สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว Dek-D ไหนขอเสียงคนอยากเรียนต่อด้านจิตวิทยาหน่อยค่า (รัวมือออ) ถ้าพูดถึงคำว่าจิตวิทยา (psychology) แน่นอนว่าก็ต้องเป็นวิชาที่เกี่ยวกับการศึกษาด้านความคิด ความรู้สึกและพฤติกรรมของมนุษย์ เรียนครอบคลุมตั้งแต่ปัจจัย กระบวนการ ไปจนถึงสิ่งที่ผิดปกติ และแนวทางการรักษา ดูเป็นวิชาที่ต้องใช้พลังทางด้านความคิดไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะคะ 

วันนี้พี่ปลื้มก็เลยขอนำเสนอ 7 มหาวิทยาลัยในประเทศนิวซีแลนด์ ประเทศที่บรรยากาศดี เงียบสงบ แถมค่าครองชีพไม่สูงมากมาฝากน้องๆ กันค่ะ (แอบกระซิบว่ามีทุนเพียบเลยด้วยนะ) แถมท้ายบทความมีแนะนำหลากหลายอาชีพที่คนจบสายจิตวิทยาสามารถทำได้ //ถ้าพร้อมแล้ว รอช้าอยู่ไย ไปกันเลยยย

อ้างอิงเรตค่าเงินต่อไปนี้ (อัปเดต ม.ค.2564)

1 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ = 21.68 บาท

1 ดอลลาร์สหรัฐ = 30.125 บาท

University of Auckland

• เมือง:

  โอ๊คแลนด์ (Auckland)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  45,539 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 984,553 บาท)

Photo Credit: www.auckland.ac.nz

มาเริ่มที่มหาวิทยาลัยแรกกับ University of Auckland ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของนิวซีแลนด์ เป็นมหาวิทยาลัยกีวีเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน 100 อันดับแรกของโลก และคุณภาพยืนหนึ่งในประเทศจากการจัดอันดับของ QS Ranking World 2021 ที่นี่มีนักศึกษาต่างชาติเดินทางมาเรียนแต่ละปีรวมแล้ว 120 ประเทศเลยค่ะ แถมเมื่อเร็ว ๆ นี้มหาวิทยาลัยโอ๊คแลนด์ (หรืออ่านว่าออกแลนด์ก็ได้) ยังได้รับทุน 10 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์สำหรับการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ข้อมูลจากกระทรวงธุรกิจนวัตกรรมและการจ้างงานวิทยาศาสตร์เชิงกลยุทธ์ของนิวซีแลนด์ด้วยนะคะ บอกเลยว่าของเขาเจ๋งจริง!

มาถึงสาขาการเรียนจิตวิทยากันค่ะ ที่นี่มีสาขาการเรียนด้านจิตวิทยารวมถึง 20 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาจิตวิทยา แน่นอนว่าน้องๆ จะได้เรียนวิชาหลักๆ สำคัญ เช่น เรียนรู้พฤติกรรมมนุษย์ (Learning and behaviour) ศึกษาด้านจิตใจ สมองและพฤติกรรม (Mind, brain and behaviour) บทบาททางเพศ (Psychology and gender) และจิตวิทยาสังคม (Social psychology) ดูแล้วน่าเรี๊ยนน่าเรียนทุกวิชาเลย ถ้าน้องๆ สนใจศึกษาเพิ่มเติมก็สามารถเข้าไปดูกันได้เลยน้า

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

ถ้าใครมองหาทุนไปเรียนต่อที่นี่ ก็มีโอกาสหลายทางทีเดียวค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นทุนมหาวิทยาลัยโดยตรง หรือทุน ก.พ. ที่ให้อิสระในการเลือกคณะและที่เรียนได้เต็มที่

• สำนักงาน ก.พ.

  :  https://www.ocsc.go.th/

• ทุนมหาวิทยาลัย:

  University of Auckland International Student Excellence Scholarship

  ให้ทุนการศึกษา 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 301,000 บาท) ในหนึ่งปีมอบกว่า 50 ทุนเลย

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม

University of Canterbury

• เมือง:

   ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  32,950 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 712,708 บาท)

Photo credit: www.ucic.ac.nz

มาต่อกันที่ University of Canterbury (UC) เป็นมหาวิทยาลัยซึ่งก่อตั้งมายาวนานกว่า 140 ปี ที่นี่เป็นสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงในเมืองไครสต์เชิร์ช (Christchurch) ประเทศนิวซีแลนด์และเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับท็อป 270 ของโลกโดย QS World University Rankings 2021

นอกจากจะเป็นสถาบันที่ติดท็อปแล้วยังมีนักวิชาการระดับนานาชาติที่โดดเด่นด้วยนะคะ น้องๆ อาจได้รับการสอนโดยเจ้าหน้าที่วิชาการจากมหาวิทยาลัย Oxford หรือ Cambridge รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอื่นๆ อีกด้วยค่ะ (ดีงามมากกก)

ส่วนสาขาการเรียนจิตวิทยาของที่นี่มีถึง 19 สาขา หลักสูตรสามารถยืดหยุ่นเพื่อให้น้องๆ ศึกษาหัวข้อต่างๆ ได้มากมาย เช่น ความรู้ความเข้าใจของสมองและพฤติกรรม (Brain, Behaviour and Cognition) บุคลิกภาพทางสังคมและพัฒนาการ (Social, Personality and Developmental)  จิตวิทยาสุขภาพและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม (Health Psychology and Behaviour Change) แค่ชื่อวิชาก็น่าเรียนแล้วนะคะเนี่ย รับรองว่าน้องๆ จะได้รับประสบการณ์ในทางปฏิบัติที่ไม่เหมือนใครแน่นอนค่ะ 

ถ้าสนใจอ่านเพิ่มเติมหรืออยากรู้ข้อมูลสาขาอื่นก็สามารถกดเข้าไปดูที่ตัวเว็บไซต์มหาวิทยาลัยได้เลยค่า

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

 ถ้าพูดถึงทุนการศึกษาของที่นี่ขอเวลาสัก 10 วันได้ไหมคะ เพราะที่นี่แจกทุนเยอะมากกก มีทุนกว่า 60 ทุนสำหรับนักศึกษาต่างชาติและมีหลายสาขา เช่น

• UC International First Year Undergraduate Scholarships ให้ทุน 10,000 – 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 301,000 – 602,200 บาท)
• Eamon Molloy Memorial Scholarship ให้ทุน 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 301,000 บาท)

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม 

Auckland University of Technology (AUT)

• เมือง:

   โอ๊คแลนด์ (Auckland)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  33,270 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 719,796 บาท)

Photo credit: www.myvisa.co.nz

ตีโค้งกลับมาที่เมืองโอ๊คแลนด์กันอีกรอบกับ Auckland University of Technology (AUT) ที่นี่เป็นอีกมหาวิทยาลัยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรมากกว่า 250 หลักสูตร ตั้งแต่วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์สุขภาพไปจนถึงศิลปะและการออกแบบและธุรกิจ และจากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกประจำปี 2020 โดย Times Higher Education ที่นี่คว้าอันดับ 1 ของประเทศและอันดับที่ 27 ของโลกในด้านความเป็นสากล ดังนั้นจึงได้การันตีว่า AUT ก้าวหน้าในด้านของการศึกษา งานวิจัย รวมถึงความเป็นนานาชาติของมหาวิทยาลัยด้วย สุดปังไหมล่ะ!

แต่ใดๆ ก็คือ AUT เปิดรับนักศึกษาแค่ 2 ช่วงนะจ๊ะ คือกุมภาพันธ์ และกรกฎาคมเท่าน้านน สาขาจิตวิทยาของที่นี่มีไม่เยอะแต่น่าสนใจทุกสาขาเลย เช่น หลักสูตร Bachelor of Health Science – Psychology Major แน่นอนว่าถ้ามีคำว่าวิทยาศาสตร์สุขภาพ (Health Science) ก็ต้องเรียนแบบเข้มข้นแน่นอน เพราะน้องๆ จะได้มีโอกาสการศึกษา กายวิภาคศาสตร์และสรีรวิทยา (Anatomy and Physiology) และทำความเข้าใจจิตวิทยาสังคม (Social Psychology) ว่าผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมยังไง พัฒนาวิจัย พูดง่ายๆ ก็คืองัดทุกสกิลที่เรียนมาใช้นั่นเอง!

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

 ทุนของที่ AUT ส่วนใหญ่จะเป็นทุนที่มีระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งปี หรือช่วงเวลาซัมเมอร์เท่านั้นค่ะ เช่น

• AUT Undergraduate Scholarships ให้ทุน 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 210,700 บาท)
• Kate Edger Educational Charitable Trust – Practicum Awards ให้ทุน 5,500 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 165,550 บาท)

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม

Massey University

• เมือง:

  โอ๊คแลนด์ (Auckland), เวลลิงตัน (Wellington), พัลเมอร์สตัน นอร์ท (Palmerston North)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  29,190 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 632,547 บาท)

Photo credit: www.massey.ac.nz

Massey University ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 6 ในประเทศนิวซีแลนด์ และ 286 จากมหาวิทยาลัยทั่วโลกตามการจัดอันดับโดย QS World University Rankings 2020 มหาวิทยาลัยแห่งนี้มีวิทยาเขตทั้งหมด 3 แห่งด้วยกันค่ะ ได้แก่ โอ๊คแลนด์ (Auckland), เวลลิงตัน (Wellington) และ พัลเมอร์สตัน นอร์ท (Palmerston North) ซึ่งแต่ละปีมีนักศึกษาต่างชาติจากทุกมุมโลกตบเท้าเข้ามามาเรียนถึง 100 ประเทศ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมความนานาชาติที่ไม่ธรรมดาเลยค่ะ

ในส่วนของสาขาจิตวิทยามีสาขาที่เป็นทางเลือกให้นักศึกษาได้เรียนอย่างครบถ้วนค่ะ เช่น จิตวิทยาธุรกิจ (Business Psychology) จิตวิทยาด้านการศึกษา (Educational Psychology) และ จิตวิทยาด้านการเมืองกับวัฒนธรรม (Bachelor of Arts – Psychology) อย่างไรก็ตามน้องๆ สามารถศึกษาเพิ่มเติมด้วยตัวเองได้ที่เว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยค่ะ (เว็บไซต์ปังมากมีให้เลือกอ่าน 20 ภาษาเลยทีเดียว รวมถึงภาษาไทยด้วย)

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

• Bashford-Nicholls Trust ให้ทุน 1,000 – 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 30,130-120,520 บาท)
• Capstone Editing Research Scholarship for Honours Students ให้ทุน 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 90,390 บาท)

ข้อมูลทุนเพิิ่มเติม

The University of Otago

• เมือง:

  แคมปัสหลัก – ดะนีดิน (Dunedin)

• วิทยาเขตอื่น – โอ๊คแลนด์ (Auckland), เวลลิงตัน (Wellington),  ไครสต์เชิร์ช (Christchurch)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  31,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 670,995 บาท)

Photo credit: healthcentral.nz

มหาวิทยาลัยนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ค่ะเพราะ The University of Otago เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกในประเทศนิวซีแลนด์ ก่อตั้งเมื่อปี  ค.ศ. 1869 ด้วยผลงานวิจัยและการสอนที่มีชื่อเสียงทำให้ Otago ได้อยู่ในอันดับ 184 จากมหาวิทยาลัยระดับท็อปทั่วโลกโดย QS World University Rankings 2021 และนอกจากนี้นักศึกษาที่จบไปแล้วยังได้ทำงานตรงกับสายการเรียนสูงถึง 95% จากการสำรวจความคิดเห็นของนักศึกษาที่จบไปแล้ว (Graduate Opinion Survey) เชียวค่ะ 

การเรียนจิตวิทยาที่นี่จะได้เรียนเป็นขั้นเป็นตอน ในเทอมหนึ่งน้องๆ จะได้เรียนทุกเรื่องแบบละเอียดยิบ เช่นเรื่องระดับฮอร์โมน (Biopsychology) การทำงานของสมอง (Neuropsychology) ความทรงจำ การแก้ปัญหาและการใช้ภาษา (Cognition) และอีกมากมายค่ะ

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

• Vice-Chancellor’s ให้ทุน 7,200 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 216,720 บาท)
• Otago International Pathway ให้ทุน 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 87,290 บาท)

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม

Victoria University of Wellington

• เมือง:

  เวลลิงตัน (Wellington)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  28,470 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 616,233 บาท)

Photo credit: architecturenow.co.nz

Victoria University of Wellington เป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ตั้งอยู่ในเมืองหลวงและมีวิทยาเขตทั้งหมด 3 วิทยาเขตค่ะ ที่นี่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเลิศด้านวิชาการด้วยการติดอันดับ 223 จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกโดย QS World University Rankings 2021 ตบท้ายด้วยติดอันดับท็อปเรื่องวิชาการสอน 19 สาขาวิชา(มีจิตวิทยาด้วย!) เรียกได้ว่ากวาดเรียบเลยนะคะงานนี้

ที่นี่น้องๆ จะได้ศึกษาวิธีการสนับสนุนเด็กและเยาวชนที่ประสบปัญหาทางสังคมอารมณ์หรือการเรียนรู้ (education and Psychology) นิติเวชศาสตร์ (forensic) รวมถึงจิตวิทยาข้ามวัฒธรรม (cross-cultural psychology) ด้วยค่ะ ฟังดูอินเตอร์สุดๆ เลยใช่ไหมล่ะคะ

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

• Global Alumni Graduate Fees Waiver ได้รับส่วนลด 15-20% ของค่าเรียน
• New Zealand International Student Grant 2021 ให้ทุน 5,000 หรือ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 150,500 – 301,000 บาท)

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม

The University of Waikato

• เมือง:

  แฮมินตัน (Hamilton)

• ค่าเล่าเรียนเฉลี่ยต่อปี:

  33,735 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (หรือประมาณ 730,362 บาท)

Photo credit: www.waikato.ac.nz

ปิดท้ายที่ The University of Waikato เป็นมหาวิทยาลัยที่รู้จักกันดีในด้านวิชาการ และการวิจัย มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ที่ แฮมินตัน (Hamilton) ที่นี่มีนักเรียนต่างชาติเดินทางไปเรียนมากถึง 80 ประเทศเลยค่ะ นอกจากนี้ Waikato ยังติดอันดับ 3 มหาวิทยาลัยชั้นนำโดย QS World University Rankings 2021 เท่านั้นยังไม่พอค่ะ นักเรียนมากกว่า 89% ได้รับการจ้างงานภายในหกเดือนหลังจากสำเร็จการศึกษาและได้รับคัดเลือกไปทำงานทั่วโลกกันเลยทีเดียว ปังไม่ไหวแล้วววว

ใครที่ชอบธรรมชาติรอบตัว รวมถึงสงสัยว่าสิ่งต่างๆ ทำงานกันยังไง Bachelor of Science (BSc) majoring in Psychology เป็นคำตอบที่ถูกต้องสำหรับน้องๆ เลยเพราะภาควิชานี้จะสอนให้หัดสังเกตสิ่งรอบตัว ได้ลงมือปฏิบัติจริงแถมได้ใช้คอมพิวเตอร์รวมถึงห้องปฏิบัติการที่เทคโนโลยีสูงด้วยค่ะ แต่ Waikato ไม่ได้มีหลักสูตรจิตวิทยาแค่นี้นะคะ ยังมีอีกหลายภาควิชาที่น่าสนใจ เข้าไปศึกษา ตื่นตาตื่นใจกันได้เลยค่า

เว็บไซต์มหาวิทยาลัย

ตัวอย่างทุนที่น่าสนใจ

• Julia Sandford Scholarship ให้ทุน 1,500 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 45,150 บาท)
• University of Waikato International Excellence Scholarship ให้ทุน 7,200 ดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 216,720 บาท)

ข้อมูลทุนเพิ่มเติม

_______________

จบ Psychology แล้วทำงานอะไรได้บ้าง?

ก่อนจะจากกันไปขอแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของคนที่จบจิตวิทยาอีกนิดนึงค่ะ บางคนคิดว่าจบมาต้องเป็นนักจิตวิทยาอย่างเดียวหรือเปล่านะ? แต่ที่จริงแล้วไม่ใช่แค่นั้นนะคะ ยังมีอาชีพที่น่าสนใจอีกมากมายค่ะที่พร้อมรองรับคนจบจิตวิทยา เช่น

Clinician – นักจิตวิทยาคลินิก 

นักจิตวิทยาคลินิกส่วนใหญ่ปฏิบัติงานด้านสุขภาพจิตและจิตเวชในหน่วยงานทางการแพทย์และสถานพยาบาลต่างๆ ค่ะ เป็นส่วนหนึ่งของทีมรักษาทางการแพทย์ เช่น งานจิตเวชศาสตร์ (Psychiatry) งานเวชศาสตร์ฟื้นฟู งานยาเสพติด จิตเวชเด็ก ซึ่งนักจิตวิทยาคลินิกจะวินิจฉัยและระบุความผิดปกติทางจิตใจอารมณ์หรือพฤติกรรมผู้ป่วยจากนั้นกำหนดเป้าหมาย วางแผนวิธีการบำบัด นอกจากนี้นักจิตวิทยาคลินิกยังมีหน้าที่ทำวิจัย สอนจิตวิทยาในชั้นเรียนให้นักศึกษา ส่งเสริมป้องกันหรืองานจิตเวชชุมชนค่ะ (หลากหลายบทบาทมากๆ)

HR specialist – เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคล/ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคล

พี่คิดว่าน้องๆ หลายคนคงเคยเห็นหรือได้ยินคำว่า ‘HR’ ผ่านหูผ่านตามาบ้าง เพราะตำแหน่งนี้ถือเป็นหนึ่งในตำแหน่งสำคัญเลยทีเดียวค่ะ Human Resources (HR) มีหน้าที่ค้นหาผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการขององค์กรมากที่สุด เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบประวัติ ทำการสัมภาษณ์ รวมถึงวางกลยุทธ์พนักงานตามนโยบายบริษัท รักษาผลประโยชน์ขององค์กร และดูแลพนักงานในองค์กรด้วยค่ะ สรุปโดยรวมก็คือการใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั่นเอง ซึ่งการจะสรรหาและจัดการบุคคลต้องใช้หลักจิตวิทยาเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมากกกกก

Mental health practitioner – นักวิชาการสุขภาพจิต/นักจิตวิทยาการปรึกษา

น้องๆ สายชอบให้คำปรึกษาเพื่อนมาทางนี้ค่ะ เพราะอาชีพนี้ต้องอาศัยการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ต้องได้รับการเทรนเพื่อการบำบัดเยียวยาด้วยวิธีการพูดคุย โดยผู้ที่มาหาไม่จำเป็นต้องเป็นโรคจิตเวชเสมอไป แค่เครียดก็สามารถมาหาได้ หน้าที่ของนักจิตวิทยาการปรึกษาคือแก้ไขความผิดปกติทางจิตใจ อารมณ์ หรือพฤติกรรมและความทุกข์ที่รบกวนสุขภาพจิตและพัฒนาการของผู้ป่วยค่ะ 

ป.ล. นักจิตวิทยาการปรึกษาไม่สามารถวินิจฉัย รวมถึงสั่งยาให้ผู้ป่วยได้น้า แต่สามารถประเมินแล้วส่งไม้ต่อให้พบจิตแพทย์แทนได้ค่ะ

Photo credit: Sozavisimost/pixabay.com

Psychologist – นักจิตวิทยา

นักจิตวิทยากับจิตแพทย์มักถูกจำสลับกันอยู่บ่อยๆ เพราะก็มีจิตๆ เหมือนกัน แต่ทั้งสองอาชีพต่างกันที่นักจิตวิทยา คือคนที่วิจัยพฤติกรรม จิตใจของคนจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวรวมถึงสังคม พร้อมให้คำปรึกษาได้ เน้นการบำบัดเพื่อให้เข้าใจถึงอารมณ์ ความนึกคิด แถมยังช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการหรือรับมือกับปัญหาทางอารมณ์ของตัวเองได้ (นักจิตวิทยาและจิตแพทย์สามารถทำงานร่วมกันได้ เช่น นักจิตวิทยาดำเนินการบำบัดและจิตแพทย์สั่งยาให้ผู้ป่วยหากจำเป็น)

Staff recruiter – สรรหาบุคลากร

อาชีพนี้มีทำหน้าที่คล้าย ‘นายหน้า’ เลย แค่ไม่ได้ขายบ้านหรือที่ดินเท่านั้นเองค่ะ สายนี้เขาเน้นขาย ‘คน’ หน้าที่คือคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมกับองค์กรนั้นๆเข้าทำงาน โดยจะเริ่มตั้งแต่การวางแผน สรรหา คัดเลือก รวมถึงโน้มน้าวให้บุคคลลองสัมภาษณ์เข้าทำงานตามบริษัทที่จัดหาไว้ และจะมิชชั่นคอมพลีตในตอนที่องค์กรรับบุคคลนั้นๆ เข้าทำงาน จัดว่าชาเลนจ์มากๆ เพราะขายเก่งไม่พอ ต้องโน้มน้าวคนเก่งด้วย!

Art Therapists – นักศิลปะบำบัด

มีคำว่าศิลปะแต่ไม่ได้ฝึกให้เป็นศิลปินหรือทำให้วาดรูปสวยขึ้นน้า  อาชีพนี้มีหน้าที่ใช้ศิลปะด้านต่างๆ เช่นการวาดภาพ ระบายสี หรือปั้นดินน้ำมัน เข้ามามีส่วนร่วมในการบำบัดจิตใจผู้ป่วยให้ดีขึ้น ให้ผู้ป่วยมีสมาธิอยู่กับตัวเอง สื่อสารความรู้สึกลงไปในผลงานร่วมกับเทคนิคการให้คำปรึกษาทางจิตบำบัดเพื่อส่งเสริมการพัฒนา การรู้จักตนเอง และการรับมือกับความรู้สึกต่างๆ ค่ะ

 

เป็นยังไงกันบ้างคะกับ 7 มหาวิทยาลัยในประเทศนิวซีแลนด์ ขอบอกตามตรงเลยนะคะว่าอ่านแล้วอยากเก็บกระเป๋าแล้วไปเรียนให้ครบทุกที่เลยล่ะค่ะ ค่าเล่าเรียนก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด บรรยากาศดี ประเทศสงบ แถมแต่ละที่ก็ติดระดับท็อปกันทั้งนั้นเลย อาชีพเกี่ยวกับด้านจิตวิทยาก็ดูน่าสนใจทั้งน้านนน (นี่แค่ส่วนหนึ่งนะ) น้องๆ คนไหนมีแพลนศึกษาต่อ หรือสนใจมหาวิทยาลัยไหนก็อย่าลืมมาเล่าสู่กันฟังบ้างนะคะ ส่วนใครที่ใกล้สอบแล้วทำตามความฝันอยู่ก็อย่าเพิ่งท้อค่ะ พี่เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ ^^ !!!

 

 

Sources:

 

เรียนต่อนิวซีแลนด์

 

 

เรียนต่อนิวซีแลนด์ ปริญญาตรี โท เอก คอร์สภาษา 

น้องๆที่สนใจจัเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์ ต้องมีพื้นฐานภาษาอังกฤษในระดับดี และต้องมีผลการเรียนดีด้วย โดยที่น้องๆสามารถใช้ผลสอบวัดระดับภาษาอังกฤษอย่าง IELTS หรือ TOEFL ได้นะคะ (เชิญเข้ามารับคำปรึกษา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ลองแวะเข้ามาคุยกันสิคะ)

 

Education New Zealand

ประเทศนิวซีแลนด์ได้รับการจัดอันดับโดย The Economist, Intelligence Unit (Worldwide Educating for the Future Index) ให้เป็นอันดับที่ 1 ในการเตรียมความพร้อมนักเรียนสู่อนาคต ด้วยความสามารถในการปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ความสามารถของครูและบุคคลากร นโยบายภาครัฐ ความร่วมมือร่วมใจกันของรัฐบาลและภาคเอกชน ความสามารถในการให้คำปรึกษาถึงอาชีพในอนาคตตั้งแต่ในระดับโรงเรียน และความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่แตกต่างแต่อยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว

เรียนภาษาอังกฤษที่นิวซีแลนด์

อยากไปเรียนภาษาและทำงานระหว่างเรียนขณะที่พักอาศัยที่ประเทศนิวซีแลนด์นั้น ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีมากสำหรับน้องๆที่สนใจเรียนไปต่างประเทศเมืองโอ๊คแลนด์ และเวลลิงตัน และอีกหลายเมืองท่องเที่ยวของนิวซีแลนด์ มีสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตรระยะสั้นให้แก่นักศึกษาไทย ได้แก่ คอร์สภาษาอังกฤษ คอร์สทำอาหาร คอร์สการท่องเที่ยว ซึ่งสถาบันภาษาอังกฤษมีการสอนพร้อมอนุญาติให้น้องๆที่ลงเรียน ทำงานระหว่างเรียนได้ โรงเรียนนิวซีแลนด์ มีคอร์สคุณภาพและมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ และน้องๆ ยังสามารถหาประสบการณ์ควบคู่ไปกับเรียนภาษาอังกฤษอีกด้วย 

 

นักศึกษาไทยที่เข้าเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษนั้น จะต้องสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษกับทางสถาบันภาษาก่อนเพื่อจะได้เข้าไปเรียนที่ห้องเรียนในระดับชั้นที่เหมาะสม ชั้นเรียนก็มีขนาดเล็กซึ่งทำให้นักเรียนแต่ละคนได้รับการดูแลได้ทั่วถึง หลักสูตรที่สอนนั้นเป็นหลักสูตรการสอนแบบสมัยใหม่ ทั้งห้องเรียนสนทนา การเข้าห้องปฏิบัติ การทางภาษา คอมพิวเตอร์ ดีวีดี และวีดีโอต่างๆ เพื่อให้การเรียนภาษาอังกฤษมีความน่าสนใจยิ่งขึ้น รวมโปรโมชั่นเรียนภาษาที่นิวซีแลนด์ปี 2021 คลิก
 
หลักสูตรภาษาอังกฤษ 
•    General English 
•    English for Academic Purposes (EAP) 
•    English for Business 
•    TOEFL / TOEIC / IELTS Preparation Courses
•    Cambridge Examination Courses

มหาวิทยาลัยของนิวซีแลนด์ 

มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์มีด้วยกันทั้งหมด 8 แห่ง และมหาวิทยาลัย เป็นของรัฐบาลทั้งหมด มหาวิทยาลัยนิวซีแลนด์ เหล่านี้กระจายอยู่ตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยอยู่ที่เกาะเหนือและเกาะใต้

 

คุณสมบัติของผู้สมัครจากไทยเข้าเรียนปริญญาตรี ของ มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์

คุณสมบัติของผู้สมัครจากประเทศไทย ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์ สมัครไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ นิวซีแลนด์ ระดับปริญญาตรีของมหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์

 

1. นักศึกษาจบชั้นปีที่ 1 จากมหาวิทยาลัยที่ได้รับการรับรองจากทางมหาวิทยาลัยของประเทศไทย

2. สมัครเข้าเรียนต่อในระดับปริญญาตรี  แต่ถ้านักศึกษามีวุฒิจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่นักเรียนจะต้องเข้าเรียนหลักสูตร Foundation Studies Programme ก่อน หรือผ่านการเรียนมัธยมศึกษา ใน Year 13 หรือ  เลือกเรียนหลักสูตรอนุปริญญาในวิทยาลัย อาชีวศึกษา 2 ปี

2.1 เกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.5 (ขึ้นกับ คณะ สาขา มหาวิทยาลัย)
2.2 คะแนน TOEFL อย่างต่ำ 550 หรือ IELTS 6

คุณสมบัติของผู้สมัครจากไทย เข้าเรียน ปริญญาโท ของ มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์

1. นักศึกษาจะต้องสำเร็จปริญญาตรีจากไทย หรือเมืองนอก
2. นักศึกษา มีผลคะแนนด้านภาษา TOEFL 600 หรือ IELTS 6.5-7.0
3. บางสาขาวิชา จะต้องมีประสบการณ์การทำงาน ด้วย
4. มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00  เอกสารชี้แจงวิทยานิพนธ์พร้อมประวัติส่วนตัว

 

คุณสมบัติของผู้สมัครจากไทย เข้าเรียน   ปริญญาเอก ของ มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์

1. นักศึกษาจะต้องสำเร็จปริญญาโทจากประเทศไทย หรือเมืองนอก
2. นักศึกษา มีผลคะแนนด้านภาษา TOEFL 600 หรือ IELTS 6.5-7.0 
3. บางสาขาวิชา จะต้องมีประสบการณ์การทำงานด้วย 
​4. มีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 เอกสารชี้แจงวิทยานิพนธ์พร้อมประวัติส่วนตัว

 

ระบบ การเปิดเทอมของ  มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์

ระบบเทอม ของ มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์ มี 3 เทอม

1. เปิดเรียนระหว่างเดือน มีนาคม – พฤษภาคม
2. เปิดเรียนระหว่างเดือน มิถุนายน – สิงหาคม
3. เปิดเรียนระหว่างเดือน กันยายน – พฤศจิกายน

 

เรียนต่อนิวซีแลนด์ ศึกษาต่อนิวซีแลนด์  
ระบบภาคเรียน มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์ มี 2 ภาค

1.ภาคเรียนที่ 1 มีนาคม – มิถุนายน

2.ภาคเรียนที่ 2 กรกฎาคม – พฤศจิกายน

มหาวิทยาลัยที่นิวซีแลนด์  ปิดเทอมช่วงไหน

วันหยุดภาคฤดูร้อนเริ่มตั้งแต่กลางเดือน พฤศจิกายน ถึง ปลายเดือนกุมภาพันธ์ และ มีวันหยุดประมาณ 2-3 สัปดาห์ ในระหว่างเทอม/ภาค มหาวิทยาลัยจะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่ช่วงต้นปีการศึกษาในเดือนมีนาคม มีบางมหาวิทยาลัยเปิดรับนักศึกษาใหม่กลางปีในเดือนกรกฎาคมในบางสาขา

 

 เรียนวิทยาลัย ของ นิวซีแลนด์ Certificate / Diploma 

นิวซีแลนด์มีสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพทั้งในส่วนของรัฐบาลและเอกชน ซึ่งการเรียนการสอนจะให้ความสำคัญกับสาขาใดสาขา หนึ่ง เป็นพิเศษ เช่น การเที่ยวเที่ยว การโรงแรม การจัดการ การบริหาร และสาขาอื่นๆอีกมากมายตามความสนใจของนักเรียน เงื่อนไขในการรับเข้าเรียนและระยะเวลาในการเรียนนั้นจะขึ้นอยู่กับแต่ละสาขา วิชาและสถาบัน

 

หลักสูตรต่างๆของสถาบันฝึกอบรมวิชาชีพ (วิทยาลัย ของ นิวซีแลนด์ )นั้นจะต้องได้รับการรับรองจาก NZQA และวิชาต่างๆที่เปิดสอนนั้นต้องได้รับการประเมิน คุณภาพอยู่เสมอ

 

โรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์เปิดสอนตั้งแต่ Years9 – Years 13 (อายุตั้งแต่ 13 – 19 ปี) ซึ่งโรงเรียนมัธยมในนิวซีแลนด์ นั้นบางครั้งจะเรียกว่า High School , Grammar Schools หรือ Colleges ซึ่งแต่ละโรงเรียนสามารถจัดหลักสูตร การสอน ได้เองโดยยึดโครงสร้างหลักของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งจะถูกประเมินผลโดยหน่วยงาน New Zealand Qualifications Authority

 

โรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์ที่น่าสนใจ

โรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์มีกว่า 400 แห่ง แบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1. โรงเรียนรัฐบาล นิวซีแลนด์
2. โรงเรียนกึ่งรัฐบาล นิวซีแลนด์ ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาล และศาสนา
3. โรงเรียนเอกชนนิวซีแลนด์ มักเป็นโรงเรียนของศาสนา

 

โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นของรัฐบาล นิวซีแลนด์ โรงเรียนเอกชน นิวซีแลนด์ มีจำนวนน้อย และมักจะรักษา ประเพณี ทางศาสนาและ ปรัชญาเฉพาะของตนไว้ โรงเรียนเอกชน นิวซีแลนด์ มีเสรีภาพในการจัดการศึกษา ให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน นิวซีแลนด์ ต่างมีหลักสูตร และมาตรฐานศึกษา ตลอดจนการกำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครคล้ายคลึงกัน และ มีจุดประสงค ์เดียวกันคือ เตรียมให้นักเรียนมีคุณสมบัติที่เหมาะสม สามารถสอบได้คุณวุฒิ ระดับมัธยมศึกษา นิวซีแลนด์ ที่รัฐกำหนด โรงเรียนมัธยมมีทั้งประจำและไป – กลับ นักเรียนสวมเครื่องแบบจนถึง Years 12 ส่วน Years 13 ไม่มีเครื่องแบบ

ภาคการศึกษา แบ่งเป็น 4 เทอม โรงเรียนมัธยมนิวซีแลนด์ 

เทอม 1: กุมภาพันธ์ – เมษายน
เทอม 2: เมษายน – มิถุนายน
เทอม 3: กรกฎาคม – กันยายน
เทอม 4: ตุลาคม – ธันวาคม