advice (Noun): คำแนะนำ
Advise (Verb): แนะนำ

ประโยคคำแนะนำ ส่วนใหญ่แล้วจะเจอในรูปแบบของประโยคบอกเล่า ซึ่งจะมีความหมายในทางเสนอแนะ มากกว่า บางครั้งก็เป็นการให้ความคิดเห็นและแนะว่าควรทำหรือไม่ควรทำสิ่งใด สิ่งหนึ่งถือเป็นการเสนอแนะโดยตรงมีโครงสร้างดังนี้

 Subject + suggest/advise/propose + (that) +…..

 ตัวอย่าง

I suggest (that) you should take a bus to school.

ฉันขอเสนอแนะว่า เธอควรขึ้นรถบัสไปโรงเรียน

 

I advise  (that) we should go jogging everyday.
ฉันแนะนำว่า เราควรไปวิ่งทุกวัน

 

I propose (that) we should not miss the flight.
ฉันขอเสนอว่า ว่าเราไม่ควรตกเที่ยวบิน

 

I advise (that) you should water your plants every day.
ฉันแนะนำให้คุณรดน้ำต้นไม้ทุกวัน

I advise (that) you should take a medicine everyday.
ฉันแนะนำให้คุณทานยาทุกวัน

การเสนอแนะชักชวนทางอ้อม (Indirect Suggestions)

 

ในชีวิตประจำวันของเรานั้น ล้วนจะต้องเจอกลุ่มประโยคคำถามในเชิงชักชวน และการเสนอแนะที่ใช้เป็นรูปแบบคำถามนั้นถือเป็นการเสนอแนะชักชวนทางอ้อม ถ้าเทียบกับนิสัยคนไทยแล้ว ก็เพื่อแสดงถึงความเกรงใจ ไม่พูดมาตรงๆ เพื่อจุดประสงคืบางอย่าง ซึ่งเป็นนิสัยที่คนไทยส่วนใหญ่มีอยู่แล้ว ในภาษาอังกฤษการใช้ภาษาเหล่านี้จะทำให้การสนทนาดูเป็นธรรมชาติและคล่องมากขึ้น โดยที่บางครั้งผู้ถามนั้นหว่านล้อมผู้ฟังด้วยการ ชวนให้ทำ หรือแนะนำให้ทำนั่นเอง ประโยคคำถามที่ใช้มีดังนี้

  • ถามแบบรูปประโยค Yes/No Question :

Shall we…………?

เรา………กันดีมั้ย

  • ถามแบบรูปประโยค Wh- Questions :

Why don’t we………..?

เรา .. … กันมั้ย

How about……….?

…………….ดีมั้ย

  • ถามแบบรูปประโยค  Indirect Questions :

I wonder if we
ฉันไม่ทราบว่า เรา………….มั้ย

ตัวอย่าง:

Shall we read books at the library?

เราไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดกันเถอะ

Why don’t we walk to school?

ทำไมเราไม่เดินไปโรงเรียนกันนะ (หรือ เดินไปโรงเรียนกันดีกว่า)

How about playing a football after school?

เย็นนี้ เล่นฟุตบอลกันเถอะ

I wondered if we should sit with them?

ฉันว่าเราควรไปนั่งกับพวกเขากันเถอะ

Shall we book a movie ticket?

เราจองตั๋วหนังกันดีมั้ย

Shall we go to the wedding?
เราควรไปงานแต่งกันมั้ย

I wondered if we can wear a mask during Covid-19 everyday?
ฉันว่าเราควรใส่หน้ากากทุกวันในช่วงโควิดนี้

How about eating out today?
วันนี้ไปกินข้าวนอกบ้านกันดีกว่า

 

 

รูปแบบและโครงสร้างประโยค Imperative sentence ที่ควรรู้

 

Suggesting Profile

 

  • Imperative sentence ในรูปแบบประโยคบอกเล่าจะ ใช้ Verb base form (V.1) ขึ้นต้นประโยคแล้วตามด้วยสิ่งที่จะสั่งให้ทำ หรืออาจใช้ Verb แค่คำเดียวก็ได้ เช่น

Help! ช่วยด้วย
Help me pelase! กรุณาช่วยด้วย
Help me please anyone! ใครก็ได้ช่วยที

Move out! แปลว่า ออกไป
Move on. แปลว่า เดินหน้าต่อไปได้แล้วนะ
Stay strong. แปลว่า เข้มแข็งหน่อยสิ
Go for it. แปลว่า ลุยเลย
Stay focus. แปลว่า มีสมาธิหน่อยสิ
Listen up! แปลว่า ตั้งใจฟัง
Quiet please! แปลว่า กรุณาเงียบๆด้วย
Hans up! แปลว่า ยกมือขึ้น

อธิบายเพิ่มเติม: ถ้าต้องการให้ประโยค Imperative สุภาพยิ่งขึ้น ควรเติม ‘do’ ไว้ข้างหน้า ตัวอย่างเช่น

 Do study hard. แปล ต้องขยันเรียนนะ

 Do come. แปล ต้องมานะ

 Do go to school.  แปล ต้องไปโรงเรียนนะ
Do have breakfast every morning. แปล ต้องทานอาหารเช้าทุกๆ เช้านะ
Do miss me sometimes! แปล คิดถึงฉันด้วยนะ

 

  • ใช้ Verb ‘be’ ขึ้นต้นประโยค เช่น

Be helpful! 
แปลว่า ทำตัวให้เป็นประโยชน์ด้วย

Be a good boy.
แปลว่า จงเป็นเด็กดี

Be a good role model.
แปลว่า จงเป็นตัวอย่างที่ดี

Be proud of yourself.
แปลว่า จงภูมิใจในตัวเอง

Be brave.
แปลว่า จงกล้าหาญ

Be kind.
แปลว่า จงมีเมตตา
Be humble.
แปลว่า จงถ่อมตัว
Be eager to learn.
แปลว่า จงกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้

 

Imperative sentence ในรูปแบบประโยคปฏิเสธ หากต้องการทำให้เป็นรูปแบบประโยคปฏิเสธ เพียงแค่วาง do not (don’t) หน้าคำกริยา จะได้โครงสร้าง Don’t + V. infinitive เช่น

Imperative Sentence

Don’t eat late.
= อย่าทานข้าวสาย

 

Don’t copy a homework.
= อย่าลอกงานเพื่อน

Don’t go alone during a night time.
= อย่าไปคนเดียวตอนดึกๆ

 

  • Imperative sentence ที่ขึ้นต้นด้วยกริยา ‘be’ ก็เช่นเดียวกัน เพียงวาง don’t หน้ากริยา be เช่น

Don’t be silly.
= อย่างี่เง่า

Don’t be noisy here.
= อย่าเสียงดังที่นี่

Don’t be grumpy.
= อย่าวีน (อย่าอารมณ์เสียเลย)

 

 

 

ประโยคและวลีเพื่อการตอบรับ (Accepting)

 

Yes!
ได้เลย

Of course.
แน่นอน

That’s a good/ great idea/ What a good idea.
เป็นความคิดที่ดีมากๆ

That’s interesting.
น่าสนใจดี

Yes/ Of course/ Certainly/Absolutely/ Surely
ไปแน่นอน

 ประโยคและวลีเพื่อการตอบปฏิเสธ (Refusing):

 

Sorry, I can’t go.
ขอโทษด้วยนะ ฉันไปไม่ได้

Sorry! I’m in a hurry!
ขอโทษนะ ฉัน/ผมรีบอยู่

Sorry, I already had a plan.
ขอโทษนะพอดีว่ามีแผนแล้ว

I’m afraid I won’t be able to go.
ดิฉันเกรงว่าคงจะไปไม่ได้นะคะ

Sorry, I’d love to but I already had an appointment.
ขอโทษที ฉันก็อยากไปนะ แต่บังเอิญว่าดันฉันมีนัดแล้วอะ

 I really don’t think I can go, and I must say sorry.
ฉันคิดว่าฉันคงจะไปไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องขอโทษนะคะ

 

ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่านักเรียนที่น่ารักทุกคนจะได้รับประโยชน์และความรู้จากการอ่านบทความนี้นะคะ ขอให้สนุกและมีความสุขกับการเรียนนะคะทุกคน

 

อย่าลืมทบทวนบทเรียนกับวีดีโอด้านล่าง นะคะ คลิกตรงปุ่มเพลย์ แล้วไปเรียนให้ได้สนุกสร้างเสริมองค์ความรู้ภาษาอังกฤษแบบปังๆกันจร้า
เลิฟๆ Take care guys!

+1


suppose ฝรั่งใช้บ่อยมาก ..แปลว่าอะไรได้บ้างนะ?


suppose ฝรั่งใช้บ่อยมาก ..แปลว่าอะไรได้บ้างนะ?
ใครดูจบ อย่าลืม comment \”suppose\” ให้ฝ้ายนะคะ ❤

Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

suppose ฝรั่งใช้บ่อยมาก ..แปลว่าอะไรได้บ้างนะ?

Be Kind | A Children’s Story about things that matter


What exactly is kindness? What is it to be kind? Is it being helpful? Being polite? Does it have to be a big act to be more kind? Well maybe the smallest act is the most powerful. Let’s have a look at this meaningful book BE KIND by author Pat Zietlow Miler and illustrator Jen Hill.
Available on:
Amazon https://fave.co/2xS9Jjl
Book Depository https://fave.co/2O3R1A7

Be Kind | A Children's Story about things that matter

อย่าฟ้าวได้บ่ – พลอย ศศิธร【OFFICIAL AUDIO 】


เพลง : อย่าฟ้าวได้บ่
ศิลปิน : พลอย ศศิธร
คำร้อง/ทำนอง : พลอย ศศิธร
เรียบเรียง : บ่าวเบสท์ หัวหน้าเด็กน้อย
กดติดตาม เบสท์ สตูดิโอ เรคคอร์ด คุณจะไม่พลาด อะไรพิเศษๆ ที่นี่ที่เดียว
Youtube : http://bit.ly/2Qh4JNq
FanPage : http://bit.ly/2HzflVm
(ถ้าถูกใจขอคนละ 1 ไลค์ 1 แชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ศิลปินในทีมงานด้วยครับ)
เนื้อเพลง
ก็เข้าใจในความฮักเฮา
เข้าใจในทุกทุกอย่าง
จึงเริ่มคุยกัน ฮักกันในตอนนั้น
( ) ความฮู้สึกที่ให้ไป บ่มีมื้อใด่ลดลงเลย
กลัวมันเป็น อย่างที่เคยฮู้บ่
เลยเขียนเพลงนี้ แทนความฮู้สึก
ที่เคยพบพ้อ กลัวคนมาล้อ..
กลัวการจากลา..!
( ) อย่าฟ้าวเบื่อได้บ่ ยังอยากอยุ่ต่ออยุ่เด้
อย่าฟ้าวหน่ายอย่าฟ้าวเท อย่าหันเห
อย่าฟ้าวมีคนใหม่..
ในใจอย่าให้อยู่ต่อ ขอร้องใดบ่ อย่าฟ้าวจากไป
ยังบ่อย่ามีใหม่ ขอร้องหัวใจ💗
อย่าฟ้าวเบื่อได้บ่😊🤟🏻
( ซ้ำ ) , ,

ดาวน์โหลดเพลง \”อย่าฟ้าวได้บ่\” โทร 4922301637 ได้ทั้งริงโทน เต็มเพลง และเสียงรอสาย
🎧 รับฟังได้แล้วทาง Music Streaming
Youtube Music : https://music.youtube.com/watch?v=ugXoL_Yntpk
AppleMusic ::  https://music.apple.com/th/album/1464647834
Spotify :: https://open.spotify.com/track/4m4gKddHKIXRjR1omc2Pj4?si=UGb0Oyb2QjKUxna6af0BGQ
JOOX :: https://www.joox.com/th/album/Q5nz4txP4Z7hNyhR620HlQ==
Tidal :: https://tidal.com/track/109869096
TrueMusic :: https://www.truemusic.com/mcservice/sharelink/index.jsp?ContentType=5\u0026ContentID=6010511000652254\u0026K=MjU1MzMwNTY%3D
อย่าฟ้าวได้บ่ พลอย_ศศิธร

อย่าฟ้าวได้บ่ - พลอย ศศิธร【OFFICIAL AUDIO 】

How i’m learning japanese| A beginners guide |useful tips and review


Hey study buddies! I’ve been asked by many people what I did in order to learn Japanese so I thought making this video would be a good idea and a good reference for those who are considering Japanese and need some good tips and resources. If this video helped you please share and also…
⤇ S U B S C R I B E ⤆

F A C E B O O K cornycofaceb
https://www.facebook.com/cornycofaceb/
I N S T A G R A M cornycoinsta
https://www.instagram.com/cornycoinsta/
T W I T T E R https://twitter.com/
ファイト
頑張って
peace and love
x
_________________________________________________________________
► B O O K S :
Genki I Textbook $50 http://amzn.to/2m2i90v (TOP PICK)
Genki I Workbook $30 http://amzn.to/2m2dWJV
Remembering the kanji book
https://www.amazon.com/RememberingKanjiCompleteJapaneseCharacters/dp/0824835921/ref=sr_1_sc_1?ie=UTF8\u0026qid=1512707717\u0026sr=81spell\u0026keywords=rememberning+the+kanji
Kanji Look and learn
https://www.amazon.com/KanjiLookLearnEriBanno/dp/4789013499/ref=sr_1_1?ie=UTF8\u0026qid=1512707773\u0026sr=81\u0026keywords=kanji+look

► L I N K S
kemushi chan chart
http://www.kemushichan.com/en/resources.html
Hiragana Chart Printable PDF http://www.freejapaneselessons.com/pr… Katakana Chart Printable PDF→ http://www.freejapaneselessons.com/pr…
italki
https://www.italki.com/home
fluentu
https://www.fluentu.com/
► A P P S アップ:
Mindsnacks Japanese
https://itunes.apple.com/us/app/id633…
HelloTalk(TOP PICK)
https://itunes.apple.com/us/app/hello…
Mirai Japanese (TOP PICK)
https://itunes.apple.com/us/app/mirai…
Remembering the Kanji app
https://itunes.apple.com/us/app/rememberingthekanji/id424471278?mt=8
Tae kims guide to learning Japanese https://itunes.apple.com/us/app/learningjapanese/id377785100?mt=8
Dr. Moku’s Hirigana Mnemonics (TOP PICK)
https://itunes.apple.com/us/app/drmokushiraganamnemonics/id387585135?mt=8
Dr.Moku’s Katakana Mnemonics
https://itunes.apple.com/us/app/drmokuskatakanamnemonics/id452226776?mt=8
Dr. Moku’s Kanji Mnemonics
https://itunes.apple.com/us/app/kanjimnemonicslearnjapanesefastwithdrmoku/id1209564595?mt=8
google translate app:
https://itunes.apple.com/us/app/googletranslate/id414706506?mt=8

► Y O U T U B E
Kemushi chan youtube:
https://www.youtube.com/user/kemushichan
Hirigana song: (TOP PICK)
https://www.youtube.com/watch?v=WoHxbh5tU8
Hirigana old school video:
https://www.youtube.com/watch?v=qmXhTAEOb1U
specific language structure video
https://www.youtube.com/watch?v=x6cb17mZ0dw
Japanese pod 101:(TOP PICK)
https://www.youtube.com/user/japanesepod101

This is to help the people are thinking of learning Japanese and want to know where the heck to start. Hope i’ve covered all bases and you find something that helps you! 😉

How i'm  learning  japanese| A beginners guide |useful tips and review

Helpful to ใช้ อย่างไร?14/01/2021


Helpful to ใช้อย่างไร?24/01/2021.

Helpful to ใช้ อย่างไร?14/01/2021

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ helpful แปลว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *