Skip to content
Home » [NEW] ร้อยหมื่นพัน: จดหมายรักถึงกรุงเทพฯ ของ ‘ณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา’ | รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง – NATAVIGUIDES

[NEW] ร้อยหมื่นพัน: จดหมายรักถึงกรุงเทพฯ ของ ‘ณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา’ | รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง – NATAVIGUIDES

รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Once Upon a Time in Hollywood

In Focus

“หากอัลบั้มนี้เป็นหนังสักเรื่องหนึ่ง เนื้อหาคงจะเหมือน Once Upon a Time in Hollywood ของ เควนติน ทารันติโน หนังเรื่องนี้ตรงกับอัลบั้มของเราที่พูดถึงแรงบันดาลใจคล้ายคลึงกัน เราทั้งคู่ต่างพยายามเขียนจดหมายรักให้กับเมือง ไม่ได้เขียนเพราะคิดถึง แต่เขียนเพราะอยากขอบคุณว่าในช่วงเวลาหนึ่ง สถานที่แห่งนี้ทำให้เราเอาตัวรอดและมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้”

คำอธิบายของ ณภัทร สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ต่อ อัลบั้มล่าสุดที่จะพาผู้ฟังย้อนกลับไปสำรวจกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่ซึ่งหล่อหลอมตัวตนของเขาให้กลายเป็นชายวัยกลางคนที่เข้าใจคำว่า ‘ชีวิต’ ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น 

เขาหวังว่าผลงานชุดนี้จะช่วยให้ผู้ฟังทุกคนเพลิดเพลินไปกับเรื่องราวที่ได้บอกเล่า ช่วยปรับอารมณ์ สร้างบรรยากาศในคืนวันจันทร์อันแสนวุ่นวายให้สงบและผ่อนคลาย จนหลับฝันดีได้ในที่สุด

Table of Contents

เป็นเวลาเกือบ 7 ปีที่คุณไม่มีความเคลื่อนไหวในฐานะศิลปินเลย มันเกิดอะไรขึ้น การปล่อยอัลบั้มครั้งนี้หมายถึงการกลับมาเดินบนเส้นทางดนตรีอีกครั้งใช่หรือไม่

จริงๆ ไม่มีอะไรเลย เราแค่ย้ายมาอยู่ที่อเมริกา ย้ายมาทำกิจการครอบครัวหลายปีแล้ว ตอนนี้ก็ทำงานประจำในบริษัทโฆษณาเจ้าหนึ่งอยู่ ส่วนเวลาว่างเราจะเป็นฟรีแลนซ์รับอัดเสียงในกองถ่ายหนัง เช่น เวลามีกองถ่ายที่ไทยยกโขยงมาถ่ายกันที่นี่ เราก็ไปช่วยเขา

ส่วนเรื่องดนตรีก็ไม่ได้ทิ้งนะ ที่ผ่านมาก็ยังคงเล่น เขียน แกะเพลงอยู่เรื่อยๆ เพียงแต่ไม่ได้ออกไปแสดงที่ไหนเลย ทุกวันนี้ความสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับความเป็นนักดนตรีคือการเขียนเพลงและเล่นคนเดียวอยู่ที่บ้านมากกว่า คล้ายกับว่าจะเป็นนักเขียนเพลงมากกว่านักดนตรี ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะอยากออกไปแสดงที่ไหนเท่าไหร่

ช่วงกลับไทยเราก็เคยมีโอกาสได้เล่นให้แฟนคลับฟังเหมือนกัน ช่วงนั้นแหละ ที่ทำให้เรารู้ว่าตัวเองไม่ถนัดอะไรแบบนี้เลย มันตื่นเต้น กดดัน เครียดไปหมด ก็เลยเข้าใจว่าตัวเองเหมาะกับการเขียนเพลงทำเพลงมากกว่า 

เพราะฉะนั้นช่วงที่ผ่านมาคุณถึงมีคลังเพลงที่เขียนเก็บไว้ประมาณหนึ่งเลยใช่ไหม

จะบอกว่าเป็นเพลงก็ไม่ได้ มันเป็นกลุ่มก้อนที่เราร่างขึ้นเอาไว้ลอยๆ และยังไม่เสร็จเสียทีเดียว การที่จะออกมาเป็นเพลงส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ต้องหยิบพวกนั้นมาเขียนเพิ่ม อัดดนตรีต่อจากเมโลดีในหัวนิดหน่อยถึงจะเสร็จ 

ส่วนถ้าเป็นอัลบั้ม มันจะเป็นเหมือนช่วงสอบปลายภาคของการเขียนเพลง คือในช่วงที่มีกลุ่มก้อนแบบนี้เยอะๆ มันจะเห็นความเป็นหมวดหมู่อย่างหนึ่งอยู่ ถ้าช่วงไหนเราอยากพูดเรื่องอะไรก็จะหยิบเนื้อหาในหมวดนั้นมาทำเป็นอัลบั้มจริงๆ จังๆ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นเมื่อเราอยู่ในจุดที่รู้สึกว่า ถ้าไม่ทำตอนนี้ หลังจากนั้นเราจะไม่อินแล้ว สุดท้ายก็เลยทำเลย รีบทำ รีบเขียน ทำให้เสร็จให้มันจบ ไม่อย่างนั้นก็จะมีเนื้อเพลงเรื่องนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่จบสักที จนสิ่งที่เราอยากพูดมันช้ำ มันฟุ้งไปหมด เราต้องจับมาตีกรอบ เล่าไอเดียที่สดที่สุดให้ได้ 

สำหรับคุณการเขียนเพลงต้องแค่ไหนถึงจะเรียกว่าสมบูรณ์ ไม่ต้องไปแก้ให้ช้ำอีกต่อไปแล้ว

มันก็แล้วแต่ช่วง อย่างอัลบั้มที่ 2 เป็นช่วงที่เราเพิ่งรู้จักเทคโนโลยีทางดนตรี ช่วงนั้นความสมบูรณ์ของเพลงก็จะขึ้นอยู่กับการค้นพบซาวด์ใหม่ๆ ที่เหมาะกับเนื้อเพลงเรา แต่ อัลบั้มล่าสุดที่เราคุยกันวันนี้คือ ทำมาอย่างไร ทุกคนต้องได้ฟังใกล้เคียงแบบนั้นที่สุด เขียนเสร็จก็เข้าห้องอัดเลย

ในอัลบั้ม คุณใช้เวลาแต่งเพลงไหนเร็วที่สุด

น่าจะเพลง ใช้เวลา 15 นาทีเสร็จ เป็นสิ่งที่ทุกคนได้ฟังเลย เพลงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำอัลบั้มเลยนะ คือเพลงมันไม่ได้เกิดจากมานั่งคิดว่าจะเล่าอะไรดี แต่มันมีวัตถุดิบเรื่องนี้อยู่ในหัวมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

เพลง มันเริ่มจากตัวเราที่อยู่อเมริกาเกือบ 10 ปี แล้วไม่ค่อยได้กลับไปกรุงเทพฯ เลย พอได้กลับไปหนหนึ่ง ก็จะตกใจว่าทำไมมันเปลี่ยนไปขนาดนี้ เวลาไปย้อนรอยดูสถานที่ที่เคยอยู่ เคยกิน เคยเล่น มุมหนึ่งก็ประทับใจ ว่า โห มันพัฒนา มันเปลี่ยนไปหมดเลยเหรอ แต่มุมหนึ่งก็ใจหายเพราะความสัมพันธ์ระหว่างเรากับสถานที่ในประเทศไทยกลายเป็นความทรงจำไปแล้ว 

แล้วพอได้เมโลดีที่เหมาะ ความรู้สึกตรงนี้ก็ไหลออกมาเอง โดยไม่ต้องมานั่งประดิษฐ์อะไร เราก็ใช้ชุดคำที่เคยแอบเขียนเอาไว้ก่อน เช่น ไปทำบุญที่วัดบางไผ่ ดูศิลปะตรงวงเวียน 22 กรกฎา ก็เอาพวกนั้นมาดึงหมุดต่อกันเป็นเส้นเรื่อง แป๊บเดียวเท่านั้นเสร็จ (ยิ้ม)

แล้วคอนเซ็ปต์ของอัลบั้ม คุณต้องการพูดถึงอะไร

จริงๆ อัลบั้มนี้ไม่ได้เริ่มจากการที่อยากจะเล่าหรือพูดถึงอะไร แต่มันเริ่มจากวิธีเขียนเพลงแบบ ‘เล่าเรื่องผ่านเนื้อเพลง’ ก่อน ซึ่งเรารู้สึกว่าพักหลังไม่ค่อยเจอวิธีทำเพลงแบบนี้ในวงการดนตรีเมืองไทย ประกอบกับช่วงนี้เราติดรายการวิทยุที่ให้คนโทรศัพท์มาเล่าเรื่องนู้นเรื่องนี้ ก็เลยอยากเอามาต่อยอดเป็นเพลง

ส่วนเนื้อหาใน ร้อยหมื่นพัน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เป็นเรื่องที่เรามีสิทธิ์จะเล่าได้ ซึ่งเราเลือกชีวิตของตัวเองในกรุงเทพฯ มาเป็นธีมหลัก เหมือนเราโทรศัพท์มารายการวิทยุว่า กรุงเทพฯ ช่วงที่เราอยู่เป็นอย่างไร ที่ตรงนั้นเคยเป็นอะไร เราชอบทำอะไรตอนอยู่กรุงเทพฯ กรุงเทพฯ สมัยที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตตอนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไร ทำไมถึงต้องไปยืนรอที่แผงขายเทปดนตรีทุกวันเสาร์ มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีแค่เราเท่านั้นที่เล่าได้อย่างลึกซึ้ง จึงอยากพูดเรื่องนี้ของตัวเอง

หากตีความอัลบั้มเป็นประโยคสักประโยคหนึ่ง จะบอกอะไรกับคนฟัง

เมื่อก่อนเราเป็นคนที่อยากมาอยู่ต่างประเทศ อยากทำตัวเดิ้นๆ (โมเดิร์น) มาตลอด แต่พอได้มาอยู่จริงๆ ก็ค้นพบว่าต่างประเทศไม่ได้ดีขนาดนั้น มันก็มีข้อเสียที่แตกต่างกันไปในแต่ละที่ ขณะเดียวกัน บางช่วงที่กลับไทยเรามีความสุขมากเลย รู้สึกได้ถึงการกลับบ้าน คิดว่ามันคงเป็นความรู้สึกประมาณนี้มากกว่าที่อยากบอกเล่า

เวลาพูดถึงคำว่า ‘ประเทศไทย’ คุณนึกถึงอะไร

คิดถึงเรือกับแม่น้ำ คิดถึงความอ้อยอิ่งของเมืองไทย ต่างจากคนในอเมริกาที่มักจะจ้ำ จะทำอะไรรวดเร็วอยู่เสมอ แต่ที่ไทยเราจะรู้สึกถึงวิถีของชีวิตที่มันมีจังหวะ มีขนบของมัน เวลาเห็นคนตื่นเช้ามาใส่บาตร ก่อนไปนั่งจิบกาแฟกันเป็นชั่วโมง เรื่องแบบนี้ทำให้เราประทับใจอยู่เสมอ 

ในอัลบั้มนี้ทำไมถึงกลับมาเป็นดนตรีโฟล์กเหมือนอัลบั้ม (2014) ไม่ได้มีการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เหมือนอัลบั้ม (2005) อีกแล้ว 

ยุคสมัยที่นักดนตรีคนหนึ่งสามารถจบเพลงเองได้เพียงลำพัง ทั้งอัดกลอง อัดกีตาร์ อัดเบส ร้องเองอีกต่างหาก มุมหนึ่งมันก็ดีนะที่ทำให้นักดนตรีทำงานง่ายขึ้น แต่มุมมองของเราคิดว่าแบบนั้นไม่ใช่วิธีทำงานของตัวเองสักเท่าไร 

สำหรับเรา วงดนตรีมันต้องเป็นวงดนตรี มันเป็นเรื่องระหว่างคน 3-5 คน ที่พยายามสื่อสารกันระหว่างเครื่องดนตรีและโน้ต มันจะมีเอกลักษณ์ มีน้ำเสียง มีบุคลิกที่แตกต่างกันในดนตรีแต่ละชิ้น ซึ่งเราเคารพเรื่องนี้มาก อัลบั้มนี้จึงพยายามทำทุกอย่างให้มันลีนที่สุด จนสามารถเล่นคนเดียวในเวลาอันสั้นได้

สุดท้ายมันเลยเป็นผลงานที่ไม่ดูพาสเจอไรซ์เท่าไหร่ ดิบๆ หน่อย แต่มุมมองของเราคิดว่าเป็นการสื่อสารผ่านเสียงของตัวเองที่จริงใจดี 

เห็นว่าบางเพลงก็ยังได้ร่วมงานกับเพื่อนๆ ค่าย SO::ON DRY FLOWER ซึ่งยุคหนึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกดนตรีนอกกระแส คุณคิดว่าคนกลุ่มนี้ได้วางแนวทางอะไรเอาไว้ให้กับวงการดนตรีเมืองไทยบ้าง

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ คำว่า ‘เพื่อนร่วมวงการดนตรี’ เราช่วยกันทำ ช่วยกันดู ช่วยกันสนับสนุน สมัยก่อนใครทำอัลบั้มแล้วไม่มีเครื่องดนตรี ก็ให้ยืม มีเล่นคอนเสิร์ตที่ไหนก็ช่วยกันดู ช่วยกันผลักดัน แน่นอนว่าคำว่าเพื่อนรวมไปถึงคนดูด้วยเช่นกัน มันเป็นความสัมพันธ์ที่ช่วงหนึ่งมันหายไปนะ เหมือนนักดนตรีกับคนดูมันผ่านตัวกลางบางอย่าง อาจจะเป็นค่ายเพลงหรืออะไรก็ตามแต่ นักดนตรีกับคนดูมันเหมือนมีเส้นแบ่งกันชัดเจนเกินไป แต่ยุคนั้นแฟนเพลงคือแทบจะอยู่กันเหมือนเพื่อน รู้จักกันเยอะ สนุกดี 

อีกเรื่องที่อยากพูดถึงคือ วิธีคิดแบบ Local to Universal เราเริ่มจากทำเพลงแล้วให้เพื่อนด้วยกันเองฟัง แล้วให้คนข้างนอกเห็นว่า พวกเรามีของจนต้องมาขอไปเผยแพร่ในต่างประเทศ แต่ทุกวันนี้กลายเป็นว่าเราพยายามจะทำเพลงป้อนตลาดระดับโลกก่อน แล้วค่อยให้เป็นผลงานที่สะท้อนกลับมาว่าสร้างโดยคนไทย แบบความสำเร็จของพี่เจ้ย (อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล) ซึ่งมันก็เป็นมุมมองที่แตกต่างกันจากตอนนั้น

คุณมีนักดนตรี นักเขียนเพลง ที่ชื่นชอบบ้างไหม

บอยด์ โกสิยพงษ์ ตอบแบบไม่ต้องคิดเลย หลายคนมักมองเขาเป็นเจ้าพ่อเพลงรัก แต่ถ้าติดตามงานเขามาตั้งแต่แรก ช่วงหนึ่งจะมีงานทดลองอยู่เยอะมาก เช่น เพลง ของ มิสเตอร์ซี (สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์) ที่เขาจะเขียนเพลงเหมือนไดอารี แล้วจะตัดเอาบางท่อนบางคำเท่านั้นมาต่อกัน ถ้าอ่านเฉยๆ จะไม่รู้เรื่องเลย แต่ที่ตลกคือพอเป็นเนื้อเพลง มีดนตรีใส่เข้าไป ดันเข้าใจ และรู้สึกถึงอารมณ์เฉยเลย 

เราเลยสนใจในตัวเขาทันที ในมุมหนึ่ง เรารู้จักเขาว่าเป็นนักเขียนเพลงที่ยึดโยงอยู่ในกรอบผ่านเพลงรักที่อย่างไรก็ขายได้ แต่มุมหนึ่งเขาก็ได้ทำลายกรอบทางดนตรีด้วยเช่นกัน แบบนี้เราจะไม่เรียกว่าเก่งได้เหรอ (หัวเราะ)

ส่วนวงดนตรีที่ชื่นชอบก็มีอยู่บ้าง เช่น วงครับ วงพราว ที่เรารู้สึกว่าเขานำดนตรีในยุคนั้นมาใช้กับเนื้อเพลงที่นำเสนอความเป็นคนได้หลากหลายแง่มุมดี อย่างเช่นเพลง ของวงพราว ก็ถ่ายทอดชีวิตของคนเมืองกรุงได้ชัดเจน หรือเพลง ของโมเดิร์นด็อก ก็เอาแบบเรียนในไทยมาผสมกับเพลงกรันจ์ได้เท่มากๆ 

เวลาฟังเพลง คุณดูจะสนใจเนื้อเพลงมากเป็นพิเศษ 

เวลาฟังเพลง เราจะอยากรู้จักว่าคนนี้เป็นใคร คิดเห็นต่อเรื่องนี้แบบไหน เราจึงชอบงานประเภท Demo งานที่ไม่ยังไม่ถูกปรุงแต่งให้สมบูรณ์ เพราะมันไม่ถูกความคิดคนอื่นมาเจือปน ยังไม่ถูกคอนเซ็ปต์ของค่ายมาตีกรอบ แล้วตัวงานมันจะดูจริงใจกับเรามากๆ เนื้อเพลงนี้เหมือนกับว่าเรากำลังแอบอ่านจดหมายของเขาที่เขียนถึงใครบางคนอยู่ มันรู้สึกส่วนตัวและเห็นตัวตนกว่ามาก

คุณเคยบอกว่าตัวเองเป็นแฟนคลับของ ฟิโอบี บริดเจอร์ (Phoebe Bridgers) ซึ่งเป็นนักดนตรีรุ่นใหม่ไม่กี่คนที่เคยพูดถึง อยากรู้ว่ามุมมองของคุณนักดนตรีคนนี้มีความพิเศษอย่างไร

ฟิโอบี บริดเจอร์ น่าสนใจตรงที่เธอทำให้เรานึกถึงศิลปินในอดีตที่ชื่อ เอลเลียต สมิธ (Elliott Smith) วิธีการเขียนเพลง การร้อง มันเหมือนเธอเอาเพลงของเอลเลียตมาทำใหม่เป็นเวอร์ชันผู้หญิง ตอนเราฟังก็รู้สึกดีใจแปลกๆ นะ ที่เห็นเพลงจากเจเนอเรชันหนึ่งถูกส่งต่อมาอีกเจเนอเรชันหนึ่งได้ชัดเจนขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็นับถือในความยิ่งใหญ่ของเอลเลียตที่สร้างแรงบันดาลใจได้ แล้วก็ตัวฟิโอบีเองก็เป็นนักดนตรีรุ่นใหม่ที่เก่งกาจน่านับถืออีกคนหนึ่งเช่นกัน

วิธีฟังเพลงแบบนี้ ก็เป็นอีกแบบที่เราสนใจ คือจะฟังเพื่อลากจุดไปยังประวัติศาสตร์ดนตรีในอดีต ว่าศิลปินคนนี้ตอนเด็กๆ ฟังวงอะไร มีแรงบันดาลใจมาจากไหน เชื่อมโยงให้เห็นว่าเขาเป็นคนอย่างไร โตมากับรสนิยมแบบไหน ถือเป็นการสำรวจความคิดของนักดนตรีที่น่าสนใจดีสำหรับเรา 

แล้วตัวคุณเองมีศิลปินที่เป็นแรงบันดาลใจบ้างไหม

คิดว่าคงเป็นวงเฉลียงที่เราได้รับแรงบันดาลใจมาโดยที่ไม่รู้ตัว เพราะวงนี้จะมีวิธีการเขียนเพลงที่หลากแนว หลายประเด็น พี่ประภาส ชลศรานนท์ ก็เป็นคนอีกคนที่เรานับถือในเรื่องนี้ เพลง ที่มีท่อน อะไรแบบนี้ มันฟังแล้ว เออ มันรู้สึกถึงอารมณ์ดีว่ะ คนจริงๆ มันไม่ทำแบบนั้นหรอก แต่ฟังประโยคนี้แล้วรู้สึกว่าหัวใจมันซู่ซ่าอย่างบอกไม่ถูก 

หรือท่อน ประโยคนี้พูดถึงความศิวิไลซ์ของชีวิตที่มันอยู่ในใจไม่ใช่บ้านเมือง เขาก็มีวิธีออกแบบเนื้อเพลงที่น่าสนใจมากๆ 

หากจะให้แนะนำตัวเองกับคนที่เพิ่งรู้จัก เขาควรฟังเพลงไหนของคุณดี

เพลงแรกคือ เราจำได้ว่าตอนเขียนจบแล้วรู้สึกภูมิใจ มันเป็นเพลงที่เราเชื่อว่าอีกกี่ปีผ่านไป เรื่องราวที่พูดในเพลงมันยังคงจริงและเราจะเห็นด้วยอยู่เสมอ ดังนั้นหากอยากรู้จักตัวเรา เนื้อเพลงในนั้นจะช่วยแนะนำพวกคุณได้

อีกเพลงคือ ที่พูดถึงความคิดความอ่านของเราในปัจจุบัน เป็นเพลงที่คนฟังจะได้รู้จักและเข้าใจชีวิตของชายวัยกลางคนที่หลุดจากสภาวะกดดันตัวเองไปแล้ว ก่อนหน้านี้ช่วงวัยรุ่นมันจะเป็นยุคที่เราต้องคำถามและตัดสินทุกสิ่ง ทำไมสิ่งนั้นไม่เป็นอย่างนี้ ทำไมสิ่งนี้ไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมเราถึงไปไม่ถึงตรงนั้น ทำไมเราถึงไม่ได้ตรงนี้ ทำไม ทำไม ทำไม เต็มไปหมด

แต่พอถึงวัยสามสิบเราอยู่ในสภาวะยอมรับมากขึ้น ทั้งกับตัวเองที่ไม่ต้องยิ่งใหญ่คับโลกก็ได้ ขอแค่มีความสุขในแต่ละวันก็พอ หรือมุมมองของคนอื่นที่ไม่ต้องเห็นเขาผิดหรือถูกเสียทีเดียว มองเขาเป็นมนุษย์มากขึ้น บางเรื่องเขาก็ดี บางเรื่องเขาก็บ้ง ก็ว่ากันไปตามเรื่องตามราว 

พอใช้ชีวิตแบบนี้ มันรีแลกซ์ขึ้นนะ เจอคนก็ไม่ต้องอ้ำอึ้ง คุยกับใครก็ได้ ไม่มีอะไรติดใจกัน ในแต่ละวันก็ไม่ต้องโบยตีตัวเองเท่าเมื่อก่อน ไม่ต้องเก่งอยู่ตลอดเวลา ปล่อยให้ตัวเองได้พักบ้าง เลิกดูหนังพี่เจ้ยตลอดเวลา แล้วมานั่งดูหนังอย่า คลายเครียดบ้างก็ดี (หัวเราะ)

หากตีความอัลบั้มนี้เป็นหนังสักเรื่องหนึ่งเรื่อง เนื้อหาจะเป็นแบบไหน

คิดว่าคงเป็น   เพราะมันมีหลายอย่างที่ตรงกับเราเลย

เวลาดูหนัง เราจะดูเป็นประวัติศาสตร์ ดูตั้งแต่เรื่องแรกยันเรื่องสุดท้ายว่าผู้กำกับคนนี้เขาทำอะไรมาบ้าง ซึ่งหนังเรื่องนี้สิ่งที่เราประทับใจคือ มันเล่าผ่านมุมมองของคนที่กำลังจะหมดค่าอยู่แล้ว แล้วตัวเขาเองก็พยายามหาช่องทางที่จะเป็นบทสรุปของตัวละคร รวมไปถึง เควนติน ทารันติโน (Quentin Tarantino) ผู้กำกับภาพยนตร์เอง มันจึงพิเศษตรงที่จะได้เห็นมุมมองในบทสุดท้ายของเขาว่าจะเป็นอย่างไร เลือกใช้ประเด็นไหนมาเล่า 

สิ่งที่เขาเลือกอย่างฮอลลีวูดก็ตรงกับอัลบั้มของเราที่พูดถึงแรงบันดาลใจที่คล้ายคลึงกัน เราทั้งคู่ต่างพยายามเขียนจดหมายรักให้กับเมือง ซึ่งไม่ได้เขียนเพราะคิดถึง แต่เขียนเพราะอยากขอบคุณว่าในช่วงเวลาหนึ่ง กรุงเทพฯ ทำให้เราเอาตัวรอด มีแรงบันดาลใจ และมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ต่อไปได้

หากต้องโทรศัพท์ไปรายการวิทยุเพื่อขอเพลง เวลาดีเจถามว่าจะมอบเพลงนี้ให้ใคร คุณจะตอบว่าอย่างไร

พ่อแม่ เพื่อนฝูง ครอบครัว พวกเขาเหล่านี้คือคนที่เรานึกถึงเวลาเขียนเพลง อย่างที่บอกว่าเราเขียนเพลงนี้ด้วยความรู้สึกอยากขอบคุณ ซึ่งนอกจากเมืองกรุงเทพฯ แล้ว คนกรุงเทพฯ เหล่านี้ก็เหมือนกัน ตอนเด็กๆ ถ้าไม่มีเพื่อนพาเที่ยว พานั่งรถเมล์ ก็คงไปไหนไม่เป็น ตอนทำงานไม่มีพี่ที่ทำงานพาไปเที่ยว ก็คงไม่รู้จักร้านเหล้าหรือบาร์ที่มีดนตรีดีๆ หรืออย่างคนรู้จักที่เลี้ยงเรามา ในวันที่เขาไม่อยู่แล้ว เวลาเดินผ่านร้านการ์ตูนที่เขาชอบพาไปซื้อ ก็ทำให้ย้อนกลับไปนึกถึงเขาในตอนนั้น

มันเป็นความรู้สึกที่อบอุ่นและอยากจดจำเอาไว้นานๆ

ภาพ: นิษฐกานต์ แก้วปิยสวัสดิ์

Tags: , ,

Tags:

[Update] อุบสาวคนใหม่ !! “กัน นภัทร” เผยยังอยากเป็นเพื่อนกับคนรักเก่า | รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง – NATAVIGUIDES

อุบว่าที่แฟนสาวคนใหม่ !!

อุบว่าที่แฟนสาวคนใหม่ !! “กัน นภัทร” เผยยังอยากเป็นเพื่อนกับคนรักเก่า

นักร้องหนุ่มเสียงสวรรค์ประทาน “กัน นภัทร” เผยถึงความรักครั้งเก่าทุกประเด็นดราม่า เผยเรื่องกระแสโจมตีเป็นสิ่งที่หนักสุดในชีวิต พร้อมโปรโมตเพลงใหม่ ‘ไม่ได้อยากลืม’ จนหลายคนมองว่าเพลงนี้สื่อไปในทางให้คิดถึงความรักกับคนเก่าที่จบไปแล้ว แถมยังเจ้าตัวบอกงานนี้มีคนที่กำลังคุยอยู่แล้ว ผ่านทางรายการคุยแซ่บSHOW 

ตอนนี้หัวใจไม่ว่างแล้ว ?
กัน : ไปเอามาจากไหน มีคนคุยครับ 3-4 เดือน เราไม่อยากเปิดอะไร
เจอกันได้ไง ?
กัน : คนนี้ผมไม่อยากพูดอะไรเยอะครับ อยากเก็บเอาไว้ เดี๋ยวมันจะเป็นเรื่องเป็นราวอีก
เขาน่ารักตรงไหน ?
กัน : น่ารักทุกคนแหละครับที่ผมคุยมา
ทำไมถึงยังไม่เปิดตัวสักที ?
กัน : ก็อย่างที่บอกครับ ไม่ได้อยากให้มันเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต อยากอยู่เงียบๆ บ้าง อยากให้ทุกคนเห็นงานเรามากกว่าเรื่องอื่น
เป็นเพราะเรื่องราวที่ผ่านมาหรือเปล่า เลยอยากให้คนโฟกัสงานอย่างเดียว ?
กัน : ก็มีส่วนครับจากประสบการณ์ที่ผ่านมา พอเราคบกันคนอื่นรู้ด้วยเยอะๆ พอวันนึงไม่เป็นไปตามที่เราหวังก็อาจจะมีกระแสข้างนอกเข้ามา เราไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น เรารู้กันว่าเรารักกันยังนี้เราเป็นแบบนี้นะ
ครั้งนี้พยายามปกป้องเขามากกว่าครั้งก่อนๆ ?
กัน : ใช่ครับ

โปรโมตเพลงใหม่ ?
กัน : เพลง ไม่ได้อยากลืมครับ
หลายคนอาจจะคิดเพลงนี้เพื่อแฟนเก่า ?
กัน : คิดอยู่แล้วว่าทุกคนต้องคิดยังนี้ เราไม่ได้ห้ามอยู่แล้วว่าจะคิดว่าเขาหรือเปล่า แต่อยากจะบอกว่าเพลงนี้แต่งขึ้นมาจากประสบการณ์ความรักที่เราเคยสัมผัสมา บางทีจากการที่เรายัง move on ไม่ได้จากคนรักเก่า ยังคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เราเคยทำให้กันมา ผมเชื่อว่าทุกคนต้องเคยมีความรู้สึกนี้ เรายังคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เขาทำให้เรามา ทำให้ยิ้มได้ ทำให้เราหัวเราะได้มีความสุขได้ก็เลยเป็นเพลงนี้มา
เพลงนี้สื่อให้คิดไปถึงคนเก่าได้ คนปัจจุบันน้อยใจไหม ?
กัน : พูดคุยครับ บอกว่าเดี๋ยวมีผลงาน แต่สิ่งที่เราจะสื่อสารออกไปคือความรู้สึกที่เราอยากให้คนฟังเขามีส่วนร่วมกับเพลงนี้ คนฟังที่เคยรู้สึกแบบนี้ได้สัมผัสมัน ไม่ใช่ตัวเรารู้สึก ณ ตอนนี้ เราเคยรู้สึกมาแล้ว เป็นประสบการณ์ที่เคยผ่านมา
วันนึงถ้ามีโอกาสได้กลับมาร่วมงานกัน ?
กัน : ผมไม่มีปัญหาเลยครับ และผมก็อยากเป็นเพื่อนกับเขามากๆ อย่างเพื่อนกลุ่มเขาที่เราเคยเล่นด้วยกันเคยเจอกันผมก็อยากกลับไปติดต่อเขาเหมือนเดิม แต่ทุกวันนี้ผมจะมีความเกรงใจไม่กล้า
บางวันยังมีแอบคิดถึงไหม ?
กัน : นึกถึงครับ มันจะมีรูปต่างๆ คลิปต่างๆ ที่แฟนคลับยังเก็บไว้เรื่อยๆ ผมเองก็ยังมีเลย วันไหนที่เรารู้สึกต้องการกำลังใจ เหงาๆ อยากยิ้มได้ก็จะดูรูปพวกนี้บางทีเราก็เผลอยิ้มให้มัน แต่มันเป็นการคิดถึงในมุมของเรา เราไม่ได้คิดถึงอยากให้เขามารับรู้เรารู้สึกยังไง ไม่อยากให้เขาต้องไปมีปัญหาอะไร

ในเพลง บางคนบอกไปเลิกไปแล้ว ลืมจะดีกว่าไหม ?
กัน : ผมเชื่อว่ารอบข้างคนที่เรารักทุกคนอย่างพ่อแม่ เพื่อนๆ ครอบครัวจะให้กำลังใจเสมอ ถ้าเราเลิกกับใครก็จะบอกสู้ๆนะ เดี๋ยวก็ดี เดี๋ยวก็หาใหม่ได้ move on ได้แล้ว แต่ว่าคนที่สัมผัสกับมันตรงๆ คือตัวเราครับ มันคือคนที่เราสัมผัสกับเขามา คนอื่นไม่รู้หรอกว่าเราเคยมีความสุขแค่ไหนกับเขา เพราะฉนั้นจะมาบอกให้ move on ภายใน1-2 อาทิตย์มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว มันอยู่ที่ตัวเราเองว่าเราพร้อมเมื่อไหร่ ถ้ายังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรให้โอกาสตัวเองได้คิดถึงเขาแค่นั้นเอง นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึกนะ และผมก็เชื่อว่าถ้าวันนึงมัน move on ได้แล้ว มันก็จะเป็นตัวเรานั่นแหละที่เคยผ่านมันมาแล้วนะแค่นั้นเอง
ตอนที่เลิกกับแฟนเก่าเฮิร์ตมาก ถือว่าหนักสุดในชีวิตไหม ?
กัน : ความเสียใจกับการที่เราต้องเลิกกัน คือระหว่างสองฝ่ายไม่ได้หนักที่สุดในชีวิต แต่ว่ากระแสที่เข้ามามันทำให้เรารู้สึกเฟลและดาวน์ที่สุดในชีวิต
กระแสหมายถึง ?
กัน : กระแสจากคนรอบข้าง จากโซเชียล จากคนที่ติดตามเรา 2 คนมา วันที่เรามีข่าวเรียกได้ว่าแทบจะเป็น 100% ที่โจมตีเรา มันเลยรู้สึกว่าเราดังเหรอ ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าผมต้องมาดังเรื่องนี้ ผมทำงานมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วประกวดเดอะสตาร์ ทำงานเพลง งานละครเวที งานละครต่างๆ พิธีกร ผมอยากให้ทุกคนได้เสพผลงานของผมมากกว่าการที่มาต้องเป็นข่าวอะไรพวกนี้ ผมคิดว่าผมไม่ได้มีความสุขเลยกับการมีข่าวแบบนี้
โดนโจมตีนานไหม ?
กัน : นานอยู่ครับ คือทำอะไรก็โดนอีกแล้ว เราก็ทำอะไรไม่ได้ครับ เราเลือกที่จะเงียบๆ ให้มันจบไปให้มันผ่านไป ยิ่งเราไปพูดอะไรก็ยิ่งไม่จบ
ดูแลความรู้สึกตัวเองยังไง ?
กัน : ปกติครับ ไปข้างนอกบ้าง อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ กำลังคนรอบข้าง แต่ว่าจริงๆ แล้วกำลังใจสำคัญสุดคือตัวผมเอง มันเป็นสิ่งที่เรารู้เลยว่าเราผ่านมาได้เพราะเราเคยผ่านอะไรพวกนี้มา แล้ววันนี้เราสู้กับมันอีกครั้งนึง เรารู้แล้วว่าวันที่เราล้ม เราล้มยังไงแล้ววิธีการลุกขึ้นมามันลุกยังไง วันนี้มันจะมีการลุกขึ้นมาอีกแบบนึงให้เราแข็งแรงกว่าเดิม อันนี้คือสิ่งที่สู้กันมันมาได้ ผ่านมันมาได้

ตอนมีกระแสถาโถมได้เข้าไปอ่านบ้างไหม ?
กัน : มันก็มีครับ อยากรู้ว่ามันประมาณไหน เราไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น เรายังไม่เคยเจอแบบนี้มาไม่รู้ว่าหนักขนาดไหน เราไปอ่านคอมเมนต์นี่เราทำให้เขาเกลียดขนาดนี้เลยหรอ เราแย่ขนาดนั้นเลยหรอ
คอมเมนต์ไหนแรงกับความรู้สึกที่สุด ?
กัน : แทบได้ว่าแรงทุกคอมเมนต์ จำได้ว่าวันนั้นใหม่ๆ สดๆเลย แล้วเราไปออกกำลังกายเราฟังเพลงนึงของพี่แจ๊สเป็นเพลงให้กำลังใจผมร้องไห้เลย ชีวิตมาถึงจุดนี้ได้ยังไง
เรื่องนี้ดราม่าสุดตั้งแต่เข้าวงการ ?
กัน : ใช่ครับ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากขายความรักหรืออะไรเลย ทุกคนมองผมแย่เรื่องความรัก มันเป็นความรู้สึกในชีวิตที่เรารักใครสักคนนึง มันเป็นธรรมดาที่มันไปด้วยกันไม่ได้ก็เลิกรา อยากให้ทุกคนเข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของชีวิต ถ้าคุณจะมองว่าเราแย่ขนาดนั้นจากเรื่องแค่นี้ ผมก็ทำอะไรไม่ได้ อยากให้คุณมองอย่างอื่นบ้าง
น้ำตาไหลตอนออกกำลังกาย ตอนนั้นคิดอะไร ?
กัน : ฟังเพลงอย่างเดียวเลยเพลงพี่แจ๊ส วันนั้นผมพอแล้วอยากพักยาวๆ แต่ว่ามันเหมือนมีบางคำของเพลงพี่แจ๊สผมรู้สึกว่าเมื่อก่อนคนบางคนไม่รู้จักเราด้วยซ้ำ แต่วันนี้เราทำให้คุณเห็นแล้วว่าเราขึ้นมาได้ อย่าหยุดยั้งกับชีวิต ตราบใดที่ดวงอาทิตย์ยังไม่ร้างลาไป วันนั้นเป็นบทเรียนที่ว่าผมเลยแข็งแกร่งมากๆ เลยจากคอมเมนต์ต่างๆ ที่โจมตี เลยรู้สึกว่าทุกวันนี้โซเชียลมันเป็นอย่างนี้ นิดหน่อยก็มีเรื่องแล้ว เพราะฉะนั้นเราควรใส่ใจกับคนที่เขารักเรามากกว่า อันนี้มันเป็นสิ่งสำคัญจริงๆ บางทีเราไปแคร์อะไรกับสิ่งที่เราไม่รู้จักกับคนที่เขาไม่รู้จักเราเลย บางคอมเมนต์ไม่มีรูปด้วยซ้ำ เราไปอ่านแล้วเอาอันนั้นมาใส่ใจเรามันเจ็บครับ
ตอนร้องไห้ที่ออกกำลังกายเสียดายหรือเสียใจ ?
กัน : เสียใจครับ ไม่ได้เสียดาย เพราะเราคิดแล้วครับว่าสักวันนึงมันจะต้องเป็นแบบนี้ เราเลือกในสิ่งที่เราก็ไม่อยากให้เขาเสียใจในระยะยาว และเราก็รักเขา ผมว่าเลือกสิ่งที่มันดีที่สุดกับตัวเราทั้งคู่
รู้มาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะจบไม่สวย ?
กัน : ใช่ครับ แต่แค่เสียใจว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี่เลยเหรอ ทำใจมาระดับนึงไหม ทำใจกับสังคมขนาดนี้ แต่ว่าทำใจกับเรื่องความสัมพันธ์มาระยะนึง

คนรอบข้างแก๊ง 4 โพดำเป็นยังไงบ้าง ?
กัน : ทุกคนก็ต้องอยู่ข้างเราแหละ แต่ว่าบอกให้เขาเข้าใจ มันไม่ใช่ความผิดของเขาซะทีเดียว ไม่ใช่ความผิดของเราซะทีเดียว มันต้องเข้าใจว่าไม่ใช่ความผิดของใคร มันคือความบางอย่างที่ไปกันไม่ได้
ตั้มเป็นเพื่อนของทั้ง 2 ฝ่าย ?
กัน : ใช่ครับ สนิททั้งเราและเขาด้วย บางทีก็จะมีความลำบากใจ อยากจะปรึกษาเขาผมก็ปรึกษาไม่ได้
ครอบครัวและแฟนคลับให้กำลังใจยังไง ?
กัน : ครอบครัวจะไม่พูดอะไรเยอะ ครอบครัวจะรู้ว่าเราเป็นยังไง แค่ถามว่าเป็นยังไงบ้างลูก แม่แค่มองตาก็รู้แล้ว โทรมาก็รู้แล้วลูกไม่ไหวนะ กลับบ้านเรานะ แค่นี่มันก็ไม่ไหวแล้วครับ แฟนคลับก็คือกำลังใจที่สำคัญมากๆ เหมือนกันอยู่รอบข้างผมเสมอไม่ว่าผมจะทำอะไรแย่ๆ ก็ตาม ทุกคนจะให้กำลังเสมอซึ่งบางทีก็ไม่ดีนะสปอยล์ศิลปิน แต่ว่าบางทีมันก็มีคนข้างๆ เรา
อะไรที่ทำให้หลุดจากมรสุมดราม่าได้ ?
กัน : เวลาครับ แล้วก็กำลังใจต่างๆ จากคนรอบข้าง มันทำให้เราเดินก้าวผ่านจุดนั้นมาได้ วันนี้ผมรู้สึกว่าผมโตขึ้นเยอะมาก ผมแข็งแกร่งขึ้นเยอะมาก ถึงแม้ว่าจะมีบางอย่างที่หายไปจากชีวิตเรา มีหลายๆ คนที่ไม่ชอบเราเพิ่มมากขึ้น แต่ว่ามันต้องเดินต่อไป มันต้องทำต่อไปในสิ่งที่เรายืนหยัดมาตั้งแต่แรก วันแรกผมอยากเป็นนักร้องอยากเป็นศิลปินแล้วผมก็ได้ทำในสิ่งที่ผมรัก วันนึงผมมีปัญหาอะไรก็ไม่รู้ที่เราไม่ได้ตั้งใจให้มันเป็นเรื่อง เราก็ต้องทำในสิ่งที่เรารักต่อไปให้คนเห็น

นานไหมกว่าจะหลุดมาได้ ?
กัน : พักใหญ่ๆ เลยครับ แต่ว่ามีโควิดพอดีเลยโอเค
ทำเพลงใหม่ครั้งนี้ช่วยเยียวยาจิตใจเราให้ดีขึ้นด้วยไหม ?
กัน : ผมมาทำเพลงกับบ้านหลังใหม่ ผมรู้สึกแฮปปี้มากๆ ที่ได้ทำเพลงที่เป็นตัวของเราจริงๆ การทำงานอบอุ่นมากๆ ผมเป็นเด็กที่ผู้ใหญ่เมตตาครับเด็กหลายค่ายฝั่งงานละครพิธีกร งานแสดงต่างๆอยู่ฝั่งของวัน แต่ว่างานเพลงทั้งหมดจะอยู่ฝั่งค่ายใหม่ครับ แบ่งแผนกชัดเจน
บทเรียนที่ได้จากความรักครั้งเก่า ?
กัน : ความรู้สึกบางทีมันก็พูดออกไปไม่ได้ทั้งหมด ทุกความรักที่ผ่านมามันคือการเรียนรู้ให้กับชีวิตเราได้ก้าวต่อไปข้างหน้าให้เราโตขึ้น เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่มันเจอแต่ละวันจะเป็นยังไงบ้าง แต่ก็ขอบคุณความรักที่ผ่านมา ขอบคุณสิ่งดีๆ หลายอย่างมากๆที่เกิดขึ้นกับตัวผม ที่เขาได้ทำให้ผมมีความสุข นี่คือสิ่งที่อยากจะบอกเขา ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้ไปต่อด้วยกัน แต่ผมก็ยังรู้สึกดีๆ กับเขา เป็นเพื่อนกันได้เสมอ ผมไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากขอบคุณ อยากให้เขามีความสุข


ชอบที่เธอเป็นเธอ – วงแทมมะริน [4K MusicVideo]


ฟังเพลงของวงแทมมะรินได้ที่ JOOX
https://open.joox.com/s/rd?k=myh4L
และ
iTunes Store \u0026 Apple Music : https://apple.co/3oXpfWZ
ํYoutubeMusic : https://music.youtube.com/watch?v=t_5ddzvmr6w\u0026feature=share
Spotify : https://spoti.fi/3BFtrhn
Tidal : https://bit.ly/3p1IFKk
Amazon Music : https://amzn.to/3n9k0kz
ชื่อเพลง ชอบที่เธอเป็นเธอ
ศิลปิน วงแทมมะริน
คำร้อง/ทำนอง พนัชกร แท่นประมูล
เรียบเรียง ศุภกาญจน์ พรหมเกิด
ติดต่องานแสดง 0847505241
งานโฆษณา , ริวิวสินค้า 0840678537
Facebook : วงแทมมะริน
เพลงใหม่ ชอบที่เธอเป็นเธอ วงแทมมะริน TMR

Mix \u0026 Mastered : อ.สัญญา อิทธิสัน
Vocal Recording : My Home studio
Bass Recording : ธงชัย ถาวรโชติ

Executive Producer : วุฒินนท์ รอดเนียม : เฉลิมพล มากละเอียด

: MUSIC VIDEO : BT Media Studio
: Editor : เฉลิมพล มากละเอียด
: Director : ศรัญญู เนียมหะ
: Assistant Video : นพรัตน์ เนียมหะ
Musician
Vocals : พนัชกร แท่นประมูล (นิล)
Guitar : ณัฐวุฒิ ศรีเอียด (ต้น)
Guitar : อรรถโกวิท แสงใส (ยิม)
Bass : สัตตะ ดำแก้ว (บาส)
Drum : ศรายุทธ ไพยรัตน์ (อาร์)

Special Thanks
COCO CAPE LANTA RESORT
KHAO YAI FARM \u0026 RESTAURENT
แสงจันทร์ เรดิโอ

เนื้อเพลง ชอบที่เธอเป็นเธอ
มีคนเคยบอกกับเธอหรือยังว่าเธอน่ารัก ว่าเธอสวยเกินใครทั้งหมดเลย ช่างถูกใจฉันเหลือเกิน
ช่างน่ามอง บอกได้ไหมบ้านอยู่หนแห่งใด
หรือว่าเจ้าเป็นดาวจากเมืองเหนือ หรืออีหล่าคำแพงแดนอีสาน
คนสวยของเมืองภาคกลาง หรือสาวงามของเมืองใต้
ยอมรับตรงๆเลยว่าชอบเธอคนนี้ ชอบที่เธอเป็นเธอ ชอบเวลาเธอยิ้ม
รู้ไหมเวลาที่เธอจ้องตา ฉันเขินจริงๆ เธอทำให้ใครคนนึงหลงรักเธอ
ขอถามตรงๆเลยขอจีบเธอได้ไหม ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ก็ยิ้มให้กันสักนิดนึง
ได้โปรดอย่าเพิ่งมองผ่าน ไปสนคนอื่น เพราะใจทั้งใจของคนๆนี้มันยกให้เธอเป็นที่หนึ่ง
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
Solo
(ซ้ำ )
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ
ชอบจริงๆเจ้าเอย รักจริงๆหล่าเอ้ย จะอู้จะอี้จะเว้าเช่นไร
ชอบจริงๆเธอเอ้ย รักจริงๆสาวเห้อ ต้องพูดพันพรือเธอจึงเข้าใจ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ชอบที่เธอเป็นเธอ - วงแทมมะริน [4K MusicVideo]

Parin \u0026 Mita | โซ่เวรี So Wayree | พูดอะไรไม่ได้สักอย่าง


Turn on youtube subtitles CC [Eng Sub] HD 1080 Please
ระหว่างรอวันศุกร์แห่งชาติก็ดูคลิปวนไปก่อนเนอะ ใดๆคือเหมือนนี่เป็นปารมิตาเองเลยจ้ะ เพราะทุกเพลงคือความรู้สึกของนางเอกทั้งนั้นเลย
____________________________
Drama Name: โซ่เวรี / So Wayree (2020)
Song: พูดอะไรไม่ได้สักอย่าง ฟิล์ม บงกช (Fymme Bongkot)
Official MV: https://www.youtube.com/watch?v=4aA_775IAgE\u0026feature=emb_title
Special Thanks: Lyric translation by ดึงดูดใจ
https://deungdutjai.com/2014/01/29/pootaraimaidaisukyahngfymme/
____________________________
Thanks for Watching! And don’t forget to like this video and subscribe!
อย่าลืมกดกระดิ่งแจ้งเตือนถ้าไม่อยากพลาดวิดีโอใหม่ ๆ กันด้วยน้าาาา
โซ่เวรี SoWayree เข้มมุกดา

Parin \u0026 Mita | โซ่เวรี So Wayree | พูดอะไรไม่ได้สักอย่าง

รวมเพลงช้า ฮิตสุดๆ POTATO l เธอยัง, ทิ้งไว้กลางทาง, ปากดี l【LONGPLAY】


รวมเพลงช้า ฮิตสุดๆ POTATO l เธอยัง, ทิ้งไว้กลางทาง, ปากดี l【LONGPLAY】

รวมเพลงช้า ฮิตสุดๆ POTATO l เธอยัง, ทิ้งไว้กลางทาง, ปากดี l【LONGPLAY】

ใจมันรักแต่เธอไม่รัก – COPTER [ Official MV ]


\” ใจมันรักแต่เธอไม่รัก \” Single ใหม่ล่าสุดจาก COPTER เพลงนี้ยังคงบอกเล่าเรื่องราวความเศร้า ความไม่สมหวังของคนที่รักข้างเดียว ในส่วนของดนตรียังคงมีความ Pop ที่มีกลิ่นอายของเพลงยุค 2000 โดยมีการใช้ Synthesizer และไลน์ Guitar ที่โดดเด่น และเพิ่มความ Modern ขึ้นด้วยการใช้กลองที่เป็น Hiphop ซึ่งทั้งหมดนี้ COPTER ยังคงลงมือทำเองทุกขั้นตอนเช่นเคย
เพลงนี้ถือเป็นเพลงแรกของ COPTER ที่เล่าเรื่องราวความรักแล้วจบด้วยความเข้าใจแต่โดยดี แม้จะเป็นรักข้างเดียว เป็นรักที่ไม่สมหวัง แต่เราก็เข้าใจและยอมรับความจริงว่า \” ต่อให้เราจะรักเขามากแค่ไหน แต่ถ้าเขาไม่รัก…มันก็คงต้องจบ \”
_____________________________________
SINGLE : ใจมันรักแต่เธอไม่รัก
ARTIST : COPTER
LABEL : BOXX MUSIC
EXECUTIVE SUPERVISOR : VUDTINUN BHIROMBHAKDI
EXECUTIVE PRODUCER : CHODCHAPAK PHOLTHANACHOD
PRODUCER : CHODCHAPAK PHOLTHANACHOD
LYRICS : COPTER
MELODY : COPTER
ARRANGE : COPTER
MIXED, EDITED \u0026 MASTERED : DANUPHOP KAMOL
ถ้าจะขอให้ฉันไม่รักเธอนั้นมันคงไม่ได้หรอก
ก็ไม่รู้ต้องทำอย่างไรให้ใจฉันมันไม่รักเธอ
จะเป็นร้อยเป็นพันวัน ในใจฉันยังเป็นเธอ
ตัวเธอเองก็รู้ดี
แต่จะหันไปซ้ายไปขวาก็หาไม่เจอว่าทางใด
ที่จะทำให้ใจเธอนั้นมองฉันด้วยรักได้สักที
ให้เธอรักคงไม่มี ให้ฉันหนีคงไม่อาจ
ก็มันรักเธอทั้งใจ
อดทน บอกรักกับเธอได้แค่ในใจ
ต้องเก็บมันไว้คนเดียวอย่างนี้ไปนานเท่าไหร่
บอกฉันสักคำได้ไหม ว่าฉันพอมีทางไหนไหมเธอ
ที่ฉันนั้นจะได้รักเธอ ได้เคียงข้างเธอ
ฉันขอเพียงเท่านี้
อยากรู้ฉันมีสิทธิ์ไหม ให้ฉันดูแลเธอได้หรือเปล่า
หรือเป็นได้เพียงคนแก้เหงา
ก็ใจมันรัก รัก แต่เธอไม่รักก็คงต้องจบ
ก็ไม่รู้ต้องเพรียบต้องพร้อมกว่าใครอีกมากสักเท่าไหร่
ก็ไม่รู้ต้องดีต้องเลิศต้องเลออีกมากสักแค่ไหน
เธอถึงจะมีใจ จะวันไหนจะรอเธอ
หรือมันไม่มีทางไหน
(, ,, )
_____________________________________
AVAILABLE FOR DOWNLOAD : 492 222 309
iTunes \u0026 Apple Music : https://music.apple.com/th/album/%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%81/1592689349?i=1592689350
Joox : https://www.joox.com/th/single/xX0dRc60BHXKzjDHbf0wKw==
Spotify : https://open.spotify.com/track/5OgO9TXzEFoIGfK3nNN4vu?si=0d62a2fce6c844c6
_____________________________________
ติดตามผลงานของ \”Copter\” ได้ทาง
https://www.facebook.com/boxxmusicofficial
https://www.facebook.com/CopterSmurf
instagram : boxxmusicofficial
instagram : CopterSmurf
twitter : boxxmusicteam
▶ ติดต่องานจ้าง (โทร) : 062 4949 583, 02 241 4472 ต่อ 6514
▶ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ (โทร) : นัท 083 039 6975
▶ Marketing Campaign (โทร) : แต้ม 081 580 5270
▶ ต้องการ cover เพลงนี้ ส่ง EMail มาได้ที่
: [email protected]
ใจมันรักแต่เธอไม่รัก COPTERSMURF BOXXMUSIC

ใจมันรักแต่เธอไม่รัก - COPTER [ Official MV ]

The Wall Song ร้องข้ามกำแพง | EP.62 | พั้นช์ วรกาญจน์,ติ๊ก ชิโร่,ขนมจีน กุลมาศ | 11 พ.ย. 64 FULL EP


พบกับรายการ The Wall Song ร้องข้ามกำแพง
ทุกวันพฤหัสบดี เวลา 20.05 น.
ทาง ช่องเวิร์คพอยท์ หมายเลข 23
=========================================
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/workpoint
Website: https://www.workpointtv.com
Instagram: https://www.instagram.com/workpoint
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZS9GDwTY

The Wall Song ร้องข้ามกำแพง | EP.62 | พั้นช์ วรกาญจน์,ติ๊ก ชิโร่,ขนมจีน กุลมาศ | 11 พ.ย. 64 FULL EP

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ รักที่พูดอะไรออกไปไม่ได้สักอย่าง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *