Skip to content
Home » [NEW] มะเร็งลำไส้ (Colorectal cancer) | การใช้ colon – NATAVIGUIDES

[NEW] มะเร็งลำไส้ (Colorectal cancer) | การใช้ colon – NATAVIGUIDES

การใช้ colon: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

         มะเร็งลำไส้(Colorectal cancer) เป็นมะเร็งที่พบเป็นลำดับที่ 4 ในสหรัฐอเมริกา และในปี 2016 ประมาณการว่าพบผู้ป่วยใหม่ ที่ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ 95,270 ราย/ปี และลำไส้ตรง 39,220 ราย/ปี และในปีเดียวกันพบว่ามีผู้ป่วยเสียชีวิตถึง 49,190 ราย จากมะเร็งลำไส้ใหญ่และลำไส้ตรง
         สำหรับประเทศไทย มะเร็งลำไส้ อุบัติการณ์ของการเกิด มะเร็งลำไส้มากเป็นลำดับที่ 4 เช่นกัน หรือพบผู้ป่วยรายใหม่ 11,496 ราย/ปี อัตราการเสียชีวิต 6,845 ราย/ปี รองจาก มะเร็งตับ, มะเร็งปอด และ มะเร็งเต้านม, ตามลำดับ ซึ่งอัตราการตายในมะเร็งลำไส้นั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อมีการตรวจคัดกรองและป้องกันการเกิดด้วยการตัดติ่งเนื้อ(Polypectomy)ตั้งแต่อาการเริ่มแรกของตัวโรคเริ่มเกิดขึ้น ดังนั้น การทราบถึงปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรค จึงเป็นประโยชน์ ในการที่ทราบถึงกลุ่มเสี่ยง แง่ของการตรวจคัดกรองในกลุ่มต่าง ๆ อีกด้วย

 

ตาม ได้แบ่งกลุ่มเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ออกเป็น 2 กลุ่ม โดยขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงที่ต่างกันโดยปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวมีดังต่อไปนี้

1.    ปัจจัยความเสี่ยงจากตัวบุคคล (Non-modifiable risk factors)
2.    ปัจจัยความเสี่ยงจากสิ่งแวดล้อม (Environmental risk factors) 

 

1.    ปัจจัยความเสี่ยงจากตัวบุคคล (Non-modifiable risk factors)
     
     –    อายุ (Age)
          พบว่าอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่มคนอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป และเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอายุมากกว่า 50 ปี โดย ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้มากกว่า ร้อยละ 90 มีอายุมากกว่า 50 ปี และยิ่งในช่วงอายุ 60-79 ปีพบว่า มีโอกาสเสี่ยงมากถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับกลุ่มคนอายุน้อยกว่า 40 ปี แต่อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน พบผู้ป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ ในกลุ่มคนอายุ 20-49 ปี เพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
 

     –    ประวัติการเกิดมะเร็งลำไส้ในครอบครัว(Family history of colorectal cancer) 
          แม้ว่าผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ส่วนใหญ่จะเกิดในคนที่ครอบครัวไม่มีประวัติการเป็นมะเร็งลำไส้ในครอบครัว แต่ทว่า พบว่ามีโอกาส มากกว่าร้อยละ 20 ในการป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ของคนที่มีประวัติมีผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ในครอบครัว สำหรับเหตุผลยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าอาจเกิดจาการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และ สิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะเหมือนกัน ร่วมกันหลายปัจจัย

     –    การถ่ายทอดทางพันธุกรรม (Inherited Genetic Risk)
          ผู้ป่วยประมาณร้อยละ 5-10 ของมะเร็งลำไส้เป็นผู้ป่วยที่เกิดจากการถ่ายทอดทางพันธุกรรม ได้แก่ Familial adenomatous polyposis (FAP), Hereditary nonpolyposis colorectal cancer (HNPCC) หรือ Lynch syndromeในผู้ป่วย FAP ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1 ของผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ทั้งหมด สาเหตุเกิดจากการ mutation ของ APC tumor suppressor gene ถ่ายทอดผ่าน Autosomal dominant manner  โดย มาปรากฏด้วยอาการติ่งเนื้อในลำไส้มากกว่า 100 เม็ดขึ้นไป มักปรากฏตั้งแต่อายุยังน้อย และกลายเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย หากอายุ 40 ปีขึ้นไปโดยมากมักกลายเป็นมะเร็งลำไส้เกือบทั้งหมดหากไม่ได้รับการผ่าตัด  ฉะนั้นการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่ตั้งครรภ์ จึงจำเป็นในกรณีที่สามีภรรยา มีประวัติเป็น FAP และต้องการมีบุตร

          ในส่วนของ ผู้ป่วย HNPCC หรือ Lynch syndrome คิดเป็นร้อยละ 2-6 ของมะเร็งลำไส้ สาเหตุเกิดจากการ mutation ใน MLH1 และ MLH2 gene DNA repair pathway  ตลอดช่วงชีวิตมีโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ สูงถึง ร้อยละ 70-80 และอายุเฉลี่ยของการเกิดมะเร็งลำไส้อยู่ที่ประมาณ 40-50 ปี และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อื่นๆได้อีก เช่น มดลูก, กระเพาะ, ลำไส้เล็ก, ตับอ่อน, ไต, ท่อทางเดินปัสสาวะ ได้

ในส่วนของ ผู้ป่วย HNPCC หรือ Lynch syndrome คิดเป็นร้อยละ 2-6 ของมะเร็งลำไส้ สาเหตุเกิดจากการ mutation ใน MLH1 และ MLH2 gene DNA repair pathway  ตลอดช่วงชีวิตมีโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้ สูงถึง ร้อยละ 70-80 และอายุเฉลี่ยของการเกิดมะเร็งลำไส้อยู่ที่ประมาณ 40-50 ปี และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งที่อื่นๆได้อีก เช่น มดลูก, กระเพาะ, ลำไส้เล็ก, ตับอ่อน, ไต, ท่อทางเดินปัสสาวะ ได้

 

     –    ประวัติการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้ (Personal history of Adenomatous polyp)

          ประวัติติ่งเนื้อในลำไส้ที่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้ Neoplastic polyp อันได้แก่ tubular และ villous adenomas ซึ่งเป็นรอยโรคที่สามารถกลายเป็นมะเร็งลำไส้ได้ในอนาคต  ผลสำรวจในสหรัฐอเมริกาพบว่าในช่วงชีวิต มีโอกาสที่จะเกิดติ่งเนื้อได้ ร้อยละ 19 และ ร้อยละ 95 ของ ผู้ป่วยมะเร็งลำไส้แบบ Sporadic มีการเกิดจาก adenomatous polyp สำหรับการพัฒนาการเกิดมะเร็งลำไส้จากติ่งเนื้อนั้น ใช้ระยะเวลา 5-10 ปี ดังนั้นหากเราตรวจพบและรักษาตั้งแต่ติ่งเนื้อจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ได้ แต่อย่างไรก็ตามการมีประวัติการเกิดติ่งเนื้อในลำไส้แบบ Neoplastic polyp ได้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ในตำแหน่งอื่น ๆ ของลำไส้เพิ่มขึ้นด้วย

             –    ประวัติการเกิดลำไส้อักเสบ(Personal history of Inflammatory bowel disease)
          ลำไส้อักเสบเรื้อรัง(Inflammatory bowel disease)สามารถแบ่งเป็นโรคได้สองโรค คือ Ulcerative colitis และ Crohn disease ในส่วนของ  Ulcerative colitis สาเหตุเกิดจากการอักเสบ ในส่วนของ mucosa ของลำไส้ แต่สำหรับ Crohn disease สาเหตุเกิดจาก การอักเสบตลอดชั้นของลำไส้ บางส่วนเกิดการอักเสบได้ที่ปากและทวารหนัก ซึ่งการเกิดการอักเสบของลำไส้ทั้งสองโรคนี้เพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งลำไส้มากขึ้น 4-20 เท่า ดังนั้นในผู้ป่วยที่ป่วยเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรังจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจคัดกรองโรคถี่ขึ้นเป็นพิเศษ

 

2.    Environmental risk factor

          มะเร็งลำไส้ มี ความเสี่ยงหลายปัจจัยจากสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่นมีการเก็บข้อมูลของผู้ย้ายถิ่นฐานจากประเทศที่ มีอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้ต่ำไปยังประเทศที่มีอัตราการเกิดมะเร็งลำไส้สูง พบว่า อัตราการเกิดมะเร็งเพิ่มขึ้นตามกลุ่มคนที่อยู่ในประเทศนั้นด้วย ปัจจัยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมต่างมีดังต่อไปนี้

          –    อาหาร (Nutritional Practices)

          อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญหนึ่งในการเกิดมะเร็งลำไส้ การกินอาหารที่มีไขมันสูง โดยเฉพาะไขมันจากสัตว์ เป็นปัจจัยหนึ่งที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ โดยการ degrade ตัว bile salt ด้วย แบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ องค์ประกอบของ N-nitroso compound การบริโภคเนื้อสัตว์ สัตว์เนื้อแดง ในปริมาณสูง เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ โดยการ ย่อยสลาย Heme iron ในเนื้อแดง นอกจากนี้ การปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิสูง เช่น การปิ้งย่าง เป็นผลทำให้เกิด heterocyclic amines และ poly aromatic hydrocarbon ซึ่งสารประกอบทั้งคู่ ล้วนมีคุณสมบัติเป็นสารก่อมะเร็ง มีบางงานวิจัยพบว่าในคนที่กินผักผลไม้น้อยเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ เพิ่มการ transit time ทำให้อุจจาระค้างอยู่ในลำไส้นานขึ้น

          –    การออกกำลังกายและน้ำหนักเกิน (Physical activity and obesity)

          มีรายงาน การออกกำลังกายและน้ำหนักมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงของ มะเร็งลำไส้ เมื่อออกกำลังกายและการเพิ่ม Metabolic rate จะส่งผลให้ ลำไส้มีการทำงานมากขึ้น เคลื่อนตัวมากขึ้น มีการเพิ่มการใช้งาน ออกซิเจน  ผลในระยะยาวจะทำให้ ความดันในร่ายกายลดลง insulin resistant ลดลง และ ยังส่งผลในเรื่องของน้ำหนักตัวที่ลดลงด้วย ผลที่ตามมาจากการที่นำหนักตัวลดลง ทำให้ Estrogen ในเลือดลดลงจากการที่ซึ่ง Estrogen เชื่อว่าการมีในระดับสูงจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งขึ้น

 

   

          –    การสูบบุหรี่ (Cigarette smoking)

          ความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ กับ มะเร็งปอด นั้นมีรายงานออกมาชัดเจน และ ในส่วนของมะเร็งลำไส้นั้นพบว่า ร้อยละ 12 ของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากมะเร็งลำไส้นั้นสูบบุหรี่ พบว่ามีความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการเกิดและเจริญเติบโตขึ้นของ Adenomatous polyp การสูบบุหรี่ในระยะยาวพบว่า มีความสัมพันธ์กับ Adenomatous polyp ขนาดใหญ่

 

          –    การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ (Heavy alcohol consumption)

          การบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้เช่นกันกับการสูบบุหรี่ ผลลัพท์ที่ได้จากการย่อยสลาย แอลกอฮอล์ คือ Acetaldehyde ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่ง ซึ่งการบริโภคแอลกอฮอล์ร่วมกับการสูบบุหรี่ จะมีผลเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งมากขึ้น โดย บุหรี่จะกระตุ้นให้เกิดการ mutation ของ DNA และ แอลกฮอล์จะไปยับยั้งกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ทำให้ทำงานได้ไม่ดี อีกทั้งแอลกฮอล์เป็นตัวทำละลายสามารถเข้าสู่เซลล์ ได้ง่ายและเป็นตัวกระตุ้นก่อให้เกิดมะเร็ง และยังทำให้เพิ่มการสร้าง Prostaglandins, Lipid peroxidation และ เพิ่ม Free radical oxygen อีกด้วย

 

         การทราบถึงปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ ช่วยในการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง อีกทั้งช่วยในการเฝ้าระวังในกลุ่มที่มีความเสี่ยง และ การเริ่มการคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง ดังนั้นการออกกำลังการการกินอาหาร และการระวังไม่ให้น้ำหนักเกิน จึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิด และช่วยลดอัตตราตายและผลกระทบที่เกิดจากมะเร็งลำไส้ได้อีกด้วย

[NEW] การใช้เครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ (punctuation) | การใช้ colon – NATAVIGUIDES

# การใช้เครื่องหมายวรรคตอน (punctuation)

punctuation

สิ่งสำคัญในการเขียนภาษาอังกฤษที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการรู้แกรมม่าร์ รู้ศัพท์ เข้าใจโครงสร้างประโยค ก็คือการใช้เครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้อง เพราะมันอาจทำให้ความหมายในประโยคเปลี่ยนได้ หรือบ่งบอกทักษะการเขียน ของคุณได้เลย เพราะการเขียนในภาษาอังกฤษมันไม่ใช่แค่การรู้คำศัพท์แล้วเอาศัพท์นั้นมา เรียงต่อๆกันให้เป็นประโยคเพียงเท่านั้น มันมีกฎเกณฑ์ และรายละเอียดที่ลึกซื้งลงไปมากกว่านั้นค่ะ
เอาล่ะค่ะ!! จะขออธิบายแค่เครื่องหมายวรรคตอนที่สำคัญๆนะคะ

1.  full stop / period (.)
ปกติเราใช้ full stop ในกรณีดังนี้
1.1 ไว้เวลาเราเขียนจบประโยค ยกเว้นประโยคคำถามและอุทาน
1.2 เขียนไว้หลังอักษรย่อ หรือคำย่อ เช่น etc. a.m.

2. comma (,)
เครื่องหมายนี้มีการใช้ที่เยอะพอสมควรและสำคัญไม่น้อย มาดูกันค่ะ
2.1 ใช้แยกคำหรือกลุ่มคำที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน ส่วนมากก็จะเป็นการยกตัวอย่างต่างๆ หรือการแจงรายละเอียด รายการต่างๆ เช่น

  • My favorite hobbies are reading novel, watching movies, listening to music and sleeping.
  • You should concentrate and participate in class, take note, and study hard before exam in order to get good marks.

2.2 ใช้คั่นหน้าและหลังกลุ่มคำหรืออนุประโยคที่ขยายคำนามข้างหน้า เช่น

  • Barack Obama, President of the United States, will come to Thailand next month.
    (กลุ่มคำ President of the United States เป็นคำขยายนาม Barack Obama ว่าเป็นใคร)
  • The Royal Hotel, which was built in 1990, will be reconstructed next year.
    (อนุประโยค which was built in 1990 มาขยายคำนาม The Royal Hotel) ในกรณีนี้ต้องเป็นคำนามเฉพาะเจาะจงนะคะ ถ้าเป็นนามทั่วไป ไม่ต้องใส่ comma ค่ะ

2.3 ใช้คั่นประโยค 2 ประโยคที่มีคำเชื่อม co-ordinate conjunction (and, but, or, so, for, yet,…) เช่น

  • It’s raining, so I won’t go out.

แต่ถ้าเป็นประโยคสั้นๆ ไม่ต้องใส่ก็ได้ เช่น

  • I went in and he went out.

ในกรณีที่คำเชื่อมเป็น subordinate conjunction (although, when, while, if, unless, etc.) ถ้ามันขึ้นต้นประโยคให้ใช้ comma คั่นตรงกลาง แต่ถ้าคำพวกนี้อยู่กลางประโยคไม่ต้องใส่ comma เช่น

  • If you call him, he may come. (if ขึ้นต้นประโยค ต้องใช้ comma คั่นตรงกลางระหว่าง 2 ประโยค)

แต่ถ้า if อยูตรงกลางแบบนี้  He may come if you call him. ไม่ต้องใส่ comma

3. semicolon (;)
3.1 เราใช้ semicolon ในการเชื่อมประโยคสองประโยค ที่ไม่มีคำเชื่อมใดๆมาเชื่อมและสองประโยคนี้ก็มีความหมายที่เกี่ยวเนื่องกัน เช่น
ยกตัวอย่างคล้ายประโยคก่อนหน้านี้ คือ

  • It’s raining; I won’t go out.  (ประโยคด้านบนมี so มาเชื่อมเราจึงใช้ comma แต่ประโยคนี้ไม่ได้ใส่คำเชื่อมใดๆเลย เราสามารถใส่ semicolon ได้ค่่ะ และเนื้อความของ 2 ประโยคนี้ก็เกี่ยวเนื่องเป็นเหตุเป็นผลกันด้วย)

4. colon (:)
4.1 เราใช้ colon ในการแจ้งรายการหรือรายละเอียด เราใส่ colon ไว้หน้าประโยคหลัก เพื่อนำเข้าสู่รายการหรือลำดับขั้นตอนต่างๆ เช่น

  • Our company has set three goals for this year: to spread the products to Europe market, to increase 5% in sale volume, and to develop new products.

4.2 ใช้ colon ก่อนประโยคอธิบาย เช่น

  • The situation in Ethiopia is very serious: many people died because of starve.
    (ประโยค many people died…มาอธิบายประโยคก่อนหน้าว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น)

*** จากรูปภาพ จะเห็นว่าแค่เปลี่ยนเครื่องหมายวรรคตอน ความหมายในประโยคก็เปลี่ยน

อาจารย์สอนภาษาอังกฤษเขียนประโยคนี้บนกระดานดำ
A woman without her man is nothing.
แล้วให้นักเรียนออกไปใส่เครื่องหมายวรรคตอนให้ถูกต้อง
นักเรียนชายออกไปเขียนว่า
A woman, without her man, is nothing.
ผู้หญิงที่ปราศจากผู้ชายจะมีความหมายอะไร
(ใช้ comma คั่นหน้าหลัง กลุ่มคำ without her man เพื่อขยายคำนาม A woman)

แต่นักเรียนหญิงออกไปเขียนว่า
A woman: without her, man is nothing.
ผู้หญิงน่ะนะ หากปราศจากเธอ ผู้ชายก็ดูไร้ค่า

เห็นมั๊ยคะ!! ว่า punctuation มีความสำคัญขนาดไหน ^^

** ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่านกันนะคะ สำหรับใครที่กำลังฝึกเขียนภาษาอังกฤษอยู่ ^^

…อย่าลืมติดตามกันได้ในเพจ English 360 องศา


การใช้ Semicolon ในการเชื่อมประโยค | ภาษาอังกฤษวันละนิด By Yes iStyle


วันนี้ครูโรสจะมาสอนการใช้ Semicolon ในการเชื่อมประโยค
ติดตามได้ที่ :
Facebook: Yes iStyle
Youtube: Yes iStyle
www.yesistyle.co.th
Yes iStyle เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา
ติดต่อสปอนเซอร์
▸ Email : [email protected]
ครูโรส ภาษาอังกฤษวันละนิด YesiStyle

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

การใช้ Semicolon ในการเชื่อมประโยค | ภาษาอังกฤษวันละนิด By Yes iStyle

แอพฯไล่ยุงได้จริงมั้ย? ยาฉีดกันยุงกันได้นานเท่าไหร่ [ก็มาลองกันเลยดิค้าบ EP.1] | Sketolene


สั่งซื้อสกีโทลีน ได้ที่ https://www.lazada.co.th/sketolene/?exlaz=d_1:mm_150050845_51350204_2010350204::13:903949655!106916298360!!!dsa428749876531!m!!!!448824721141!83810736006\u0026gclid=EAIaIQobChMIlPfIhNzC7QIV_4dLBR1dOwL5EAAYAyAAEgLOG_D_BwE
เพื่อนๆเคยสงสัยกันมั้ยครับว่า พวกแอพพลิเคชันไล่ยุง หรือที่เขาบอกว่ากินกระเทียม หรือพริกไทย มันกันยุงได้จริงหรือเปล่า พวกเราสงสัยครับ
ถ้าสงสัยแล้วจะรออะไรล่ะครับ ก็ไปลองกันเลยดิค้าบ

ชอบกด like ใช่กด share ถ้าคุณแคร์โปรดกด subscribe

FACEBOOK:
https://www.facebook.com/DOMteams/
ติดตามพวกเราได้ที่
https://www.instagram.com/domteamwork
https://www.instagram.com/dumdotdom
https://www.instagram.com/cosmic___white

ติดต่อเรา
Tel.0990101879
Tel.0947691412
Email: [email protected]

ก็มาลองกันเลยดิค้าบ สกีโทลีนมายุงกระจาย DOM

แอพฯไล่ยุงได้จริงมั้ย? ยาฉีดกันยุงกันได้นานเท่าไหร่ [ก็มาลองกันเลยดิค้าบ EP.1] | Sketolene

Who’s at risk for colon cancer? – Amit H. Sachdev and Frank G. Gress


Check out our Patreon page: https://www.patreon.com/teded
View full lesson: https://ed.ted.com/lessons/whosatriskforcoloncanceramithsachdevandfrankggress
Colon cancer is one of the leading causes of cancer and cancer death in the world. It is also one of the most preventable types of cancer, as it often takes about ten years for a small polyp to grow and develop into a cancerous one. So who’s at risk? And how can people be screened? Amit H. Sachdev and Frank G. Gress share some of the best ways to prevent colon cancer.
Lesson by Amit H. Sachdev and Frank G. Gress, animation by GoodJobStudios.
Thank you so much to our patrons for your support! Without you this video would not be possible! Martin Lõhmus, Patrick leaming, Ded Rabit, Heather Slater, Dr Luca Carpinelli, Janie Jackson, Jeff Hanevich, Christophe Dessalles, Arturo De Leon, Delene McCoy, Eduardo Briceño, Bill Feaver, Ricardo Paredes, Joshua Downing, Jonathan Reshef, David Douglass, Grant Albert, Paul Coupe, Jen, Megan Whiteleather, Adil Abdulla, Steven LaVoy, Mayank Kaul, Ryohky Araya, vivian james, Tan YH, Brittiny Elman, Mayra Urbano, Ruth Fang, Miami Beach Family, Kostadin Mandulov, KyoungRok Jang, Alex Schenkman, Hachik Masis Bagdatyan, Sdiep Sriram, and Ivan Todorović.

Who's at risk for colon cancer? - Amit H. Sachdev and Frank G. Gress

Usage Of Colon | English | Grade-4,5 | Tutway |


UsageofColon
This video is part of a playlist having the following videos. Watch all of them in sequence for a better learning experience.
Enjoy learning 🙂
Video No.1: Punctuation(Part1) Capitalization and use of Period
https://youtu.be/5OIWd7A0Z6o
Video No.2: Punctuation(Part2) |Period, Question Mark, Exclamation Mark
https://youtu.be/RnUuRAHZ9JA
Video No.3: Using Apostrophe
https://youtu.be/OfNMsrz9Aw
Video No.4: Usage Of Question MarkPart1
https://youtu.be/oiVrAnZhK5I
Video No.5: Usage Of Question Mark Part2
https://youtu.be/yakNPXHO2l8
Video No.6: Rules for Using Commas (Part 3)
https://youtu.be/gnaikjslsho
Video No.7: Usage of Comma, Inverted Comma, and Apostrophe
https://youtu.be/LHHdMjXUy8
Video No.8: Usage Of Hyphen
https://youtu.be/sr2dglU4feg
Video No.9: Usage Of Colon
https://youtu.be/EiUciRaXZ1I
Video No.10: Usage Of SemiColon
https://youtu.be/BLRTH4RpOyo
Video No.11: Three Types of DashHyphen(), Endash (–), Emdash(—)
https://youtu.be/Yjr7wYr8IHQ
Topics Covered:
COLON
• Usage of colon
• Examples of using colon
• Punctuation rules of using colon
I hope you liked our video.
Kids should spend time watching informative videos and expand their knowledge day by day.
Kids retain what they see in audiovisual lessons so make them watch informative videos rather than cramming things.
If you want to learn any topic, please free to write to us, we will upload the video to help you out as soon as possible.
We can also create a customized u tube playlist for the topics you want to learn.
Your feedback is important to us.
Stay connected with us:
[email protected]
YouTube: https://www.youtube.com/channel/UCLKeqwBmYvEBpAiUOmkIQw
Facebook: https://www.facebook.com/tutway/
https://www.tutway.com/
About us:
Welcome to Tutway.
A unique platform where learning is fun.
Now there is no distinction between kids’ fun time and study time.
At Tutway, we believe in a very simple idea that audiovisual learning is the most effective tool for grasping knowledge. Many researchers have proven that kids learn a lot by playing interactive games and watching audiovisual animated lessons as compared to reading from books.
That’s when Tutway comes to the rescue.
Tutway is a supplementary education program where kids can learn at their own pace. The students can watch animated videos that are so meticulously made that they can understand even the most complex concepts very easily. There is a question bank at the end of each video where students can answer those questions multiple times and test whether they have grasped knowledge completely or not.
We have information systems embedded in the program where parents can monitor realtime performance of their kids and get up to date information about their performance, including quizzes attempted and the marks got in each quiz, both in tabular and graphical formats. Regular reports are emailed to the parents so that the parents can analyze their kids’ performance.
If we want to learn highlevel concepts, we should have a clear understanding of the basic concepts. For instance, if kids don’t know about addition and subtraction, they cannot do multiplication, and if they don’t know about multiplication, they cannot do division, and if they don’t have knowledge of these four basic operations, Algebra cannot be done by them, and it goes on and on.
The same applies to the English language if kids don’t have sound knowledge of grammar and vocabulary; it becomes extremely difficult for them to have their communication skills.
Knowledge of the scientific concepts is also required for observing physical, chemical, biological phenomena happening all around us.
That is why; Tutway has thousands of animated videos on Maths, English, and Science to clear the basics of these subjects. It perfectly suits most of the educational needs of most of the students, regardless of their learning abilities.
So hurry up, download the Tutway app and book a freedemo class to make education interactive and fun experience.

Usage Of Colon | English | Grade-4,5 | Tutway |

semicolon กับ colon ใช้อย่างไร


เว็ปอดัม: http://www.ajarnadam.com
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

semicolon กับ colon ใช้อย่างไร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การใช้ colon

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *