โดยสรุป ภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้
Adjective (แอด’เจคทิฟว) หมายถึง คำที่ทำหน้าที่ขยายคำนามหรือคำสรรพนามเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น เช่น คำที่แสดงจำนวน, แสดงความเป็นเจ้าของ, แสดงขนาด, รูปร่าง, น้ำหนัก, ความสูง, บอกสี, เชื้อชาติ, ภาษา เป็นต้น
คลิกอ่าน >> ประเภท adjective << ควรอ่านก่อน!
Table of Contents
ตำแหน่งการวาง Adjectives (คำคุณศัพท์)
1. adjective นำหน้าคำนาม
a beautiful woman, a rich man
2. adjective อยู่หลัง linking verb (Verb to be , become , get , grow , feel , look , appear , seem , smell etc. คำกิริยาเหล่านี้ต้องตามหลังด้วย Adjectives เสมอ
John looks smart.
Mary feels happy.
3. อยู่หลัง adjective หลายตัวด้วยกัน โดยขยายคำนาม หรือสรรพนามได้
old blue shirt
new black shoes
4. adjective อยู่หลังคำนามหรือคำสรรพนามที่เป็นกรรมของกิริยาบางคำ เช่น
like , get, make , etc.
You made me happy.
การเรียงลำดับ adjective (คำคุณศัพท์) กรณีที่มี adjective ที่ขยายคำนามหรือสรรพนามหลายตัว
การเปรียบเทียบคำคุณศัพท์
Comparison of Adjectives
1. Positive Degree เป็นการเปรียบเทียบ adjective ขั้นธรรมดา เพื่อแสดงความเท่าเทียมกันของบุคคล 2 คนหรือสิ่งของสองสิ่ง
รูปประโยคบอกเล่า ใช้ as + adj + as
รูปประโยคปฏิเสธ ใช้ not + (so, as) + adj + as
Mary is as pretty as her sister.
Mary is not so pretty as her sister.
Mary is not as pretty as her sister.
2. Comparative Degree เป็นการเปรียบเทียบ adjective ขั้นกว่า เพื่อแสดงความไม่เท่าเทียมกันของบุคคล 2 คนหรือสิ่งของ 2 สิ่ง โดย
*การเติม -er ท้าย Adjective และตามด้วย than
This wood is thicker than that one.
*การเติม more หรือ less หน้า Adjective และตามด้วย than
This car is more comfortable than that one.
This car is less comfortable than that one.
3. Superlative Degree เป็นการเปรียบเทียบ adjective ขั้นสูงสุดของบุคคลหรือสิ่งต่างๆ มากกว่าสองขึ้นไป โดย
*การเติม est ท้าย Adjective และใส่ the หน้าคำ Adjective
Mary is the eldest sister in this family.
*การเติม the most หน้าคำ Adjective
Eddy is the most handsome man in this city.
เกณฑ์ในการเปลี่ยน Adjective ให้เป็นขั้นกว่า และขั้นสูงสุด
1. คำ Adjective พยางค์เดียวเติม er เมื่อเป็นขั้นกว่าและเติม est เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
old older oldest
few fewer fewest
2. คำ Adjective พยางค์เดียวลงท้ายด้วย e เติม r เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม st เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
late later latest
wide wider widest
3. คำ Adjective ที่ลงท้ายด้วย y หน้า y เป็นพยัญชนะควรเปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม er เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม est เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
early earlier earliest
pretty prettier prettiest
4. คำ Adjective พยางค์เดียวที่มีตัวสะกดตัวเดียวและสระตัวเดียว จะต้องเพิ่มตัวสะกดตัวสุดท้ายอีกหนึ่งตัวก่อนแล้วเติม er เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม est เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
big bigger biggest
hot hotter hottest
5. คำ Adjective ที่มีสองพยางค์และเสียงเน้นหนักที่พยางค์แรก อาจจะเติม er หลังคำ Adjective หรือ more หน้า Adjective เมื่อเป็นขั้นกว่า และ เติม est หลังคำ Adjective หรือ most หน้า Adjective เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
quiet quieter quietest
quiet more quiet most quiet
common commoner commonest
common more common most common
6. คำ Adjective ที่มีสองพยางค์ขึ้นไป เติม more เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม most เมื่อเป็นขั้นสูงสุดหน้าคำคุณศัพท์
beautiful more beautiful most beautiful
comfortable more comfortable most comfortable
7. คำ Adjective บางตัวเปลี่ยนรูปเมื่อเป็นขั้นกว่าและขั้นสูงสุด
bad worse worst
good better best
much more most
8. คำ Adjective ที่มาจาก participle เติม more เมื่อเป็นขั้นกว่า และเติม most เมื่อเป็นขั้นสูงสุด
excited more excited most excited
amusing more amusing most amusing
Possessive Adjectives
Possessive Adjectives หมายถึงคำคุณศัพท์ที่แสดงความเป็นเจ้าของโดยมีคำนามตามหลัง เช่น his , her , its , my , your , our, their
Possessive Pronouns หมายถึงคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของโดยไม่มีคำนามตามหลัง เช่น his , hers , mine , yours , ours , theirs ศึกษาเพิ่มเติมที่หัวข้อ >> Pronoun การใช้คำสรรพนามในภาษาอังกฤษ
[Update] Engnow.in.th เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ | โดยสรุป ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES
Shall Should Can Could ใช้อย่างไรไม่ให้งง?
Shall Should Can Could ทั้งสี่่คำนี้คือ กริยาช่วย (Modal Verb) โดยมีหน้าที่ในการขยายกริยาหลักหรือ
Main verb กริยาช่วย (Modal Verb) แต่ละตัวจะนำมาใช้ในสถานการณ์ที่ต่างกัน
ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูหน้าที่และความแตกต่างของทั้งสี่ตัวกัน
Shall & Should
Shall มักจะใช้ในการชักชวน ชี้แนะ ให้ความช่วยเหลือ
ยกตัวอย่าง
I’m afraid I shan’t be
able to come to your party. ฉันเกรงว่าจะไปงานปาร์ตี้ของคุณไม่ได้แล้วละ
Shan’t = shall not ในรูปของการปฏิเสธ
Shall ในประโยคจะมีโครงสร้างประโยคดังนี้
Shall + subject + (V.
infinitive)
Shall we go out for dinner tonight? คืนนี้เราออกไปทานมื้อค่ำกันไหม?
- Shall = modal verb
- we = subject
- go out = Verb infinitive
I’m cold. Shall I
close this window? ฉันหนาวจัง ฉันปิดประตูหน้าต่างได้ไหม?
Shall จะเจอบ่อยในการพูดอย่างเป็นทางการ โดยปกติและมักจะใช้ในการชักชวน
มักจะใช้กับประธานที่เป็น I และ We
Should มักจะใช้ในการเสนอแนะ แปลว่า “ควรจะ…..” โดยปกติใช้ในการให้คำแนะนำให้ผู้อื่นทำตาม
ยกตัวอย่าง
We agreed that we
should meet the following week. พวกเราตกลงกันว่าควรจะพบกันในสัปดาห์ถัดไป
You should practice yourself for the new performance. คุณคิดฝึกฝนตัวเองสำหรับการแสดงครั้งใหม่
Should we leave now? เราควรออกไปตอนนี้เลยดีไหม?
Can & Could
Can & Could ใช้ในการบอกความสามารถในเวลาปัจจุบันและอดีต
Can ใช้กับปัจจุบัน Could
ใช้กับอดีต
ยกตัวอย่าง
She can speak four languages. หล่อนสามารถพูดได้สี่ภาษา
When I was younger I could stay up all night and not get tired. เมื่อฉันยังเด็กฉันสามารถอยู่ได้ทั้งคืนและไม่เหนื่อย
Can Could ใช้การในการร้องขอให้ทำบางสิ่ง หรือใช้ในการในการขออนุญาต หรือใช้ในการห้าม และใช้ในการเสนอความช่วยเหลือได้อีกด้วย
ยกตัวอย่าง
- Could I speak to Dapne, please? ฉันขอคุยกับดัฟนี่ได้ไหม
- Could you turn that music down a little, please? รบกวนช่วยลดเสียงเพลงให้เบาลงหน่อยได้ไหม
- Could you please show me your ticket? Madam. รบกวนช่วยแสดงตั๋วของคุณหน่อยได้ไหม
- I’m afraid you can’t smoke in this area. ฉันเกรงว่าคุณไม่สามารถสูบบุหรี่ในพื้นที่นี้ได้นะคะ
- Can I talk with him? ฉันขอคุยกับเค้าหน่อยได้ไหม
- Can you read that sign from this distance? อ่านป้ายอันนั้นจากระยะนี้ได้ไหม
Can Could มีความต่างกันตรงที่ระดับภาษา Could จะมีความสุภาพและเป็นทางการกว่า Can ซึ่ง Can สามารถใช้ได้กับเพื่อนหรือคนที่สนิทก็สามารถใช้ได้ไม่ได้เป็นคำหยาบ
แต่หากเราต้องสื่อสารกับผู้ที่อาวุโสกว่า ให้ใช้ Could จะเหมาะสมกว่าจ้ะ
ทดสอบความเข้าใจ
1. หากเราต้องการให้ลูกค้ากรอกเอกสารควรพูดประโยคใด?
A. Could you fill in these blanks please?
B. Can you write your information?
2. จากประโยคต่อไปนี้ควรเลือกคำใดมาใช้จึงจะถูกต้อง
“Yesterday, I _______
see by the look on their faces that something was wrong.”
A. could B.
can
3. จากประโยคต่อไปนี้ควรเลือกคำใดมาใช้จึงจะถูกต้อง
“_______ I use
your bike, John?”
A. can B. could
เฉลย
1. หากเราต้องการให้ลูกค้ากรอกเอกสารควรพูดประโยคใด?
Could you fill in these blanks please? แปลว่า รบกวนกรอกข้อมูลลงในช่องว่างให้หน่อยนะคะ
2. “Yesterday, I could see by the look on their faces that something was wrong.” ใช้ could เพราะเป็นการบอกว่าเราเห็นเมื่อวานนี้ พูดถึงเรื่องในอดีต
3. “Can I use your bike, John?” ใช้ can เพราะว่าเป็นการพูดกันกับเพื่อน
ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน EP.1
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ
แบบฝึกหัด ฝึกฟังภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน
นักเรียนจะได้ยินเสียงประโยคสนทนาภาษาอังกฤษสั้นๆที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำ 2 ครั้ง (แบบไม่มีซับ) แล้วหลังจากนั้นก็ได้ยินอีกครั้งแบบมีซับ
นักเรียนลองฝึกฟังดูนะคะ ว่าพอจะฟังออกไหม ตรงกับที่เราเข้าใจไหม
ฝึกพูด 100 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ในชีวิตประจำวัน
https://www.youtube.com/watch?v=NEOO6wgqZMw\u0026t=837s
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ประโยคสั้นๆง่ายๆ ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน miniconversation
https://www.youtube.com/watch?v=_mdqpBLMEkA
Playlist ฝึกพูดบทสนทนาภาษาอังกฤษคล่องด้วยตนเอง: ระดับ Beginner (พื้นฐานในชีวิตประจำวัน)
https://www.youtube.com/playlist?list=PLMfgvKgVmGD7V56x_zgAIPsF0fdrLmF5x
สนใจเรียนคอร์สสนทนาภาษาอังกฤษกับ Kru.First
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.krufirst.com
หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line ID: @englishkrufirst
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
ฝึกออกเสียง 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน
ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright
https://www.englishbright.net
N๗๖: พื้นฐาน 30 ประโยคสำเร็จรูป – ผู้เริ่มฝึกพูด Eng | เรียนภาษาอังกฤษ กับ อ.พิบูลย์ แจ้งสว่าง
อ่านบทความเกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ (ฟรี) \u0026 ดูรายละเอียดคอร์สเรียน Eng ได้ที่
www.NakedEnglish.net หัวข้อ: บทความที่น่าสนใจ
ติดตามเราได้ที่ Facebook.com/EnglishWithPiboon
เราเน้นเรียน+สอนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน ให้สนทนาและเข้าใจหลักการใช้ภาษาอย่างถูกต้อง
[จัดทำและสอนโดย อ. พิบูลย์ แจ้งสว่าง] Piboon Jangsawang
50 คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง
คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน จะได้นำไปพิมพ์ คุยกับชาวต่างชาติกัน แล้วก็นำประโยคเต็มไปพูดกันได้เลย
ภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี! อื่นๆๆ
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…
ฉลาดคิด ชีวิตไม่เครียด โดย ท่าน ว.วชิรเมธี [พระเมธีวชิโรดม – พระมหาวุฒิชัย] ไร่เชิญตะวัน
อย่ายอมให้คำตัดสินของคนที่ไม่รู้จักตัวเราอย่างแท้จริง มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเรามากเกินไป (ท่าน ว.วชิรเมธี)
\”Never let the judgment of someone who doesn’t truly know us affect our lives too much.\” (v.vajiramedhi)
แก้เครียด คิดเป็น ความสุข
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ โดยสรุป ภาษาอังกฤษ