Skip to content
Home » [NEW] การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร ตารางสรุป ตัวอย่าง | การแสดงความเป็นเจ้าของ – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ Pronoun คำสรรพนามภาษาอังกฤษ มีกี่แบบ ใช้อย่างไร ตารางสรุป ตัวอย่าง | การแสดงความเป็นเจ้าของ – NATAVIGUIDES

การแสดงความเป็นเจ้าของ: คุณกำลังดูกระทู้

Pronoun อ่านว่า โพร’เนานฺ หมายถึง คำสรรพนาม ก็คือคำที่ใช้แทนคำนาม (Noun) และทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนามในภาษาอังกฤษ

คำสรรพนามในภาษาอังกฤษประเภทต่างๆ มีอะไรบ้าง, ตัวอย่างประโยค

Pronoun  (คำสรรพนาม) แบ่งออกเป็น 5 ประเภท

ก่อนอื่น เรามาดูตารางสรุปรูปแบบของ Pronoun หรือคำสรรพนามในภาษาอังกฤษกันก่อนครับ

รูปประธาน

รูปกรรม

รูปแสดงความเป็นเจ้าของ

รูปความเป็นเจ้าของ

รูป self-form

I
me
my
mine
myself

You
you
your
yours
yourself

We
us
our
ours
ourselves

They
them
their
theirs
themselves

He
him
his
his
himself

She
her
her
hers
herself

It
it
its
(its)
itself

ข้อควรรู้
การใช้ Pronoun คำว่า you เป็นได้ทั้ง pronoun (คำสรรพนาม) เอกพจน์และ pronoun พหูพจน์ (คุณ 1 คน หรือ พวกคุณหลายคน)

1. Personal Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Personal Pronouns หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้แทนนามบุรุษที่ 1 (ผู้พูด)  นามบุรุษที่ 2 (ผู้ฟัง)  นามบุรุษที่ 3 (ผู้ที่ถูกกล่าวถึง อาจเป็นคน สัตว์ และสิ่งของ)

Personal Pronouns  แบ่งได้ 2 รูป  คือ
1. Personal Pronouns  รูปประธาน หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นประธาน ได้แก่  I, You, We, They, He, She, It  เป็นต้น

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
We are students.
= พวกเราเป็นนักเรียน
He is a teacher.
= เขา (ผู้ชาย) เป็นครู

2. Personal Pronouns รูปกรรม  หมายถึง คำสรรพนามที่ใช้เป็นกรรมของประโยค

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
She asks me to teach her homework.
= หล่อนขอให้ฉันสอนการบ้านให้
She asks him to teach her homework.
= หล่อนขอให้เขาสอนการบ้านให้

หลักการใช้ Personal Pronouns

1. หลัง than , as….as  จะใช้รูปประธานหรือรูปกรรม  ต้องดูความหมายของประโยค  ถ้ามี verb ตามมาใช้รูปประธาน  ถ้าเป็นกรรมของ verb ที่อยู่ข้างหน้าใช้รูปกรรม เช่น

รูปประธาน (ไม่นิยมใช้)
He is smarter than she is.
He is as smart as she is.

รูปกรรม
He likes you more than me.
He likes you as much as me.

2. หลังกิริยาที่บอกสภาพ ได้แก่ be , seem , look , like , appear มักจะใช้รูปกรรม เช่น
His father looks like him.

3. หลัง between …and …., let, except ใช้ในรูปกรรม เช่น
Let us go out.
There are some problems between you and me.

การใช้  He , She , It
1. เพศชายและไม่บ่งเพศ ใช้ He
2. He, She นอกจากใช้แทนคนแล้วยังใช้แทนสัตว์เลี้ยงได้
3. She อาจใช้แทนสิ่งไม่มีชีวิตได้เมื่อกล่าวถึงคุณสมบัติหรือความรู้สึก เช่น เรือ, รถไฟ, เครื่องบิน
4. She ใช้แทนประเทศในแง่ของหน่วยหนึ่งทางการเมืองและวัฒนธรรม
5. It ใช้กับสัตว์และเด็กเล็กที่ไม่ทราบเพศหรือไม่คำนึงถึงเพศ

2. Possessive Pronouns << คลิกอ่านเพิ่ม
Possessive Pronouns  หมายถึง คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ  เช่น his , hers , theirs , mine , ours , yours

หลักการใช้ Possessive Pronouns

1. ใช้เป็นประธานของกิริยาหรือเป็นกรรมของกิริยา หรือของบุพบท
Her car is red, but yours is blue.  (yours แทน your car)

ย้อนดูที่ตารางด้านบน สำหรับรูปแสดงความเป็นเจ้าของ ต้องตามด้วยคำนาม แต่รูปความเป็นเจ้าของ ไม่ต้องมีคำนามตามมา (เนื่องจากรู้กันอยู่แล้ว) ลองดูตัวอย่าง 2 ประโยคนี้

He is my boyfriend.
= เขาเป็นแฟน(ชาย)ของฉัน
He is mine.
= เขาเป็นของฉัน

2. ใช้หลัง of  หมายถึง หนึ่งในบรรดา (คน , ตัว , สิ่ง , อัน) ทั้งหลายเหล่านี้
John is a teacher of  mine.  (mine แทน my teacher)

3. Reflexive and Emphasizing Pronouns
Reflexive and Emphasizing Pronouns หมายถึง Pronouns ที่ลงท้ายด้วย self  และ selves   โดยทำหน้าที่แตกต่างกัน

เอกพจน์                  พหูพจน์
himself                        themselves
herself                         themselves
itself                            themselves
myself                         ourselves
yourself                       yourselves
oneself                              –

หลักการใช้ Reflexive Pronouns และ Emphasizing Pronouns

1. Reflexive Pronouns ใช้เป็นกรรมของประโยค เมื่อการกระทำนั้นสะท้อนถึงประธานหรือผู้พูดเป็นผู้รับการกระทำนั้นเอง  ประธานและกรรมจะเป็นคน หรือสิ่งเดียวกัน
I saw myself in the mirror.

2. ใช้เน้นประธาน  ซึ่งจะอยู่หลังประธานหรือท้ายประโยค
I go to school by myself.

อ่านต่อแบบละเอียด คลิก >> Reflexive Pronoun

4. Indefinite Pronouns
Indefinite Pronouns  คือ คำสรรพนามที่ไม่ชี้เฉพาะเจาะจงว่าเป็นใคร สิ่งใดหรืออันใด  จะมีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์

1. Indefinite Pronouns แบบเอกพจน์  ได้แก่
a person    anybody    one              someone       anyone
each          either         neither        everybody     everyone
another      anything    something   the other       nothing
much         everything   nobody      no one          somebody

หมายเหตุ – การใช้ one….another , one… the other

1.1. ถ้าหมายความว่า “ไม่…ใดก็…หนึ่ง” หรือ “อีกหนึ่ง” ใช้ one คู่กับ another  ได้
1.2. ถ้ามีเพียงสองจำนวน หรือ สองส่วนเท่านั้น   ใช้ one คู่กับ the other ได้
เช่น Mary buys two bicycles, one for her daughter , and the other for her son.

2. Indefinite Pronouns  แบบพหูพจน์  ใช้คำสรรพนามรูปพหูพจน์  กิริยาจะเป็นพหูพจน์ด้วย
เช่น  both , few, many several.

5. Relative Pronouns
Relative Pronouns  คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่อยู่ข้างหน้า  โดยทำหน้าที่เชื่อม clauses เข้าด้วยกัน
เช่น who , whom , whose , which , that , as

Relative Pronouns  แบ่งตามหน้าที่ได้ดังนี้

1. Personal  (คน) ได้แก่

–  who  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
A student who pays attention in the class gets a good grade.
People who live in Bangkok cope with the traffic problem.

– whom ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรมทั้งเอกพจน์และพหูพจน์
The teacher whom I met yesterday is your uncle.

–  whose  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่แสดงความเป็นเจ้าของ
This woman whose purse was lost  is going to  see the police.

2. Non-Personal (สัตว์, สิ่งของ) ได้แก่

– which  ใช้แทนคำนามที่ทำหน้าที่เป็นประธานและกรรม
The gift which I bought yesterday is so expensive.

ในกรณีที่ which เป็น กรรมของ preposition จะต้องเอาpreposition มาไว้ข้างหน้า which ด้วย
This is the house in which Mary lives.
This is the thesis to which John refer.

หากเป็นการใช้ เกี่ยวกับสถานที่ in which , to which เช่น
This is the house in which Mary lives. เป็น
This is the house where Mary lives.

คลิกอ่านเรื่อง >> การใช้ this that these those

เรื่องที่ควรอ่านเพิ่มเติม คลิก >> Noun

[Update] คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ ( possessive nouns )-ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | การแสดงความเป็นเจ้าของ – NATAVIGUIDES

คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive nouns) คือ การทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้

1. การใช้ Apostrophe + s (‘s)

Possessive Form of Nouns
ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะใช้คำ Possessive Adjectives, Possessive Pronouns แสดงความเป็นเจ้าของ แล้ว ยังมีคำแสดงความเป็นเจ้าของอีกกลุ่มด้วยเช่นกัน ซี่งเราเรียกคำกลุ่มนี้ว่า “Possessive Form of Nouns”
Possessive Form of Nouns เป็นคำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ มีอยู่ 2 รูป คือ ‘s และ of มีวิธีใช้ดังนี้
1. ‘s อ่านว่า Apostrophe s ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ และใช้กับสิ่งที่มีชีวิต
2. of ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต

1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยวางไว้หลังคำนามที่เป็นเจ้าของ เช่น

ตัวอย่างการใช้

 

 

‘s


ความหมาย

Kate’s car
Students’ shoes
My father’s hat
The children’s backpacks
A bird’s wings
His girlfriend’s gloves
Yupa and Yupin’s skirts

รถยนต์ของเคท
รองเท้าของนักเรียน
หมวกของคุณพ่อของฉัน
เป้ของพวกเด็ก ๆ
ปีกของนก
ถุงมือของแฟนเขา
กระโปรงของยุพาและยุพิน

จากตัวอย่าง…นักเรียนสังเกตการใช้ ‘s จะมีความแตกต่างกัน บางประโยคใช้ทั้ง ‘sบางประโยคใช้เฉพาะ ” ‘ ” เท่านั้น…มีหลักในการใช้อย่างไร…นักเรียนศึกษาตัวอย่างประโยคแสดงการใช้ ” ‘s ” ต่อไปนี้

หลักในการใช้  ‘s 
1. นามที่เป็นเจ้าของที่มีรูปเป็นเอกพจน์ ให้ใส่ ‘s หลังคำนามได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ
   My mother’s dress is very beautiful.

   ชุดของคุณแม่ของฉันสวยมาก

   A dog’s tail is short.

   หางของสุนัขสั้น

   That girl’s candies are 

very 

sweet.

   ขนมอมของเด็กคนนั้นหวาน

มาก

2. ชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของลงท้ายด้วย s หรือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s ” หลัง ชื่อบุคคลนั้นได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

  That is Tommy’s car.

   

นั่นคือรถยนต์ของทอมมี่

  Somchai’s dog is very fat.

   

สุนัขของสมชัยอ้วน

  Those are Kanchana’s sisters.

   

ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นน้องสาวของกาญจนา

  Mrs.Jones’ s sons are very naughty.

   

ลูกชายของนางโจนส์ซนมาก

  James’

s

 girlfriend is

 

a singer.

แฟนสาวของเจมส์เป็นนักร้อง

3. นามที่เป็นเจ้าของมีความหมายเป็นพหูพจน์ แต่รูปเป็นเอกพจน์ คือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s” หลังหลังคำนามนั้นได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   People’s cars are at the car park.

   รถของประชาชนจอดที่ ๆ จอดรถ

   The police’s guns are short.

   ปืนของพวกตำรวจสั้น

   The women’s blouses are green.

   เสื้อของผู้หญิงเหล่านั้นสีเขียว

4.นามที่เป็นเจ้าของมีรูปเป็นพหูพจน์และลงท้ายด้วย s ให้ใส่เฉพาะ” ‘ ” เท่านั้น เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   The students’ shoes are very big.

    รองเท้าของนักเรียนคู่ใหญ่มาก

   My parents’ clothes are in the closet.

   เสื้อผ้าของคุณพ่อคุณแม่อยู่ในตู้เสื้อผ้า

   The 

boys’ desks are

 big.

   โต๊ะของเด็กพวกนั้นใหญ่มาก

5. ถ้ามีเจ้าของมากกว่าหนึ่ง และมี and เชื่อม หรือเป็นเจ้าของร่วมกัน ให้วาง ‘ s หลังคำนามตัวสุดท้ายเท่านั้น เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

    Bill and Susan’s car is a European car.

   รถยนต์ของบิลและซูซันเป็นรถยุโรป

   Bob and Kate’s father is a policeman.

 คุณพ่อของ บ๊อบและเคท เป็นตำรวจ

  John, Andy and James’s house is green.

 บ้านของจอห์น แอนดี้และเจมส์สีเขียว

2. การใช้ of

มักใช้แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับคำนามที่ไม่ใช่บุคคล โดยวาง of ไว้หน้าคำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น The tail of a dog. (หางของหมา), The wings of a bird (ปีกของนก)

ตัวอย่าง

1. Pim is member of the basketball team.
(พิมเป็นสมาชิกของทีมบาสเก็ตบอล)

2. How long does it take to the top of Mt. Fuji?
(ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะถึงยอดภูเขาฟูจิ)

3. Do you know the meaning of this word?
(คุณรู้ความหมายของคำนี้ไหม?)

” Of ” มีความหมายว่า ของ ใช้แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับสิ่งของและสถานที่ หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ดังตัวอย่างจากตารางข้างล่างนี้

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   The cover of  this notebook is blue.

   ปกของสมุดเป็นสีฟ้า

   The cover of  this notebook is blue.

   เด็กชายคนนั้นยืนบนฝั่งน้ำ

   

The cover of  this notebook

 is blue.

  พวกนี้เป็นกิ่งก้านของต้นไม้


ฟังไปเรื่อยๆ ศัพท์อังกฤษ 200 คำที่ใช้จริงบ่อยที่สุด


ติดตามแฟนเพจครูเชอรี่ได้ที่ https://www.facebook.com/cherry.englishbright/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ฟังไปเรื่อยๆ ศัพท์อังกฤษ 200 คำที่ใช้จริงบ่อยที่สุด

การใช้ Apostrophe S แสดงความเป็นเจ้าของ


น้องๆหลายคนอาจจะเคยเจอการใช้ ‘s มาบ้างแล้ว วันนี้เราจะมีดูการใช้ ‘s ที่แสดงความเป็นเจ้าของกันค่ะ ในวิดีโอตอนท้ายมีแบบฝึกหัดด้วยนะคะ
ฝากติดตามครูเน็ตช่องทางอื่นๆด้วยนะคะ
Facebook Page: English with P’Net
https://www.facebook.com/Englishnetty
Tiktok: EnglishwithNetty

การใช้ Apostrophe S แสดงความเป็นเจ้าของ

การแสดง​ความเป็น​เจ้าของ​Possessive Adjectives \u0026​ ‘s


ครู​จิ​จัด​ทำ​คลิป​นี้​เพื่อ​การ​สอน​ออนไลน์​ในช่วง​สถานการณ์​โควิด​เป็น​วิชา​ภาษาอังกฤษ​ระดับ​ชั้น​ ป.3 โดย​ใช้​หนังสือ​แบบฝึก​ชุด​กิจกรรม​ภาษาอังกฤษ​ของ​สถาบัน​พว. New​Express​English​ เนื้อหาเป็นการอ่านและทำแบบฝึกหัด​เกี่ยวกับการแสดงความเป็นเจ้าของ Possessive Adjectives​ และการใช้ ‘s ในการแสดงความเป็นเจ้าของ ตามหนังสือชุดกิจกรรม​ในหน้าที่55 56 และ 58

การแสดง​ความเป็น​เจ้าของ​Possessive Adjectives \u0026​ 's

สอนเป็นพิธีกร สอนพูด – ต้องเป็น #พิธีกรจำเป็น เริ่มต้นไงดี – คุณเอก เดี่ยวดวลไมค์ไทยแลนด์


สนใจติดต่องานพิธีกรและวิทยากร
แอดไลน์
https://lin.ee/cc1rxR4
.
แชทเพจคลิ๊ก
m.me/TrainingInnovationCenter
.
โทร. 0824659945
…………………………………………………………
.
คอร์สออนไลน์ \”การพูดอย่างมืออาชีพ\”
📌สนใจทักแชทไลน์เลยค่ะ
📲 คลิ๊ก https://lin.ee/1Jgd06t
.
👉รีวิวคอร์สออนไลน์
\”การพูดอย่างมืออาชีพ\” รุ่น 2
https://youtu.be/Gvuiewyakh4
.
การพูดอย่างมืออาชีพ รุ่น 1
https://youtu.be/X4_iqJBTbW4
💌💌💌💌💌💌💌💌💌💌💌
🔺ท่านสามารถกดติดตามรับข่าวสาร หรือเทคนิคดีๆ เกี่ยวกับการพูดได้ที่
https://www.facebook.com/groups/impro…
.
🏷️www.mcteamwork.com
.
🚨www.youtube.com/c/traininginnovationcenter

สอนเป็นพิธีกร สอนพูด - ต้องเป็น #พิธีกรจำเป็น เริ่มต้นไงดี - คุณเอก เดี่ยวดวลไมค์ไทยแลนด์

Pronouns : ep 1 Pronoun คือ คำสรรพนาม แล้วมันคืออะไรนะ


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Pronouns : ep 1 Pronoun คือ คำสรรพนาม แล้วมันคืออะไรนะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การแสดงความเป็นเจ้าของ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *