Skip to content
Home » [NEW] การใช้ประโยคอธิบายเหตุการณ์ในอดีต (Past simple tense) | การ ใช้ past simple tense – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ประโยคอธิบายเหตุการณ์ในอดีต (Past simple tense) | การ ใช้ past simple tense – NATAVIGUIDES

การ ใช้ past simple tense: คุณกำลังดูกระทู้

เนื้อหาเรื่อง การใช้ประโยคอธิบายเหตุการณ์ในอดีต 

(Past simple tense)

Past Simple Tense คือประโยคที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว และจบลงแล้ว   ขอให้สังเกตความแตกต่างระหว่างประโยคที่ที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับประโยคที่ใช้อธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นและจบลงแล้ว ในอดีต

 ประโยค present tense : I get up at 6.30 am. everyday.

(ฉันตื่นนอนเวลาหกโมงครึ่งทุกวัน)

ประโยค past tense : I got up at 8.00 am. yesterday.

(เมื่อวานนี้ ฉันตื่นนอนแปดโมงเช้า)

จากประโยคสองประโยคข้างบน จะเห็นว่า มีความแตกต่างกันสองส่วนคือ

 ประโยค

Present tense

Past tense

คำกริยา

get

got

คำที่บอกเวลา

everyday

yesterday

โครงสร้าง  S + V2 +ส่วนขยาย

I

went out  last night.

We

cooked yesterday.

He/she it

moved out two weeks ago

You

worked late last week.

They

left the day before yesterday.

 

 คำหรือวลีที่ใช้ใน past tense

คำบอกเวลา เช่น

            yesterday (เมื่อวานนี้) the day before yesterday    (เมื่อวานซืนนี้)

last week  (หรือคำอื่นๆที่ ใช้ last นำหน้า  เช่น last year,  last month, etc.)

four weeks ago (หรือคำอื่นๆที่ ใช้ ago ลงท้าย  เช่น ten years ago, two
hours ago, etc.)

คำเหล่านี้มักจะวางไว้ท้ายประโยค  หรืออาจ วางไว้หน้าประโยคก็ได้    เช่น

            I washed my car  two weeks ago.หรือ Two weeks ago,I washed my car .

(ฉันล้างรถเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว)

            She went to Korea last month.   หรือ  Last month, She went to Korea.

(หล่อนไปเกาหลีเมื่อเดือนที่แล้ว)

หลักการใช้
          1. ใช้อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และสิ้นสุดแล้ว มี  คำหรือวลีที่
บอกเวลาในอดีตกำกับด้วย เช่น
I saw you yesterday. (ฉันเห็นคุณเมื่อวานนี้)                                      ประธาน    –   I         กริยา – saw            คำหรือวลีที่ บอกเวลา   – yesterday.

He worked in Paris last year. (เขาทำงานที่ปารีสเมื่อปีที่แล้ว)  ประธาน    –  He         กริยา – worked     คำหรือวลีที่ บอกเวลา   – last year
2. ใช้อธิบายเหตุการณ์หนึ่งซึ่งกระทำเป็นประจำในอดีต แต่บัดนี้ไม่ได้ทำอีก เช่น
                When I was young, I walked to school everyday.
               (เมื่อฉันยังยังเด็ก ฉันเดินไปโรงเรียนทุกวัน) ปัจจุบันนี้เขาไม่ได้เดินไปโรงเรียนแล้ว    When I  was young –  เป็นข้อความที่บอกเวลาในอดีต   ข้อความนี้เรียกว่า dependent clause ซึ่งเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์ในตัวเองต้องพึ่งพาประโยคอื่น จึงจะมีความหมายสมบูรณ์  ไม่สามารถใช้เพียงลำพังได้  คำกริยาที่ใช้ในข้อความนี้ ต้องอยู่ในรูปของ อดีต (“was” เป็น รูป อดีต ของ “is”)  ส่วน ประโยคหลัก     “I walked to school everyday”  –  I   ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค     walked to  (เดินไปยัง) เป็นกริยาที่บอกการกระทำในอดีต    school (โรงเรียน) ทำหน้าที่เป็นกรรม     everyday (ทุกวันในอดีต)   ทราบจากข้อความที่บอกว่า  When I was young.
การกระทำที่เกิดขึ้นในอดีต คือในเวลาที่ล่วงเลยมาแล้ว โดยปกติเราจะพบ Adverbs of Time ที่บอกเวลาอดีตกำกับไว้เสมอ เช่น
  yesterday  (เมื่อวานนี้)      this morning  (เมื่อเช้านี้)     the day before yesterday (เมื่อวานซืนนี้)

คำที่ขึ้นต้นด้วย “last”   เช่น  last night ( เมื่อคืนที่แล้ว)    last week   (สัปดาห์ที่แล้ว)    last month  (เดือนที่แล้ว)  last Saturday  (วันเสาร์ที่แล้ว)           last January  (เดือนมกราคมที่แล้ว)
                        คำที่ลงท้ายด้วย “ago”  เช่น  a month ago (เมื่อเดือนที่ผ่านมาแล้ว)                  two years ago  (สองเดือนที่ผ่านมาแล้ว)          five hours ago  (ห้าชั่วโมงที่ผ่านมาแล้ว)            six weeks ago (หกสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว)    a moment ago   (เมื่อสักครู่นี้)  เวลาซึ่งเป็นปี ค.ศ. ในอดีต    ขึ้นต้นด้วย  “in”   เช่น    in 1999                                 

รูปประโยคบอกเล่า  (Affirmative Sentence)
ประธาน + กริยาช่องที่ 2 (โดยการเปลี่ยนรูป หรือ เติม ed)

Present Simple
Past Simple

He plays football every day
He played football yesterday.

walk to work every day.
walked to work ten years ago.

She washes her clothes herself every day.
She washed her clothes herself last year.

หลักการเติม ed ที่คำกริยา

1. กริยาที่ลงท้ายด้วย e ให้เติม d ได้เลย เช่น

love – loved = รัก                   move – moved= เคลื่อน

hope – hoped = หวัง

2. กริยาที่ลงท้าย ด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะ ให้เปลี่ยน y เป็น I แล้วเติม ed เช่น

cry – cried = ร้องไห้             try – tried = พยายาม

marry – married = แต่งงาน

ข้อยกเว้น ถ้าหน้า y เป็นสระ ให้เติม ed ได้เลย เช่น

play – played = เล่น            stay – stayed = พัก , อาศัย

enjoy – enjoyed = สนุก        obey – obeyed = เชื่อฟัง

3. กริยาที่มีพยางค์เดียว มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียวให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น

plan – planned = วางแผน     stop – stopped = หยุด

beg – begged = ขอร้อง

4. กริยาที่มี 2 พยางค์ แต่ลงเสียงหนักพยางค์หลัง และพยางค์หลังนั้น มีสระตัวเดียว และลงท้ายด้วยพยัญชนะที่เป็นตัวสะกดตัวเดียว ให้เพิ่มพยัญชนะที่ลงท้ายอีก 1 ตัว แล้วเติม ed เช่น

concur – concurred = ตกลง, เห็นด้วย          occur – occurred = เกิดขึ้น

refer – referred = อ้างถึง                           permit – permitted = อนุญาต

 ถ้าออกเสียงหนักที่พยางค์แรก ไม่ต้องเติมพยัญชนะตัวสุดท้ายเข้ามา เช่น

cover – covered = ปกคลุม                        open – opened = เปิด

5. นอกจากกฏที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เมื่อต้องการให้เป็นช่อง 2 ให้เติม ed ได้เลย เช่น

walk – walked = เดิน                              start – started = เริ่ม

worked – worked = ทำงาน

ประโยคคำถาม (Interrogative)   

            1. ประโยคที่มีกริยา verb to be ( was, were )    เมื่อต้องการเปลี่ยนประโยคประเภทนี้ให้เป็น คำถาม ให้ย้าย verb to beมาวางไว้หน้า  แล้วใส่เครื่องหมาย “?” ท้ายประโยค  เช่น

ประโยคบอกเล่า

ประโยคคำถาม

He was  at school yesterday.
Was he at school yesterday?

They were at home   yesterday.
Were they were at home   yesterday ?

2. ประโยคประเภทอื่นๆที่ไม่อยู่ในกฎข้อ 1  เมื่อต้องการทำเป็น past tense ให้ใช้กริยา “Did” มาช่วย  และเมื่อใช้กริยา “Did” มาช่วยแล้ว  กริยาเดิมในประโยคคำถามต้องเปลี่ยนรูปให้เป็นกริยาช่องที่ 1 ด้วย
                          Did + ประธาน + กริยารูปเดิม+ ส่วนขยาย

ประโยคบอกเล่า

ประโยคคำถาม

He walked to work yesterday.
Did he walk to work yesterday?

They worked late last night.
Did they work late last night?

Rob did the exercise last week.
Did Rob do the exercise last week?

สำหรับตัวอย่างในประโยคสุดท้าย คำกริยา “ did ” เป็นกิริยาช่วย ในการเปลี่ยนประโยคให้เป็น past tense นั้น ไม่มีคำแปล  แต่ “ did ” ซึ่ง เป็นกริยาแท้ในประโยคบอกเล่า มีความหมายว่า  “ ทำ ” เมื่อใช้ “ did ” มาช่วยแล้ว ” “ did ” ซึ่ง เป็นกริยาแท้ต้องเปลี่ยนกลับไปเป็น “ do”

 ประโยคปฏิเสธ (Negative)   

สำหรับประโยคแบบที่ 1  ให้เติม  “not” หลังกริยาได้เลย  เช่น

ประโยคบอกเล่า

ประโยคปฏิเสธ

He was at work yesterday.
He was not at work yesterday.

They were at the party last night.
They were not at the party last night.

ในประโยคปฏิเสธ, was not  หรือ were not สามารถเขียนแบบย่อได้
            was not   เขียนย่อได้ เป็น   wasn’t          were not  เขียนย่อได้ เป็น  weren’t           

ส่วนประโยคแบบที่ 2 ให้ใช้กริยา “ did ” เข้ามาช่วย แล้วเติม “not” ท้ายคำว่า  “ did ” (หรือใช้รูปย่อ : didn’t  ก็ได้)
ประธาน + didn’t + กริยารูปเดิม+ ส่วนขยาย

ประโยคบอกเล่า

ประโยคปฏิเสธ

ประโยคคำถาม

He walked to work yesterday.
He didn’t walk to work yesterday.
Did he walk to work yesterday?

They worked late last night.
They didn’t work late last night.
Did they work late last night?

  

[NEW] การใช้ Wh-questions กับ Past Simple Tense | การ ใช้ past simple tense – NATAVIGUIDES

สวัสดีค่ะนักเรียนชั้นม.2 ทุกคน วันนี้ครูจะพาไปตะลุย ” การใช้ Wh-questions ร่วมกับ Past Simple Tense” กันนะคะ
หากพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยจร้า

 

Wh-Questions คืออะไร

 

 

 เมื่อต้องถามคำถามอะไรก็ตามที่ไม่ต้องการคำตอบ Yes หรือ No แบบตรงประเด็น เราจะเรียกคำถามประเภทนี้ว่า Question  word หรืออีกชื่อในวงการคือ Wh-Questions ซึ่งได้แก่คำถามที่มักจะขึ้นต้นด้วย Wh- เช่น What, When, Where , Why, Whose, Which, Whom, Who

เป็นกลุ่มคำถามที่ต้องการ คำตอบ เจาะจงอธิบาย ขยายความ 

 

ประเภทของ Wh-Questions 

 

ครูขอยกตัวอย่าง การใช้ Wh-Questions กับคำถามใน Past Simple Tense  เพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจบริบทการใช้คำถามกับสถานการณ์ในดีต ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว มากยิ่งขึ้น เมื่อจะต้องนำไปใช้ในบริบทที่แตกต่างกันนะคะ

ดังตัวอย่างด้านล่าง

โครงสร้าง: Wh-Question + did + Verb infinitive+…?

 

When = เมื่อไร

เมื่อใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามเกี่ยวกับเวลา เช่น

  • When was your first time travelling outside of the country?
    = คุณไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรกตอนไหน

 

What = อะไร

ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับสิ่งของ ชื่อ วันที่ เวลา สิ่งที่รักที่ชอบ ใช้ถามได้ทั้ง อดีต ปัจจุบัน และอนาคตจร้า
มีตัวอย่างดังนี้ค่า

  • What did you do

    this morning?

    = เมื่อเช้านี้คุณทำอะไร (this morning แปลว่า เมื่อเช้านี้ ใช้บอกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วในอดีตจร้า)

 

 

 Where = ที่ไหน

ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับสถานที่ เช่น

  • Where did you go on vacation

    last year

    ?
    คุณไปเที่ยวพักผ่อนวันหยุดที่ไหน

    เมื่อปีที่แล้ว

    (ถามในอดีต)

 

Why = ทำไม

ใช้เมื่อขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับเหตุผล เช่น

  • Why did you travel to Japan?
    = ทำไมคุณถึงเที่ยวที่ญี่ปุ่น (ถามในอดีต)

 

Who = ใคร

ใช้เมื่อขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับบุคคล (ส่วนมากจะตอบเป็นชื่อบุคคล) เช่น

  • Who did you choose to travel with back then?
    แปล คุณเลือกไปเที่ยวกับใครเมื่อก่อนนี้ (back then เมื่อก่อนนี้)

 

Whose = ของใคร

ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับการแสดงความเป็นเจ้าของ  เช่น

  • Whose campervan that you wanted to get the service?
    รถตู้สำหรับเที่ยวของใครที่คุณอยากใช้บริการ

 

Whom = ใคร (ใช้เป็นกรรม)

ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามใช้ถามเกี่ยวกับบุคคล  เช่น

  • Whom did you travel with when you were younger?
    = ใครได้เที่ยวกับคุณเมื่อคุณยังเด็ก
    (เป็นการถามในอดีต อธิบายเพิ่มเติมได้อีกว่า ใครกันนะที่ได้ไปเที่ยวกับคุณเมื่อก่อนนี้)

 

Which = อันไหน/สิ่งไหน

ใช้ขึ้นต้นคำถามที่ต้องการถามเพื่อให้เลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง หรือ ทำว่าสิ่งไหน อันไหน ดังประโยคด้านล่างนะคะ

  • Which summer that you enjoyed the most last year?
    แปล ซัมเมอร์ไหนที่คุณรู้สึกมีความสุขที่สุดเมื่อปีที่แล้ว

 

How = อย่างไร/เท่าไร

ตัวอย่างเช่น

  • How long did you drive to Florida?  แปลว่า คุณขับรถไปฟลอริดาใช้เวลานานแค่ไหน

*****เพิ่มเติม: How ไม่ใช่ Wh-questions แต่ว่า มักเจอบ่อยในบทสนทนา 

 

สรุปโครงสร้าง

ของ Wh-Questions

ของ V. to be ในอดีต

 

 การใช้ Question word ในการถามและตอบคำถามเมื่อกริยาในประโยคเป็น be ( verb to be ) ทำได้ตามโครงสร้างดังนี้ค่ะ

” Wh+ was+ subject (singular)+ ……………. ? ——กรณีประธานเอกพจน์
” Wh+ were+ subject (plural)+ ……………. ?” ——กรณีประธานพหูพจน์

 

ตัวอย่าง (Examples) ดังในตารางแสดงการถามเหตุการณ์ในอดีต

 

ประโยคคำถาม

Liza:
Where (ที่ไหน)

was
he
she
it
I

last week?
(สัปดาห์ที่แล้ว)

were
you
we
they
ประโยคคำตอบ

Jenny:
He (เขาผู้ชาย)
She (เขาผู้หญิง)
It (มัน)
I (ฉัน)

was
at the concert
(ที่คอนเสิร์ต)

yesterday.
(เมื่อวานนี้)

You (เขา)
We (พวกเรา)
They (พวกเขา)

were

 

 ถามมา-ตอบไป

กับโครงสร้าง: Wh-Question + was, were +…? VS…. Wh-Question + did+subject+..?

 

ประโยคคำถาม
ประโยคคำตอบ
Where did you go last week?
อาทิตย์ก่อนเธอไปไหนมา

I went to my grandmother’s funeral.
ฉันไปงานศพคุณยายมา
What was your elementary school?
โรงเรียนประถมของคุณคือโรงเรียนอะไร

My elementary school was NokAcademy school.
โรงเรียนประถมของผมคือ โรงเรียนนกอะคาเดมี

When did you travel to England?

คุณไปประเทศอังกฤษตอนไหน
I went to England 2 years ago.
ฉันไปประเทศอังกฤษเมื่อสองปีที่แล้ว

Why did he study at NokAcademy school ?
ทำไมเขาถึงเรียนที่โรงเรียนนกอะคาเดมี

Because his parents wanted him to study there.
เพราะว่าพ่อกับแม่ของเขาต้องการให้เขาเรียนที่นั่น
How long did it take you to come here?
คุณใช้เวลานานแค่ไหนเพื่อมาที่นี่

I took 30 minutes to come here at the school.
ฉันใช้เวลา 30 นาทีเพื่อเดินทางมาโรงเรียนนี้

Wh-Question+ Past Simple Tense

 

 

 โครงสร้างประโยคคำถามเมื่อใช้ร่วมกับ Wh-Questions ชนิดต่างๆ:

Wh-Question + Did + Subject + Verb infinitive+…?

เช่น

Where did you go last week?
ไปไหนมาสัปดาห์ที่แล้ว

โครงสร้างประโยคบอกเล่า (ตอบ): Subject + Verb 2 หรือ Verb เติม -ed+…

สรุปการใช้:
ใช้กับเหตุการณ์ หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบลงในอดีต มักมีคำหรือกลุ่มคำของอดีตมากำกับ เช่น last year ปีที่แล้ว, yesterday เมื่อวานนี้, in 1995 ในปี ค.ศ. 1995, in the past ในอดีต

Situation: Rosie got diarrhea yesterday at the hospital.

Dan: Where did you go yesterday Rosie?
(โรซี่เมื่อวานไปไหนมาเหรอ)

Rosie: I went to the hospital.
(ฉันไปโรงพยาบาลมาน่ะ)

Dan: What happened?
(เป็นอะไรหรือเปล่า)

Rosie: I got diarrhea.
(ฉันท้องเสีย)

***จะสังเกตได้ว่า ในกลุ่มคำแสดงเวลา เช่น  yesterday (เมื่อวานนี้) คือคำบอกเวลาในอดีต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ เกิดขึ้นและจบลงไปแล้ว

 

การใช้ Question Words ในการถามและตอบคำถาม ในบทสนทนาของลูซี่และแอนนา

 

Lucy: Where did she go last night?

เมื่อคืนหล่อน (อีกคนหนึ่ง)ไปไหนมา

Anna: She went to the birthday party last night.
หล่อนไปงานเลี้ยงวันเกิดมา

 

 

สรุปหลักการใช้ Wh-Questions

ในอดีตที่ผ่านมา

เกิดขึ้นและจบลงแล้ว

 

  • Past Simple Tense จะใช้ถาม

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและ

    จบลงไปแล้วในอดีต

    มักมีคำบอกเวลาว่า ago, yesterday, last week, etc.
    เพราะฉนั้นหากมีการใช้คำถามควบคู่กับ Wh-Questions ให้นักเรียนเข้าใจไว้เลยว่า มันเป็นการถามเกี่ยวกับเรื่องราวในอดีต

    นั่นเองค่า

เป็นอย่างไรกันบ้างคะขอให้สนุกกับการอ่านบทเรียนนี้กันนะคะ นักเรียนที่รักทุกคนอย่าลืมทบทวนบทเรียนเรื่อง Past Simple Tense กับ Time Expression ได้ที่วีดีโอด้านล่างเพิ่มเติม เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นนะคะ  เลิฟๆ

 

+1


Asking for and Giving Directions


Learn how to ask for and give directions to someone, using certain words and phrases. You will also learn in this video what to say when you want to check in at a hotel.

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Asking for and Giving Directions

การใช้ Past Simple Tense


การใช้ Past Simple Tense

Past Simple Tense – Song


A nice song using many verbs in past simple tense.

Past Simple Tense - Song

5 PHÚT NẮM CHẮC THÌ QUÁ KHỨ ĐƠN | PAST SIMPLE TENSE | LET’S PLAY WITH GRAMMAR by The IELTS Workshop


englishbeginer simplepastense grammar
👉 Nhận ngay ƯU ĐÃI các khoá học ONLINE tại: http://ieltsonline.onthiielts.com.vn/
👉Test trình độ tiếng Anh và nhận tư vấn MIỄN PHÍ tại:https://bit.ly/3gr2tPo

Thì \”Quá khứ đơn\” là một trong những thì cơ bản của tiếng anh. Hôm nay chúng ta sẽ cùng \”xử gọn\” anh chàng \”simple past\” này nhé!

🌏 OFFICIAL WEBSITE: https://onthiielts.com.vn/

👉Test trình độ tiếng Anh và nhận tư vấn MIỄN PHÍ tại: https://onthiielts.com.vn/kiemtraielts.html

💯LỊCH KHAI GIẢNG CÁC KHÓA IELTS TOÀN QUỐC:
https://onthiielts.com.vn/khoahocielts/lichkhaigiangdukien

💛Tài liệu miễn phí mỗi ngày từ TIW: https://onthiielts.com.vn/luyenthiielts/tailieuielts

📚Đặt mua sách \”How To Crack The IELTS Speaking Test Part 1\” và Ebook “40 CHỦ ĐỀ PHẢI BIẾT CHO IELTS SPEAKING 7.5+” tại đây: https://book.onthiielts.com.vn

☎️ HOTLINE: 1900 0353

📍55A Võ Văn Dũng, Ô Chợ Dừa, Đống Đa, HN
📍76 ngõ 203 Hoàng Quốc Việt, Cầu Giấy, HN
📍17 ngõ 27 Đại Cổ Việt, Hai Bà Trưng, HN
📍113 Võ Oanh ( D3 cũ), phường 25 quận Bình Thạnh, HCM
📍10E/17 Trần Nhật Duật, Quận 1, TP.HCM
📷 instagram.com/theieltsworkshop
🌏 https://onthiielts.com.vn/
//
© Bản quyền thuộc về The IELTS Workshop
© Copyright by The IELTS Workshop ☞ Do not Reup

5 PHÚT NẮM CHẮC THÌ QUÁ KHỨ ĐƠN | PAST SIMPLE TENSE | LET'S PLAY WITH GRAMMAR by The IELTS Workshop

At the Restaurant Conversation


Learn how to order food and drinks in a restaurant and how to make positive or negative comments on food. Enrich your vocabulary with new English words.

At the Restaurant Conversation

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ การ ใช้ past simple tense

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *