Skip to content
Home » [NEW] การใช้งาน IF – Clauses ในแบบต่างๆ | ตัวอย่าง ประโยค เงื่อนไข – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้งาน IF – Clauses ในแบบต่างๆ | ตัวอย่าง ประโยค เงื่อนไข – NATAVIGUIDES

ตัวอย่าง ประโยค เงื่อนไข: คุณกำลังดูกระทู้

Conditional sentences หรือที่หลายคนรู้จักในนาม if-clause คือ ประโยคเงื่อนไข ประกอบด้วยประโยคย่อย สองประโยค ประโยคหนึ่งขึ้นต้นด้วยคำว่า If กับอีกประโยคหนึ่งมีหน้าตาเหมือนประโยคสมบูรณ์ทั่วไป สังเกตว่า ประโยคสองประโยคนี้สลับที่กันได้ จะยกประโยคไหนขึ้นต้นก็ได้ แล้วแต่การเน้นและความหมาย

conditional-clauses

1. ZERO Conditional Sentences

วิธีใช้: ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริง

Zero conditional sentences ใช้สำหรับพูดถึงความจริงทั่วไป โดยใช้ present simple ในประโยคทั้งสองประโยค (ประโยคหนึ่งจะอยู่ในรูปของ if-clause ส่วนอีกประโยคจะอยู่ในรูปของ main-clause ค่ะ)

  • If + present simple, …. present simple. (คนไทยมักจะเขียนว่า If + subject + V1, subject + V1)

ประโยคแบบ zero conditional sentences ใช้พูดถึงกรณีที่ถ้าเกิดสิ่งหนึ่ง ต้องเกิดอีกสิ่งหนึ่งเสมอ เช่น If water reaches 100 degrees, it boils. เมื่ออุณหภูมิน้ำสูงเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส น้ำจะเดือดเสมอ หรือ If I eat peanuts, I am sick. ถ้าฉันกินถั่วลิสงฉันจะแพ้ ซึ่งประโยคลักษณะนี้ เราจะใช้คำว่า when (เมื่อ) แทน if ก็ได้

ตัวอย่างเพิ่มเติม

  • If people eat too much, they get fat. ถ้ากินมากจะอ้วน
  • If you touch a fire, you get burned. ถ้าแตะไฟก็จะโดนลวก
  • People die if they don’t eat. คนเราจะตายถ้าไม่กินอาหาร
  • You get water if you mix hydrogen and oxygen. ถ้ารวมไฮโดรเจนกับอ๊อกซิเจนจะได้น้ำ
  • Snakes bite if they are scared. งูจะกัดเวลารู้สึกกลัว
  • If babies are hungry, they cry. ทารกจะร้องไห้ถ้ารู้สึกหิว

Zero conditional sentences จะใช้พูดถึงเรื่องจริงทั่วๆไป แต่ conditional sentences แบบต่อไปจะพูดถึงเหตุการณ์เฉพาะค่ะ

 

2. FIRST Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน

First conditional sentences ใช้สำหรับพูดว่าถ้าสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น อีกสิ่งหนึ่งจะเกิดขึ้นหรืออาจจะเกิดขึ้น โดยใช้ If + present simple แล้วตามด้วย future simple

  • if + present simple, … will + infinitive (คนไทยมักจะเขียนว่า If + subject + V1, subject + will/be going to + V1)

ใช้พูดถึงเหตุการณ์เฉพาะซึ่งอาจเป็นไปได้ หรือผู้พูดคิดว่าจะเกิดขึ้น เช่น

  • If it rains, I won’t go to the park. ถ้าฝนตก ฉันจะไม่ไปสวนสาธารณะ
  • If I study today, I‘ll go to the party tonight. ถ้าวันนี้ฉันอ่านหนังสือ คืนนี้จะไปปาร์ตี้
  • If I have enough money, I‘ll buy some new shoes. ถ้ามีเงินพอ ฉันจะซื้อรองเท้าใหม่
  • She‘ll be late if the train is delayed. เธอจะไปสายถ้ารถไฟมาช้า
  • She‘ll miss the bus if she doesn’t leave soon. เธอจะไม่ทันรถเมล์ถ้าไม่ออกจากบ้านตอนนี้
  • If I see her, I‘ll tell her. ถ้าพบเขาฉันจะบอกเขา

Zero conditional กับ first conditional ต่างกันตรงที่ใช้กับสถานการณ์คนละประเภทดังได้กล่าวไปแล้ว ดูตัวอย่างชัดๆอีกทีนะคะ

 

Zero conditional: If you sit in the sun, you get burned. (ใครก็ตามที่) นั่งตากแดดจะผิวไหม้

First conditional: If you sit in the sun, you’ll get burned. ถ้าเธอนั่งตากแดดผิวเธอจะไหม้นะ

 

3. SECOND Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในปัจจุบัน หรือ อนาคต

First conditional ใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคาดคะเนว่าจะเกิดขึ้น แต่ Second conditional จะใช้พูดถึงสิ่งที่ผู้พูดคิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น เช่น

First conditional: If she studies harder, she’ll pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอจะสอบผ่าน (คิดว่าเป็นไปได้)

Second conditional: If she studied harder, she would pass the exam. ถ้าเธอตั้งใจเรียนมากขึ้นเธอคงสอบผ่าน (แต่ผู้พูดไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ คือ คิดว่าเธอคงไม่ตั้งใจมากขึ้น และเธอคงสอบไม่ผ่าน)

ประโยคแบบ second conditional นี้ใช้ If + past simple คู่กับ would + infinitive ค่ะ

  • if + past simple, …would + infinitive

(สังเกต ว่าอนุประโยคที่ต่อหลัง if ถ้าคำกิริยาเป็น verb to be จะใช้ were ได้กับประธานทุกตัว เช่น If I were you… ถ้าฉันเป็นเธอ… แต่จะใช้ was ตรงตามประธานก็ได้ค่ะ)

วิธีใช้

– ใช้พูดถึงความใฝ่ฝันว่าอยากให้เกิดขึ้นในอนาคตแต่อาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เช่น

  • If I won the lottery, I would buy a big house. ถ้าถูกล็อตเตอรี่จะซื้อบ้านหลังใหญ่ (ซึ่งคิดว่าคงไม่ถูกล็อตเตอรี่หรอก)
  • If I met the Queen of England, I would say hello. ถ้าได้พบราชีนีอังกฤษฉันจะกล่าวสวัสดี
  • She would travel all over the world if she were rich. เขาจะเที่ยวรอบโลกถ้ามีเงินมากๆ
  • She would pass the exam if she ever studied. เธอคงจะสอบผ่านหรอกถ้าเธอได้เคยอ่านหนังสือบ้าง (ซึ่งจริงๆไม้อ่านเลย)

 

– ใช้พูดถึงเหตการณ์ในปัจจุบันที่เป็นไปไม่ได้เลย ไม่จริงเลย เช่น

 

  • If I had his number, I would call him. ถ้ามีเบอร์เขาฉันจะโทรหาเขา (แต่จริงๆฉันไม่มีเบอร์เขา)
  • If I were you, I wouldn’t go out with that man. ถ้าฉันเป็นเธอฉันจะไม่ไปเที่ยวกับเขา

 

ประโยค second conditional ต่างกับ first conditional ตรงที่แบบนี้มีความเป็นไปได้น้อยมาก เช่น

 

Second conditional: If I had enough money I would buy a house with twenty bedrooms and a swimming pool. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อบ้านที่มีห้องยี่สิบห้องกับสระว่ายน้ำ (ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เป็นแค่ฝัน)

 

First conditional: If I have enough money, I’ll buy some new shoes. ถ้ามีเงินพอฉันจะซื้อรองเท้าใหม่ (มีความเป็นไปได้มากกว่ามาก)

 

4. THIRD Conditional Sentences

วิธีใช้ ใช้กับเหตุการณ์ที่ตรงข้ามความจริงในอดีต

ประโยค conditional แบบสุดท้ายใช้ If + past perfect (subject + had + V3) คู่กับ would have + V3 ค่ะ

  • if + past perfect, …would + have + past participle

ประโยคแบบนี้ใช้พูดเกี่ยวกับอดีตที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ว่าถ้าเกิดขึ้นแล้วจะเป็นอย่างไร

  • If she had studied, she would have passed the exam. ถ้าเขาอ่านหนังสือ เขาคงสอบผ่านไปแล้ว (ซึ่งจริงๆผู้พูดรู้ว่าไม่ได้อ่านและสอบตก)
  • If I hadn’t eaten so much, I wouldn’t have felt sick. ถ้ากินไม่มากฉันคงไม่ป่วย (แต่จริงๆฉันกินเยอะ จึงป่วย)
  • If we had taken a taxi, we wouldn’t have missed the plane. ถ้าเราขึ้นแท็กซี่มาเราคงไม่ตกเครื่องบิน
  • She wouldn’t have been tired if she had gone to bed earlier. เธอจะไม่เพลียถ้าเข้านอนเร็วกว่านี้
  • She would have become a teacher if she had gone to university. เธอคงจะเป็นครูถ้าเธอเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
  • He would have been on time for the interview if he had left the house at nine. เขาคงมาสัมภาษณ์ทันเวลาถ้าออกจากบ้านตอนเก้าโมง

 

5. MIXED Conditional Sentences

นอก จากนั้นยังมีการนำ conditional sentences สองแบบมาผสมกันอีกด้วยค่ะ โดยมากใช้เวลาพูดถึงสิ่งที่ไม่เป็นความจริงในอดีตที่มีความสัมพันธ์กับ ปัจจุบัน เช่น

  • She would be a rich widow now if she’d married him. เธอคงจะได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐีไปแล้วถ้าเธอแต่งงานกับเขา (ตอนนั้นไม่แต่งกับเขา ตอนนี้เลยไม่ได้เป็นแม่หม้ายเศรษฐี)
  • If I’d studied law, I’d be an attorney now. ถ้าตอนนั้นเรียนนิติตอนนี้ฉันก็คงจะเป็นทนายความแล้ว

หากน้องคนไหนอ่านแล้วสงสัยอะไร เมลมาถามหรือทิ้งคำถามไว้ที่ Webboard สถาบันได้เลยนะคะ ^^

IELTS Institute Team

[NEW] สรุปการใช้ if clause พร้อมตัวอย่างประโยค | ตัวอย่าง ประโยค เงื่อนไข – NATAVIGUIDES

เรื่อง if clause ถือเป็นหัวข้อแกรมม่าภาษาอังกฤษที่มีรายละเอียดเยอะ หลายๆคนที่เรียนก็อาจจะยังรู้สึกสับสน จับหลักและวิธีการใช้ไม่ค่อยถูก

ถ้าเพื่อนๆเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ก็ขอให้วางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงสรุปเนื้อหาการใช้ if clause โดยจะตอบทุกข้อสงสัย ทั้ง if clause คืออะไร มีกี่แบบ แต่ละแบบมีการใช้อย่างไร อีกทั้งยังมีตัวอย่างประโยค if clause พร้อมคำแปล มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันได้อย่างง่ายๆอีกด้วย

เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

If clause คืออะไร

If clause (มีชื่อเรียกอื่นว่า conditional sentences หรือ conditional clauses) คือรูปแบบประโยคที่ใช้บอกว่า ถ้ามีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น (เงื่อนไข) อีกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม (ผลลัพธ์)

การใช้ if clause เราจะต้องใช้คู่กับ main clause (ประโยคหลัก) โดยที่ if clause จะเป็นตัวบอกเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if ส่วน main clause จะเป็นตัวบอกผลลัพธ์ อย่างเช่น

If it rains, I will stay home.
ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน

จากตัวอย่างประโยคนี้
If clause ก็คือ If it rains (เงื่อนไข)
Main clause ก็คือ I will stay home. (ผลลัพธ์)

หลักการใช้ if clause

เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบกันเลย (บางที่อาจพูดถึงแค่ 3 แบบ โดยจะตัดแบบที่ 0 หรือที่เรียกว่า type 0 ออก)

ตำแหน่งกับการใช้คอมม่า

If clause และ main clause สามารถเขียนสลับที่กันได้ ซึ่งถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นระหว่าง if clause และ main clause

If you don’t hurry, you will be late for school.
ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะไปโรงเรียนสาย

แต่ถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

You will be late for school if you don’t hurry.
คุณจะไปโรงเรียนสายถ้าคุณไม่รีบ

การใช้ if clause แบบที่ 0

If clause แบบที่ 0 (เรียกอีกอย่างว่า the zero conditional หรือ type 0) เราจะใช้กับ

  • สิ่งที่เป็นจริงเสมอ (ถ้าน้ำแข็งละลาย มันจะกลายเป็นน้ำ – ความจริงตามธรรมชาติ)
  • สิ่งที่เราทำเป็นปกติ (ถ้าฉันไปชายหาด ฉันจะใช้ครีมกันแดด – ฉันใช้ครีมกันแดดเสมอ เมื่อฉันไปชายหาด)

โดยจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะ

If clause แบบที่ 0If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplePresent simpleตัวอย่างประโยคIf ice melts,
ถ้าน้ำแข็งละลายit turns into water.
มันจะกลายเป็นน้ำIf I go to the beach,
ถ้าฉันไปชายหาดI use sunscreen.
ฉันจะใช้ครีมกันแดดIf you don’t exercise,
ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายyour muscle mass decreases.
มวลกล้ามเนื้อของคุณก็ลดลง

การใช้ if clause แบบที่ 0 เราสามารถใช้ when แทน if ได้ โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน อย่างเช่น If ice melts, it turns into water. -> When ice melts, it turns into water.

การใช้ if clause แบบที่ 1

If clause แบบที่ 1 (the first conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างเช่น ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน – มีความเป็นไปได้สูงว่าอนาคตฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตก ฉันก็จะอยู่บ้าน

If clause แบบที่ 1If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplewill/won’t + verbตัวอย่างประโยคIf it rains,
ถ้าฝนตกI will stay home.
ฉันจะอยู่บ้านIf you eat too much,
ถ้าคุณกินมากเกินไปyou will gain weight.
คุณจะน้ำหนักขึ้นIf the traffic is bad,
ถ้ารถติดI won’t be there in time.
ฉันจะไปถึงที่นู่นไม่ทันเวลา

การใช้ if clause แบบที่ 2

If clause แบบที่ 2 (the second conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก – ถ้าฉันถูกหวยเป็นเหตุการณ์สมมติที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าฉันถูกหวยตอนนี้หรือในอนาคต ฉันก็จะไปเที่ยวรอบโลก

If clause แบบที่ 2If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past simplewould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I won the lottery,
ถ้าฉันถูกหวยI would travel around the world.
ฉันจะเที่ยวรอบโลกIf I owned a cat,
ถ้าฉันมีแมวI would name it Chewie.
ฉันจะตั้งชื่อมันว่าชิววี่If I had a car,
ถ้าฉันมีรถI wouldn’t take the bus.
ฉันจะไม่ขึ้นรถเมล์

การใช้ if clause แบบที่ 3

If clause แบบที่ 3 (the third conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียน ฉันก็คงสอบผ่าน – ถ้าในอดีตฉันตั้งใจเรียน ตอนนั้นฉันก็คงจะสอบผ่าน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นฉันสอบไม่ผ่าน เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจเรียน

If clause แบบที่ 3If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould have/wouldn’t have + verb ช่อง 3ตัวอย่างประโยคIf I had studied hard,
ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียนI would have passed the exam.
ฉันก็คงสอบผ่านIf I hadn’t been sick,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้ป่วยI would have gone to the cinema.
ฉันก็คงจะไปโรงหนังIf he had left earlier,
ถ้าตอนนั้นเขาออกมาเร็วกว่านี้he would have arrived on time.
เขาก็คงมาถึงตรงเวลา

การใช้ if clause แบบ mixed type

นอกจากการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้ if clause แบบผสมกันระหว่างแบบที่ 2 และ 3 ได้อีกด้วย ซึ่งก็คือการใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (ต่างจากแบบที่ 3 ที่มีผลเฉพาะกับในอดีต)

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฉันก็คงจะมีหุ่นดี – การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในตอนนั้น จะทำให้ฉันมีหุ่นดีในตอนนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้นฉันไม่ได้ออก

If clause แบบ mixed typeIf clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I had exercised regularly,
ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอI would have a great body.
ฉันก็คงจะมีหุ่นดีIf I hadn’t met John,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้พบจอห์นI wouldn’t be happy now.
ฉันก็คงจะไม่มีความสุขในตอนนี้If he had arrived on time,
ถ้าเขาได้มาถึงตรงเวลาhis boss wouldn’t be angry.
หัวหน้าเขาก็คงไม่โมโห

สรุปการใช้ if clause

  • If clause คือประโยคส่วนที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if (If it rains, …) ส่วน main clause คือประโยคส่วนที่เป็นผลลัพธ์ (…, I will stay home.)
  • การขึ้นต้นด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่า (If it rains, I will stay home.) ส่วนการขึ้นต้นด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า (I will stay home if it rains.)
  • If clause แบ่งหลักๆได้เป็น 4 แบบ
    • If clause แบบที่ 0 จะใช้กับสิ่งที่เป็นจริงเสมอ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ (If ice melts, it turns into water.)
    • If clause แบบที่ 1 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (If it rains, I will stay home.)
    • If clause แบบที่ 2 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย (If I won the lottery, I would travel around the world.)
    • If clause แบบที่ 3 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ (If I had studied hard, I would have passed the exam.)
    • นอกจาก if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้แบบผสม (mixed type) ซึ่งจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (If I had exercised regularly, I would have a great body.)

เป็นยังไงบ้างครับกับสรุปวิธีการใช้ if clause ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


ประโยคเงื่อนไข The Conditionals


เพื่อน ๆ ใช้ประโยคเงื่อนไขในภาษาอังกฤษกันเป็นหรือยังคะ? ในบทเรียนนี้ ครูรอย มาอธิบายหลักไวยากรณ์ที่นักเรียนมักจะจำสับสน พร้อมรูปประโยคเงื่อนไขทั้งสี่แบบ (zero, first, second และ third conditionals) ซึ่งแต่ละอันใช้ในโอกาสต่างกัน ทั้งสถานการณ์ที่เป็นไปได้ และเป็นไปไม่ได้นะคะ มาฝึกสังเกตข้อแตกต่างและใช้ให้ถูกหลักภาษา กับบทเรียนนี้เลยค่ะ แถมเคล็ดลับการออกเสียงภาษาอังกฤษให้ด้วยนะคะ เตรียมอุปกรณ์จดโน้ตให้พร้อมแล้วคลิกชมเลยค่ะ
o you know how to use the conditionals correctly? In this lesson, we will be learning all about these confusing grammar forms. You’ll learn about the zero, first, second and third conditionals. Some of them are used for real situations and others for imaginary or unreal situations. You’ll learn the differences between the tenses, and when to use them correctly.
We’ll also give you some useful tips about the form and pronunciation, so get your notepad and press play!
Learning English is easy!
Improve your English with our free English videos and lessons on listening, grammar, vocabulary, pronunciation and English exams.
Please use English when you comment.
For more free English lessons and videos visit our website: http://www.bbc.co.uk/learningenglish/thai

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ประโยคเงื่อนไข The Conditionals

ประโยคชนิดต่างๆ ตอนที่ 2 – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.3


ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
webpage : http://www.kruao.com
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
วีดีโอนี้จะสอนเกี่ยวกับ
มาเรียนรู้ ประโยคชนิดต่างๆ ต่อน่ะครับ ในตอนที่ 2
หลักการสร้างประโยค
มาเรียนรุ้เรื่อง ประโยคคำสั่ง, ประโยคแสดงความต้องการ และ ประโยคขอร้อง
ตัวอย่างคำศัพท์ และตัวอย่างประโยค
บทเรียนอิเล็กทรอกนิกส์ วิชา ภาษาไทย ป.3 ชุดนี้
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
http://www.otpchelp.com

ประโยคชนิดต่างๆ ตอนที่ 2 - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.3

If-clause (conditional sentences) ใน 10 นาที (ง่ายชิบหาย)


สอน Ifclause ให้เด็กมันดู 5555555555 ใกล้สอบแล้ว สู้ๆนะครับทุกคน
ติดตามกันต่อที่
fb : https://www.facebook.com/petchsworld
twitter : https://twitter.com/psolemn
ig : https://www.instagram.com/petchsworld

If-clause (conditional sentences) ใน 10 นาที (ง่ายชิบหาย)

ข้อความที่เป็นโวหารต่างๆ – สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.6


สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.6 ชุดนี้
เรื่อง ข้อความที่เป็นโวหารต่างๆ
เป็นสื่อการเรียนการสอนที่นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สื่อการเรียนการสอนทุกระดับชั้น ป.1 ม.3 ที่
ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
webpage : http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE

ข้อความที่เป็นโวหารต่างๆ - สื่อการเรียนการสอน ภาษาไทย ป.6

หลักการใช้ conditional sentence type 0 l ประโยคเงื่อนไขแบบ 0 l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น


ชวนน้องๆ มาเรียนรู้ หลักการใช้งาน Conditional sentence type 0 หรือ If clause type 0 ซึ่งเป็นแกรม่าหรือไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้นที่ควรรู้

หลักการใช้ conditional sentence type 0 l ประโยคเงื่อนไขแบบ 0  l ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเบื้องต้น

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่าง ประโยค เงื่อนไข

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *