Skip to content
Home » [NEW] รีวิวการเรียนขับรถในญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : การสมัครเรียน | โรงเรียน ใน ญี่ปุ่น – NATAVIGUIDES

[NEW] รีวิวการเรียนขับรถในญี่ปุ่น ตอนที่ 1 : การสมัครเรียน | โรงเรียน ใน ญี่ปุ่น – NATAVIGUIDES

โรงเรียน ใน ญี่ปุ่น: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

หากใครเคยมาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นมักจะรู้สึกเหมือนกันว่า ที่นี่มีระเบียบวินัยการจราจรที่ดีมาก และที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะการเรียนและการสอบที่เข้มข้นกว่าจะได้ใบขับขี่ กอปรกับกฎหมายที่มีการบทลงโทษอย่างจริงจังด้วยค่ะ

ตลอดชีวิตของผู้เขียนไม่เคยขับรถเลย พึ่งพาคมนาคมสาธารณะมาโดยตลอด ไม่ว่าจะฝนตกแดดจะออก แต่เผอิญว่าตั้งแต่ปีที่แล้วได้มีโอกาสย้ายมาอยู่ที่จังหวัดฮอกไกโด ทำให้การเดินทางด้วยรถไฟนั้นไม่สะดวกเหมือนอยู่ในเมือง ประกอบกับช่วงนี้ติดโควิด ทำให้งานการของผู้เขียนที่เกี่ยวกับธุรกิจการท่องเที่ยวพลอยได้รับผลกระทบไปด้วย เลยใช้เวลาอยู่ที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วหละที่จะต้องไปเรียนขับรถ

ทุกครั้งที่ผู้เขียนบ่นถึงความยากของการเรียนที่นี่ เพื่อนๆ ก็มักจะถามว่าทำไมต้องไปเรียน แพงก็แพง ทำไมไม่เอาใบขับขี่ไทยมาสอบเทียบ? คำตอบก็คือ ผู้เขียนขับรถไม่เป็นค่ะ ตอนอยู่ไทยก็เลยไม่มีใบขับขี่ หากจะกลับไปสอบที่ไทย หลังได้ใบขับขี่ก็ต้องอยู่ไทยนานเกิน 3 เดือนอีก ซึ่งก็พิจารณาแล้วว่าไม่สามารถกลับไปนานขนาดนั้นได้ ไหนๆ ก็ต้องอยู่นานแล้ว ไปสอบใบขับขี่ของญี่ปุ่นเลยแล้วกัน! แต่…ญี่ปุ่นก็ไม่อนุญาตให้คนที่ไม่มีใบขับขี่ฝึกขับรถเอง เพราะฉะนั้น เพื่อเป็นการทำตามกฎ เราจึงต้องกัดฟันไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถในญี่ปุ่นที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าแพงแสนแพง

นอกจากอุปสรรคด้านการเงินแล้ว อุปสรรคที่สองก็คือกำแพงภาษาค่ะ จากที่เคยดูรีวิวจากพี่ๆ คนไทย ก็สบายใจว่ามีภาษาไทยให้เลือกสอบด้วย แต่จริงๆ แล้ว มีแค่ศูนย์สอบใหญ่ๆ เช่น ในโตเกียว โอซาก้า นาโงย่า ชิบะ ไซตามะ หรือที่ที่คนไทยอยู่เยอะๆ อย่างอิบารากิเท่านั้น

ที่นี้พอถามถึงภาษาอื่นบ้าง ในแต่ละจังหวัดนั้นมักมีภาษาต่างประเทศที่เป็นสแตนดาร์ดให้เลือกสอบได้ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเกาหลีค่ะ แต่ผู้เขียนอยู่ที่ฮอกไกโด ซึ่งเป็นจังหวัดที่ใหญ่มาก ศูนย์สอบที่สามารถสอบเป็นภาษาต่างประเทศได้นั้นอยู่ที่ซัปโปโรซึ่งต้องนั่งรถไฟไป-กลับ จากบ้าน 8 ชั่วโมง ซึ่งคิดแล้วว่าไม่ไหว ดังนั้น ตัวเลือกสุดท้ายของเราคือ ต้องเรียนและสอบเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ

การสมัครและค่าเล่าเรียน

ผู้เขียน walk-in ไปสมัครที่โรงเรียนสอนขับรถใกล้บ้าน แต่ทางโรงเรียนก็แนะนำมาว่าให้เราไปหยิบสมัครจากที่อื่นมาเขียนดีกว่า เพราะว่าใบสมัครที่โรงเรียนเอาไปวางไว้ตามที่ต่างๆ จะมีแสตมป์ส่วนลดปั๊มเอาไว้ค่ะ ลดไปประมาณ 10,000 เยน ก็เกือบๆ 3 พันบาท จากค่าเรียนทั้งหมดเกือบ 300,000 เยน หรือราวๆ 100,000 บาท เลยทีเดียว เลยต้องยอมเดินไปหยิบจากร้านอื่นๆ ที่ทางโรงเรียนเอาไปวางไว้

นอกจากใบสมัครแล้ว ยังต้องเตรียมหลักฐานอื่นๆ ด้วยค่ะ เช่น ทะเบียนบ้านในญี่ปุ่น ไซริวการ์ด (บัตรต่างด้าว) รูปถ่าย 3×2.4 นิ้ว จำนวน 4 ใบ และเงินค่าเรียน ซึ่งค่าเรียนสามารถจ่ายได้ 2 แบบ คือแบบเงินสดและแบบผ่อนชำระโดยการทำสัญญากับโรงเรียนค่ะ ซึ่งผู้เขียนเลือกจ่ายเงินสด

วันถัดมา โรงเรียนนัดให้มาแต่เช้าตั้งแต่ 8:30 เลยค่ะ เพราะว่าเป็นเวลาปฐมนิเทศน์สำหรับนักเรียนใหม่ มีอาทิตย์ละ 3 วันนะคะ ถ้าไม่สะดวกวันนี้ มาวันอื่นก็ได้ค่ะ แต่ต้องมาตั้งแต่ 8:30 เพราะว่าต้องมาวัดสายตา ถ่ายรูป (กรณีไม่เอารูปถ่ายมาเอง มีค่าธรรมเนียมการถ่ายรูป 800 เยน) จ่ายค่าเรียน และรับหนังสือเรียน (ฟรี)

ตอนที่กำลังตรวจสอบเอกสารอยู่บังเอิญเจอเจ้าหน้าที่ที่เคยสอบถามข้อมูล และเพิ่งมารู้ทีหลังว่าเค้าเป็นคุณครูค่ะ ซึ่งคุณครูบอกว่าจะ 紹介(โชไก) ให้ หรือแนะนำให้นั่นเอง ผู้เขียนก็เพิ่งรู้ว่า ถ้ามีคุณครูโชไกให้ เราจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีกเกือบ 20,000 เยน รวมๆ แล้ววันนั้น จ่ายไปประมาณ 28x,xxx เยน ค่ะ ซึ่งการโชไกนี้ ไม่ได้มีประโยชน์แค่ได้ส่วนลดค่าเล่าเรียน แต่ยังได้รับสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกมากมาย เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังในตอนต่อไปนะคะ

ตรวจวัดสายตา

นักเรียนทุกคนก่อนเข้าเรียนต้องทำการตรวจวัดสายตา ไม่ใช่แค่แว่นตาเท่านั้นนะคะ ตรวจละเอียดถึงคอนเทคเลนส์ ดังนั้นใครที่ใส่แว่นสลับกับคอนแทคเลนส์ต้องแจ้งโรงเรียนด้วยค่ะ เพราะข้อมูลเหล่านี้สำคัญสำหรับคุณครู และสำคัญในการออกใบขับขี่เมื่อสอบผ่านค่ะ

ส่วนตัวผู้เขียนนั้นสายตาไม่สั้นมาก ตอนวัดสายตาจึงไม่ได้ใส่แว่นและคอนเทคเลนส์ ทีนี้วันนึงพอไปเรียนขับรถแล้วใส่แว่น คุณครูไม่ให้ใส่ค่ะ เราต้องเรียนตามค่าสายตาที่เราได้วัดไว้ คุณครูก็ถามว่า ไม่ใส่แล้วขับรถมองเห็นมั้ย? ถ้าไม่เห็นต้องออกจากสนามซ้อมขับไปวัดสายตาใหม่ค่ะ ซึ่งนอกจากวัดสายตาสั้น สายตายาวแล้ว ก็ทำการตรวจเช็คตาบอดสีด้วยค่ะ

การวัดค่าสายตาที่ไทยจะให้อ่านตัวเลขใช่มั้ยคะ? แต่ที่ญี่ปุ่นจะให้อ่านวงกลมค่ะ ว่าวงกลมที่เราเห็นนั้น แหว่งด้านบน ด้านซ้าย ด้านขวา หรือด้านล่าง

สอบ Safety Test

การสอบ Safety Test เป็นการสอบวัดระดับก่อนเข้าเรียนของโรงเรียนสอนขับรถค่ะ เป็นข้อสอบที่วัดสภาพจิตใจและภาวะการตัดสินใจของคนขับรถ ซึ่งผู้เขียนสอบได้คะแนนต่ำมากๆ ค่ะ ไม่รู้เป็นเพราะภาวะการตัดสินใจต่ำหรืออ่านข้อสอบไม่ทันกันแน่ แต่ข้อสอบเป็นแบบอ่านง่ายมากค่ะ เพราะว่ามีตัวอักษรฮิรางานะกำกับคำอ่านคันจิให้ทุกตัว ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า ผู้เข้าสอบบางคนก็ยังเป็นน้องๆ มัธยมที่อ่านคำยากๆ ไม่ได้ค่ะ ซึ่งตรงนี้มันดีกับคนต่างชาติที่มักมีปัญหากับการอ่านตัวอักษรคันจิแบบบเรามาก ข้อสอบมีทั้งหมด 8 พาร์ท จะขอรีวิว แค่พาร์ทที่ผู้เขียนจำได้นะคะ

Part 1: คล้ายๆ ข้อสอบตรรกะค่ะ มีรูปเลขาคณิต หรือแถบสีต่างๆ เต็มไปหมด มีรูปตัวอย่าง 1 รูป และมีตัวเลือก 4 ตัวเลือกให้เราเลือกตอบว่ารูปทั้ง4 มีความเหมือนกับรูปตัวอย่างหรือไม่ ช้อยส์ที่ให้ไปถ้านำไปประกอบกับรูปตัวอย่างจะเป็นภาพที่สมบูรณ์ได้มั้ย ซึ่งโจทย์มีประมาณ 10 ข้อ แต่ให้เวลาคิดแค่ 10 วินาที ไม่จำเป็นต้องทำทุกข้อค่ะ ทันแค่ไหนก็แค่นั้น หมดเวลาแล้วต้องวางปากกา

Part 2: พาร์ทนี้ง่ายค่ะ ให้เขียนตัว A ในช่องว่าง ซึ่งช่องว่างแต่ละช่องก็จะมีทั้งช่องเล็กช่องใหญ่ ต้องเขียนตัว A ให้เต็มช่อง และที่สำคัญต้องเขียนแบบตั้งใจ เขียนให้สวยด้วย ตัวที่เขียนเขี่ยๆ ไม่นับคะแนน  ให้เวลา 10 วินาที

Part 3: ให้ตอบรูปเงาที่ถ่ายจากกล้องอินฟาเรดค่ะ ว่าเป็นรูปอะไร ยากมากค่ะอันนี้ คือมันเบลอจนดูไม่ออกว่าเป็นคนหรือสัตว์ ให้เวลา 20 วินาที ตอบให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ไม่จำเป็นต้องตอบทุกข้อ

Part 4: ให้เลือกรูปที่ชอบกับไม่ชอบค่ะ มีตัวเลือกให้เลือก 4 ตัวเลือก แต่ละข้อก็มีรูปที่แตกต่างกันค่ะ เช่น ข้อที่เป็นรูปดอกไม้ก็จะมีทั้งแบบกลีบกลม กลีบแฉก กลีบรูปหัวใจ ตรงนี้ไม่จับเวลาค่ะ แต่ต้องทำทุกข้อ

Part 8: ตอบคำถามแนวจิตวิทยา YES or NO หรือ Not sure เช่น คิดว่าตัวเองเป็นคนเห็นแก่ตัวมั้ย คนรอบข้างบอกว่าคุณเป็นคนน่ารัก เวลาโกรธจะไม่แสดงออกทางสีหน้า พาร์ทนี้สำหรับผู้เขียนยากตรงที่มันเป็นโจทย์ที่ต้องอ่านค่ะ ไม่ใช่ดูรูปภาพเหมือนพาร์ทก่อนๆ ซึ่งการอ่านช้าก็พลอยทำให้ทำไม่ทัน แต่พาร์ทนี้ยังให้ก็ต้องทำให้ได้ทุกข้อค่ะ คุณครูก็เลยทดเวลาให้อ่านต่อ

Part B: พาร์ทนี้ถามเรื่องภาวะการตัดสินใจทั้งในฐานะคนขับและในฐานะที่เป็นผู้โดยสารสลับกันไป เช่น ดึกแล้ว ไม่มีรถวิ่งซักคัน แต่ว่าสัญญาณข้ามถนนยังเป็นไฟแดงอยู่ คุณจะข้ามมั้ย?

หลังจากทำข้อสอบชุดนี้เสร็จ คุณครูจะขานลำดับชื่อแต่ละคนไปเรียนวิธีฝึกขับรถกับรถจำลองค่ะ คล้ายๆ เกมแข่งรถที่จะมีเบาะนั่งและมีจอเสมือนจริงอยู่ หลังจากเสร็จขั้นตอนนี้แล้วก็ออกไปรับผลสอบค่ะ ซึ่งผลสอบของผู้เขียนนั้นภาวะตัดสินใจค่อนข้างออกมาแย่มากๆ ค่ะ ไม่สามารถตัดสินใจในระยะเวลาที่จำกัดได้ ส่วนภาวะจิตใจนั้นได้ A ค่ะ คือไม่ใช่คนขี้ตกใจอะไรประมาณนี้

ผลการทดสอบนี้จะบอกถึงข้อเสียของเราที่มีผลต่อการควบคุมรถ และเราต้องระวังตรงไหนเป็นพิเศษ ผลสอบเหล่านี้จะแปะอยู่ในสมุดประจำตัวนักเรียนของเราไปตลอดจนกว่าจะจบด้วยค่ะ เพราะคุณครูที่นั่งคู่กับเราตอนขับรถจริงจำเป็นต้องดูว่าเรามีภาวะตัดสินใจแบบไหน คุณครูจะได้ระวังถูกค่ะ

แม้ผลการทดสอบจะออกมาไม่ดีอย่างใจคิด แต่ก็ห้ามทิ้งผลสอบเด็ดขาด เพราะว่าหลังจากเรียนจบ ก่อนไปสอบใบขับขี่จริง เราต้องเอาผลสอบนี้ไปให้ตำรวจดูตอนสอบใบขับขี่ แถมยังต้องพกไว้ในรถตลอด 1 ปีแรกที่ได้ใบขับขี่ด้วยค่ะ หากเกิดอุบัติเหตุภายในปีแรกที่ได้ใบขับขี่ ตำรวจจะขอเรียกดูผลสอบนี้เพื่อดูสภาวะจิตใจและการตัดสินใจของเราประกอบด้วย

และนี่ก็คือสิ่งที่ผู้เขียนพบเจอในการสมัครสอบและวัดผลก่อนเข้าเรียนขับรถในโรงเรียนสอนขับรถของญี่ปุ่น เดี๋ยวตอนถัดไปผู้เขียนจะมารีวิวการเรียนในห้องเรียนแบบละเอียดบทต่อบท ไว้เป็นความรู้สำหรับคนไทยที่ต้องไปสอบในศูนย์สอบที่ไม่มีภาษาอื่นให้เลือกเหมือนผู้เขียนนะคะ

[Update] โรงเรียนอนุบาลญี่ปุ่นที่ไม่มีการสอนหนังสือ มีแต่เล่น เล่น และเล่นเท่านั้น | โรงเรียน ใน ญี่ปุ่น – NATAVIGUIDES

อ่านกันมาถึงตรงนี้ อาจจะมีคำถามว่า ทำกันเท่านี้พอเหรอ แล้วไม่กลัวกันเหรอ ตอบยากนะคะ แต่ในเมื่อเรายังกำจัดมันไปไม่ได้ ถ้าจะต้องตีกรอบขีดเส้นไปเสียทุกสิ่ง เราคงกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้ ในเมื่อพวกเราก็ดูแลตัวเองและครอบครัวอยู่บนวินัยเคร่งครัดแล้ว ที่เหลือบางอย่างมันก็ต้องเสี่ยงกัน แต่อย่างที่อธิบายว่า เราเสี่ยงอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและการวิเคราะห์ มันควรจะทำให้เราดำเนินชีวิตประจำวันไปได้ ถึงแม้จะเป็นแบบไม่ปกติจนกลายเป็นเรื่องปกติ ไปจนกว่าจะถึงวันที่เราจะร่ำลาแบบถาวรกับเจ้าไวรัสวายร้ายตัวนี้ และโลกกลับมาเป็น Old Normal เหมือนเดิม

Back to School

Loading…

End of content

No more pages to load


คุณครูฮาร์ดคอร์ : ดูให้รู้ Dohiru (22 มี.ค. 58)


เนอสเซอรี่ที่ฝึกวินัยและความแข็งแกร่งอย่างเข้มข้น สวัสดีเสียงดัง หลังตั้งตรงเป๊ะ วิ่งเต็มฝีเท้า 2 รอบโรงเรียน ถอดเสื้อทนหนาวต่ำกว่า 10 องศา ฝึกยังกับอยู่ค่ายทหาร ฮาร์ดคอร์ขนาดนี้ แต่ 20 ปีที่ผ่านมา มีผู้ปกครองส่งลูกมาเรียน 3 เจเนอเรชั่นแล้ว
ฝึกแบบนี้โหดไปมั๊ย เด็กจะมีความสุขหรือไม่ ไปหาคำตอบพร้อมคุณฟูจิกัน
ติดตามชมรายการดูให้รู้ วันอาทิตย์ที่ 22 มีนาคม 2558 เวลา 17.30 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส หรือรับชมย้อนหลังได้ทาง http://www.thaipbs.or.th/Dohiru
เนอสเซอรี่ที่ฝึกวินัย ฮาร์ดคอร์ dohiru
\r
\r
กด Subscribe \r
ติดตามรายการดีๆของช่อง ได้ที่ : http://goo.gl/hdy2ye\r
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่ \r
\r
Website : http://www.thaipbs.or.th \r
Facebook : http://www.fb.com/ThaiPBSFan \r
Twitter : http://www.twitter.com/ThaiPBS \r
Instagram : http://www.instagram.com/ThaiPBS \r
LINE : http://www.thaipbs.or.th/AddLINE\r
YouTube : http://www.youtube.com/ThaiPBS

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คุณครูฮาร์ดคอร์ : ดูให้รู้ Dohiru (22 มี.ค. 58)

VLOG 1 | A day in my life | เรียนญี่ปุ่น, ดูอนิเมะ, คุยกับเพื่อน, เรียนวิชาต่างๆ


อยากเริ่มทำ vlog เลยคลอดคลิปนี้ขึ้นมาค่ะ!
ーーーAbout me♡ーーー
Name : หงษ์ หยก (Phetnamthip Khajitboon)
Age : 16 (2005)
School: Chumphaesuksa School
Class : M.4/10 EnglishJapanese
Camera : iphone 7
Editing : vllo

VLOG 1 | A day in my life | เรียนญี่ปุ่น, ดูอนิเมะ, คุยกับเพื่อน, เรียนวิชาต่างๆ

เรียนต่อญี่ปุ่นฟรี🇯🇵 มีเงินเดือนให้! รีวิวข้อสอบ+วิธีเตรียมตัวสอบทุนญี่ปุ่น | mow!


สวัสดีค่าาทุกคน วันนี้ใบฝ้ายมาทำคลิปมั่ง หลังจากยังไม่เคยโผล่ตัวในช่องนี้เลย วันนี้ก็เลยจะมารีวิวและแนะนำการสอบทุนรัฐบาลญี่ปุ่นหรือที่รู้จักสั้นๆว่าทุนญี่ปุ่นนั่นเอง🇯🇵🎌 ซึ่งเป็นทุนให้เปล่า เรียนฟรี แถมมีเงินเดือนให้ ไม่ต้องใช้ทุน ถ้าใครสนใจไปชมกันเลยค่า อย่าลืมกดไลค์ คอมเม้น ซับตะไคร้หรือ99สาธุก็ได้ค่า ใครมีคำถามอะไรคอมเม้นถามได้เลยนะคะ

⏰Timestamp:
แนะนำตัว: 0:05
ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นคืออะไร ต้องใช้ทุนมั้ย? : 0:33
ทุนรัฐบาลญี่ปุ่นครอบคลุมอะไรบ้าง: 1:05
ประเภทของทุนรัฐบาลญี่ปุ่น มีทุนแบบไหนบ้าง? 1:47
ทุนญี่ปุ่นระดับป.ตรี เรียนอะไรได้บ้าง?: 2:25
วิธีการสมัครและทามไลน์การรับสมัคร: 3:26
รีวิวข้อสอบข้อเขียนสายศิลป์: 4:30
แนะนำการเตรียมตัวสอบ: 9:42
แนะนำเพิ่มเติมสุดท้าย: 11:53
ลิงค์สมัครทุนรัฐบาลญี่ปุ่นปี 2021
https://www.th.embjapan.go.jp/itpr_th/jis_study.html
ข้อสอบเก่า
https://www.studyinjapan.go.jp/en/planning/scholarship/application/examination/index.html1

🙋🏻‍♀️Contacts:
ใบฝ้าย : https://www.instagram.com/bfpotter_/
มะเหมี่ยว : https://www.instagram.com/nasha.png/
ว่าน : https://www.instagram.com/waanpem/

ย้ายประเทศ ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น ทุนญี่ปุ่น

เรียนต่อญี่ปุ่นฟรี🇯🇵 มีเงินเดือนให้! รีวิวข้อสอบ+วิธีเตรียมตัวสอบทุนญี่ปุ่น | mow!

ทำเมียฝรั่งท้อง!! พี่ภูมิพาเมียฝรั่ง หนีกลับมาไทย PREGNANT


พี่เฟิร์นมี TikTok แล้วน้า กดอันนี้
https://bit.ly/3qnnnqX
ฟอลโล่ Instagram พี่เฟิร์น กดอันนี้
https://bit.ly/3EWJXLl
Fanpage Facebook 108Life กดอันนี้
https://bit.ly/30iAwqG
Facebook ส่วนตัว พี่เฟิร์น
https://bit.ly/3H6i0SZ
Facebook ส่วนตัว พี่อิงค์
https://bit.ly/3wwTdTp

ทำเมียฝรั่งท้อง!! พี่ภูมิพาเมียฝรั่ง หนีกลับมาไทย PREGNANT

10 เรื่องแปลกในโรงเรียนญี่ปุ่นที่ทำให้คุณ ตกใจ !!!


10 เรื่องแปลกในโรงเรียนญี่ปุ่นที่ทำให้คุณ ตกใจ !!!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ โรงเรียน ใน ญี่ปุ่น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *