Skip to content
Home » [NEW] ฝึกภาษาอังกฤษกับ “50 ประโยคคำถาม-คำตอบพื้นฐาน” ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน | ประโยค คํา ตอบ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] ฝึกภาษาอังกฤษกับ “50 ประโยคคำถาม-คำตอบพื้นฐาน” ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน | ประโยค คํา ตอบ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ประโยค คํา ตอบ ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

การเรียนรู้ประโยคถามตอบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีลัดที่จะสามารถช่วยให้คนที่เริ่มเรียนภาษา สามารถเข้าใจในภาษาได้ง่ายยิ่งขึ้น บทความนี้ผมก็มี 50 ประโยคคำถาม-คำตอบพื้นฐาน มาฝาก ให้เพื่อนๆได้เอาไปเรียนรู้ภาษาอังกฤษเบื้องต้นกันครับ

 

talking1

 

Personal Information

Q1 : What’s your name ? (คุณชื่ออะไร)
A1 : Peter. (ปีเตอร์)

Q2 : Where are you from ? / Where do you come from ? (คุณมาจากที่ไหน)
A2 : I’m from … / I come from … (ฉันมาจาก…)

Q3 : What’s your surname ? / What’s your family name ? (คุณนามสกุลอะไร)
A3 : Smith. (สมิธ)

Q4 : What’s your first name ? (คุณชื่ออะไร)
A4 : Tom. (ทอม)

Q5 : What’s your address ? (ที่อยู่ของคุณคือที่ไหน)
A5 : 7865 NW Sweet Street (7865 นอร์ธเวสต์ ถนนสวีท)

Q6 : Where do you live ? (คุณอาศัยอยู่ที่ไหน)
A6 : I live in San Diego. (ฉันอาศัยอยู่ที่ซาน ดิเอโก)

Q7 : What’s your telephone number ? (โทรศัพท์ของคุณหมายเลขอะไร)
A7 : 209-786-9845

Q8 : How old are you ? (คุณอายุเท่าไร)
A8 : Twenty-five. / I’m twenty-five years old. (25 / ฉันอายุ 25 ปี)

Q9 : When were you born ? / Where were you born ? (คุณเกิดเมื่อไหร่ / คุณเกิดที่ไหน)
A9 : I was born in 1961 / I was born in Seattle. (ฉันเกิดในปี ค.ศ.1961 / ฉันเกิดที่ซีแอตเติ้ล)

Q10 : Are you married ? / What’s your marital status ? (คุณแต่งงานหรือยัง / สถานภาพการสมรสของคุณเป็นอย่างไร)
A10 : I’m single. (ฉันยังโสด)

Q11 : What do you do ? / What’s your job ? (คุณทำอาชีพอะไร)
A11 : I’m a librarian. (ฉันเป็นบรรณารักษ์)

Q12 : Where did you go ? (คุณไปที่ไหนมา)
A12 : I went to a friend’s house. (ฉันไปที่บ้านเพื่อนมา)

Q13 : What did you do ? (คุณได้ทำอะไรไป)
A13 : We played video games. (เราเล่นวีดีโอเกมส์)

Q14 : Where were you ? (คุณเคยอยู่ที่ไหนที่ผ่านมา)
A14 : I was in New York for the weekend. (ฉันอยู่ที่นิวยอร์กตอนสุดสัปดาห์)

Q15 : Have you got a car / job / house / etc.? (คุณมีรถ / งาน / บ้าน ฯลฯ หรือไม่)
A15 : Yes, I’ve got a good job. (ใช่ ฉันมีงานที่ดีทำ)

Q16 : Have you got any children / friends / books / etc. ? (คุณมีบุตร / เพื่อน / หนังสือ ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A16 : Yes, I’ve got three children – two boys and a daughter. (ใช่ ฉันมีบุตร 3 คน เป็น ชาย 2 คน หญิง 1 คน

Q17 : Can you play tennis / golf / football / etc.? คุณเล่นเทนนิส / กอล์ฟ / ฟุตบอล / ฯลฯ เป็นหรือไม่
A17 : Yes, I can play golf. (ใช่ ฉันเล่นกอล์ฟได้)

Q18 : Can you speak English / French / Japanese / etc. ? (คุณพูดภาษาอังกฤษ/ ฝรั่งเศส / ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้หรือไม่)
A18 : No, I can’t speak Japanese. (ไม่ ฉันพูดญี่ปุ่นไม่ได้)

Q19 : Could you speak English / French / Japanese / etc. ? when you were five / two / fifteen / etc. years old ? (คุณพูดภาษาอังกฤษ / ฝรั่งเศส / ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้หรือไม่ เมื่อตอนคุณอายุ 5 / 2 / 15 / ฯลฯ ปี)
A19 : Yes, I could speak English when I was five years old. (ใช่ ฉันพูดภาษาอังกฤษได้เมื่ออายุ 5 ขวบ)

 

talking4

 

Saying Hello

Q20 : How do you do ? (คุณสบายดีไหม)
A20 : How do you do. Pleased to meet you. (ยินดีที่ได้พบคุณ)

Q21 : How are you ? (คุณสบายดีไหม)
A21 : Fine, thanks. And you ? (สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ)

Shopping (หมวดการช็อปปิ้ง)

Q22 : How can I help you ? / May I help you ? (คนขาย – จะให้ฉันช่วยอะไรบ้างหรือไม่)
A22 : Yes, I’m looking for a sweater. (คนซื้อ – ได้ ฉันกำลังมองหาเสื้อสเวตเตอร์)

Q23 : Can I try it on ? (คนซื้อ – ขอฉันลองได้ไหม)
A23 : Sure, the changing rooms are over there. (คนขาย – ได้แน่นอน ห้องลองเสื้ออยู่ด้านนั้น)

Q24 : How much does it cost ? / How much is it ? (คนซื้อ – ราคาเท่าไร)
A24 : It’s $45. (คนขาย – 45 ดอลล่าร์)

Q25 : How would you like to pay ? (คนขาย – คุณต้องการชำระเงินแบบไหน)
A25 : By credit card. (คนซื้อ – จ่ายด้วยบัตรเครดิต)

Q26 : Can I pay by credit card / check / debit card ? (คนซื้อ – ฉันสามารถชำระเงินด้วยบัตรเครดิต / เช็ค / บัตรเดบิต ได้หรือไม่)
A26 : Certainly, We accept all major cards. (คนขาย : ได้แน่นอน เรารับบัตรเครดิตยี่ห้อหลักๆ ทุกยี่ห้อ)

Q27 : Have you got something bigger / smaller / lighter / etc. ? (คนซื้อ – คุณมีตัวที่ใหญ่กว่า / เล็กกว่า / เบากว่า / ฯลฯ หรือไม่)
A27 : Certainly, we’ve got a smaller sizes as well. (คนขาย – มีแน่นอน เรามีขนาดที่เล็กกว่านี้ด้วย)

 

Talking3

 

Asking Something Specific

Q28 : What’s that ? (นั่นคืออะไร)
A28 : It’s a cat. (มันคือแมว)

Q29 : What time is it ? (ตอนนี้เวลาเท่าไร)
A29 : It’s three o’clock. (3 นาฬิกา)

Q30 : Can / May I open the window ? (ฉันขอเปิดหน้าต่างได้หรือไม่)
A30 : Certainly, It’s hot in here. (ได้แน่นอน ที่นี่มันร้อน)

Q31 : Is there a bank / supermarket / pharmacy / etc. near here ? (มีธนาคาร / ซูเปอร์มาเก็ต / ร้านขายยา / ฯลฯ อยู่ใกล้ๆ แถวนี้บ้างหรือไม่)
A31 : Yes, There is a bank on the next corner next to the post office. (มี ธนาคารอยู่ตรงมุมถนนถัดไป ติดกับที่ทำการไปรษณีย์)

Q32 : Where is the nearest bank / supermarket / pharmacy / etc.? (ธนาคาร / ซูเปอร์มาเก็ต / ร้านขายยา / ฯลฯ ที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ไหน)
A32 : The nearest pharmacy is on 15th street. (ร้านขายยาที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ถนนหมายเลข 15)

Q33 : Who wrote / invented / painted / etc. the …? (ใครคือผู้เขียน / ประดิษฐ์ / วาด / ฯลฯ…)
A33 : Hemingway wrote “The Sun Also Rises”. (เฮมิงเวย์เขียนหนังสือ “The Sun Also Rises”)

Q34 : Is there any water / sugar / rice / etc. ? (มีน้ำ / น้ำตาล / ข้าว ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A34 : Yes, there’s a lot of sugar left. (มี น้ำตาลมีเหลืออยู่จำนวนมาก)

Q35 : Are there any apples / sandwiches / books / etc. ? (มีแอปเปิ้ล / แซนด๋วิช / หนังสือ / ฯลฯ บ้างหรือไม่)
A35 : No, there aren’t any apples left. (ไม่ ไม่มีแอปเปิ้ลเหลืออยู่เลย)

Q36 : Is this your / his / her / etc. book / ball / house / etc. ? (นี่คือหนังสือ / ลูกบอล / บ้าน / ฯลฯ ของคุณ / ของเขา / ฯลฯ ใช่หรือไม่)
A36 : No, I think it’s his ball. (ไม่ใช่ ฉันคิดว่ามันเป็นลูกบอลของเขา)

Q37 : Whose is this / that ? (สิ่งนี้ / สิ่งนั้น เป็นของใคร)
A37 : It’s Jack’s. (มันเป็นของแจ๊ค)

 

talking2

 

Questions with ‘Like’

Q38 : What do you like ? (คุณชอบอะไร)
A38 : I like playing tennis, reading and listening to music. (ฉันชอบเล่นเทนนิส, อ่านหนังสือ และฟังเพลง)

Q39 : What does he look like ? (เขามีลักษณะเป็นอย่างไร)
A39 : He’s tall and slim. (เขาสูงและผอม)

Q40 : What would you like ? (คุณชอบอะไร)
A40 : I’d like a steak and chips. (ฉันชอบสเต็กและมันฝรั่งทอด)

Q41 : What is it like ? (มันมีลักษณะเป็นอย่างไร)
A41 : It’s an interesting country. (มันเป็นประเทศที่น่าสนใจประเทศหนึ่ง)

Q42 : What’s the weather like ? (มันมีอากาศเป็นอย่างไร)
A42 : It’s raining at the moment. (ตอนนี้ฝนกำลังตก)

Q43 : Would you like some coffee / tea / food ? (คุณต้องการจะรับกาแฟ / ชา / อาหาร บ้างหรือไม่)
A43 : Yes, thank you. I’d like some coffee. (ใช่ ขอบคุณ ฉันต้องการกาแฟ)

Q44 : Would you like something to drink / eat ? (คุณต้องการจะรับเครื่องดื่ม / อาหาร บ้างหรือไม่)
A44 : Thank you. Could I have a cup of tea ? (ขอบคุณ ฉันขอชาสักถ้วยได้หรือไม่)

 

talking5

 

 

Asking for an Opinion

Q45 : What’s it about ? (มันเกี่ยวกับอะไร)
A45 : It’s about a young boy who encounters adventures. (มันเกี่ยวกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งเผชิญเรื่องผจญภัย)

Q46 : What do you think about your job / that book / Tim / etc. ? (คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับงานของคุณ / หนังสือเล่มนั้น / ทิม / ฯลฯ)
A46 : I thought the book was very interesting. (ฉันคิดว่าหนังสือเล่มนั้นน่าสนใจมาก)

Q47 : How big / far / difficult / easy is it ? (มันใหญ่ / ไกล / ยาก / ง่าย ขนาดไหน)
A47 : The test was very difficult. (ข้อสอบยากมาก)

Q48 : How big / far / difficult / easy are they ? (มันใหญ่ / ไกล / ยาก / ง่าย ขนาดไหน)
A48 : The questions were very easy. (คำถามง่ายมาก)

Q49 : How was it ? (มันเป็นอย่างไรบ้าง)
A49 : It was very interesting. (มันน่าสนใจมาก)

Q50 : What are you going to do tomorrow / this evening / next week / etc. ? (คุณจะทำอะไรในวันพรุ่งนี้ / เย็นนี้ / สัปดาห์หน้า / ฯลฯ)
A50 : I’m going to visit some friends next weekend. (ฉันจะไปเยี่ยมเพื่อนตอนสุดสัปดาห์หน้า)

 

Suggestions

Q51 : What shall we do this evening ? (เราจะทำอะไรกันดีตอนเย็นนี้)
A51 : Let’s go see a film. (ไปดูหนังกันเถอะ)

Q52 : Why don’t we go out / play tennis / visit friends / etc. this evening ? (ทำไมเราไม่ออกไปข้างนอก / เล่นเทนนิส / ไปเยี่ยมเพื่อน / ฯลฯ กันตอนเย็นนี้)
A52 : Yes, that sounds like a good idea. (ใช่ ฟังดูเข้าท่าดีทีเดียว)

 

ข้อมูลจาก: MyFirstBrain

ร่วมแสดงความคิดเห็น…

[NEW] วิธีตอบคำถามในการสนทนา และโทนเสียงการพูดภาษาอังกฤษ | ประโยค คํา ตอบ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

การสนทนาจะเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่คู่สนทนาว่าจะสามารถสร้างบรรยากาศได้ดีแค่ไหน จริงอยู่ในการสนทนาพูดคุยกันนั้น ผู้ถามมีบทบาทสำคัญกว่าผู้ตอบ คือสามารถจะทำให้การสนทนาเป็นไปอย่างไร เรื่องใดและนานแค่ไหน ผู้ถามจะเป็นผู้นำ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบก็มีความสำคัญเช่นกัน คือคำตอบหรือการตอบอาจเป็นตัวชี้ได้ว่า การสนทนาจะดำเนินต่อไปหรือไม่ ดังนั้น นอกจากจะได้เรียนรู้วิธีถามอย่างถูกต้องแล้ว ก็ควรรู้วิธีตอบที่ถูกต้องเหมาะสมด้วยเช่นกัน
จากตัวอย่างประโยคต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วนั้น จะเห็นว่ามีวิธีตอบ คำถามหลายอย่าง หลายประการ ตามชนิดของคำถามต่างๆ ในที่นี้จะกล่าวถึงวิธีตอบคำถามอีกแบบหนึ่ง โดยเน้นความยาวของประโยคเป็นสำคัญ ซึ่งจำแนกออกเป็น 3 ระดับ คือ
1. คำตอบแบบสั้น (Short Answer)
2. คำตอบแบบปานกลาง (Medium Answer)
3. คำตอบแบบยาว (Long Answer)
คำตอบแบบต่างๆ นี้มีความสำคัญต่อการสนทนามาก คือ ถ้าตอบสั้นเกินไป อาจจะทำให้ผู้ถามเข้าใจว่าผู้ตอบไม่พอใจหรือไม่เต็มใจที่จะตอบหรือพูดคุยด้วย ดังนั้น จึงอาจเลิกถามหรือพูดคุยไปเลย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
A: What’s your name?
คุณชื่ออะไร
B: Vichai.
วิชัย
A: Where are you from?
คุณมาจากไหน
B: Khon Kaen.
ขอนแก่น
A: How old are you?
คุณอายุเท่าไร
B: Twenty five.
25 ปี
A: Are you a student?
คุณเป็นนักศึกษาใช่ไหม
B: No.
เปล่า
จากตัวอย่างที่กล่าวมานี้ เป็นคำตอบที่สั้นที่สุด คือตอบเพียงคำเดียว ซึ่งถือว่าไม่เหมาะแก่การพูดคุยสนทนา ผู้ถามคงไม่อยากจะถามต่อไปอีก ฉะนั้น การสนทนาก็คงจะสิ้นสุดลงแค่นั้น และถ้าตอบยาวเกินไป คือถามเพียงเรื่องเดียว กลับตอบอย่างยืดยาว เพื่อให้รายละเอียดผู้ถามอาจจะเห็นว่าเป็นการประชด ไม่เต็มใจให้ถามในเรื่องอื่นๆ ต่อไป จึงแกล้งตอบเสียยืดยาว ตัวอย่างเช่น
A: What’s your name?
คุณชื่ออะไร
B: My name is Vichai Jaidee. I come from Khon Kaen.
I am twenty-five years old. I am a teacher. I…
ฉันชื่อวิชัย ใจดี มาจากขอนแก่น อายุ 25 ปี เป็นครู
ฉะนั้น เพื่อให้การสนทนาดำเนินต่อไป เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย ผู้ตอบควรจะตอบให้เหมาะสม คือมีความยาวปานกลาง อาจจะมีคำอื่นเสริมบ้าง เพื่อให้เห็นว่า ไม่ห้วนจนเกินไปและไม่ยาวจนน่าเบื่อ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
A: What’s your name?
คุณชื่ออะไร
B: My name’s Vichai Jaidee.
ฉันชื่อวิชัย ใจดี
A: Where are you from?
คุณมาจากไหน
B: I’m from Khon Kaen.
ฉันมาจากขอนแก่น
A: How old are you?
คุณอายุเท่าไร
B: I’m twenty-five.
อายุ 25 ปี
A: Are you a student?
คุณเป็นนักศึกษาใช่ไหม
B: No. I’m a teacher.
เปล่า. ฉันเป็นครู
การตอบขนาดปานกลางนี้จะทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างราบรื่น ทำให้การสนทนามีชีวิตชีวา คือดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนเป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่าย แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะใช้วิธีและขนาดได้เหมาะสมแล้ว ก็ต้องคำนึงถึงกาละเทศะนั้นๆ ด้วย คือบางวิธีบางขนาดอาจไม่เหมาะกับสถานการณ์หนึ่ง แต่อาจเหมาะกับอีกสถานการณ์หนึ่งก็ได้ ฉะนั้น จะใช้วิธีใด ขนาดใดเหมาะสม ก็อยู่ที่ดุลยพินิจของผู้พูดเอง
เสียงสูงต่ำ (Intonation)
ภาษาอังกฤษมีระบบเสียงสูงต่ำ แต่ละคำในประโยคจะมีเสียงสูงต่ำ ไม่เท่ากัน แม้ประโยคเหมือนกันหรืออย่างเดียวกัน ถ้าระดับเสียงแตกต่างกัน ทำให้ความหมายต่างกันไปด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ว่า เสียงสูงต่ำมีความสำคัญมากในภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะในการสนทนาในแต่ละส่วนละตอนของประโยคมีระดับเสียงไม่เหมือนกัน แต่ในที่นี่จะกล่าวเฉพาะเสียงสูงต่ำท้ายประโยคเท่านั้นหรือห้ายข้อความ ซึ่งประโยคแต่ละชนิดมีเสียงสูงตํ่าท้ายประโยคแตกต่างกัน ระดับเสียงท้ายประโยคจำแนกออกเป็น 3 ชนิด คือ
1. เสียงลงต่ำ(Falling)↘
2. เสียงขึ้นสูง (Rising)↗
3. เสียงตรง (Straight) →
ระดับเสียงต่างๆ นี้ใช้กับประโยคต่างชนิดกัน ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. เสียงลงต่ำ (Falling)
โดยทั่วไปแล้วประโยคจะมีเสียงลงท้ายต่ำลง เป็นการแสดงถึงการ สิ้นสุด ข้อความประโยคที่มีเสียงเช่นนี้มีหลายชนิด ซึ่งแยกออกอย่างกว้างๆ ได้ 2 ชนิด คือ
-ประโยคบอกเล่า ปฏิเสธ คำสั่ง ซึ่งถือว่าเป็นธรรมดาที่สุด คือใช้ โดยทั่วๆ ไป เช่น
She is very beautiful.↘
There are ten members of this group.↘
I don’t understand what you said.↘
He won’t come tomorrow.↘
Sit down.↘
Close the window.↘
Don’t tell him about me.↘
Don’t be late for the meeting.↘
-ประโยคถาม Wh-Question และ Alternative Question ประโยค คำถามสองชนิดนี้ใช้เสียงลงท้ายประโยค เช่น
Who is that?↘
What’s your surname?↘
Where are you from?↘
What time will we arrive there? ↘
How many students are you teaching? ↘
Will you stay with him or come with me?↘
Is she a nurse or teacher?↘
Does your sister or brother study at Krirk?↘
2. เสียงขึ้นสูง (Rising)
ชนิดของประโยคที่ลงท้ายด้วยเสียงขึ้นสูงนี้มีไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม อาจแยกกว้างๆ ได้ 2 ชนิด คือ
-ประโยคคำถาม Yes/No Question และ Tag Question ถือว่าเป็นประโยคหลักของการออกเสียงชนิดนี้ เช่น
Is she very beautiful?↗
Do you understand what I told?↗
Didn’t he attend class?↗
Won’t you go to work today?↗
He comes from Australia, doesn’t he?↗
You can do it yourself, can’t you?↗
It isn’t very costly, is it?↗
-ประโยคบอกเล่าซึ่งแสดงถึงความสงสัย และรายชื่อสิ่งต่างๆ ใน ประโยค และท้ายประโยคหน้าซึ่งเป็นตอนหนึ่งของประโยค เช่น
Oh, I am late.↗
He passed the exams.↗
There are three courses here: Conversationfwriting,↗Writing↗and Translation.↘
Do you want to take tea,↗coffee↗or Coca-Cola?↘
If it is ready, we will go now.↘
He is a good man, but no one believes him.↘
3. เสียงตรง (Straight)
การลงเสียงชนิดนี้ใช้กับข้อความที่ยังไม่จบประโยค คือยังจะพูดต่อไป หรือใช้กับประโยคยาวๆ เพื่อหยุดเป็นตอนๆ เพื่อพักหายใจหรือแยกความเป็นตอนให้เข้าใจง่าย เช่น
I want to go now → (because I have many things to do).
I don’t know → (where he comes from).
He said that → (he didn’t understand).
Yes, → she is.
You should take Conversation and Writing courses, → and then take Translation course.
เสียงสูงตํ่าเหล่านี้ นอกจากใช้กับประโยคแล้ว ยังสามารถใช้กับคำหรือวลีด้วย เพื่อให้กลายเป็นประโยคหรือเป็นส่วนของประโยคได้ เช่น
Your book หรือ Yes อาจจะมีการลงเสียงได้หลายอย่าง ทำให้ประโยคแตกต่างกันดังนี้
Your book↘ มีความหมายเป็นประโยคบอกเล่าว่า นี้หนังสือคุณ
Your book↗ มีความหมายเป็นคำถามว่า หนังสือคุณใช่ไหม
Your book → ยังไม่จบประโยค อาจจะมีคำอื่นตามมา เช่น is here.
Yes ↘ มีความหมายเป็นการตอบรับโดยทั่วไป
Yes↗  ตอบรับแล้วอาจจะถามต่อว่า ใช่, มีอะไรหรือ
Yes → มีความหมายยังไม่หมดประโยค อาจมีคำตามมา เช่น it is.
อย่างไรก็ตาม บางประโยคอาจจะออกเสียงสูงต่ำแตกต่างไปจาก หลักเกณฑ์ที่กล่าวแล้ว ทำให้ความหมายแตกต่างออกไป ซึ่งมีตัวอย่างดัง ต่อไปนี้
-ประโยคคำถาม Alternative ลงเสียงต่ำท้ายประโยค แต่สามารถ ขึ้นเสียงได้ ความหมายกลายเป็นคำถาม Yes/No ต้องการคำตอบ Yes/No ดังที่กล่าวแล้วในตอนต้น เช่น
Do you like tea or coffee?↗
Yes./No.
คุณชอบชาหรือกาแฟไหม
Will she take Writing or Reading?↗
Yes./No.
เธอจะเรียนการเขียนหรือการอ่านไหม
-ประโยคคำถาม Wh-Question อาจจะลงเสียงท้ายประโยคสูงขึ้น ได้ ในกรณีต่อไปนี้ เพื่อเป็นการเอ็นดู ซึ่งผู้มีอายุถามเด็กๆ ด้วยความรัก ความเอ็นดู เช่น What’s your name?↗ Where are you from?↗ และ เพื่อเป็นการย้อนคำถามเมื่อฟังไม่ชัดเจน ต้องการถามว่าตนถูกถามเช่นนั้น ใช่หรือไม่ เช่น
A: Who is she?↘
เธอเป็นใคร
B: Who is she?↗
เธอเป็นใครใช่ไหม
A: Yes.
ใช่
B: She is my secretary.↘
เธอเป็นเลขานุการของฉันเอง
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา

(Visited 5,747 times, 1 visits today)


คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรื่องสัตว์ต่างๆ พร้อมวีดีโอรูปภาพและคำอ่าน | เหมาะสำหรับอนุบาลและเด็กเล็ก


คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ในหมวดสัตว์ต่างๆ พร้อมวีดีโอรูปภาพและคำอ่าน | เหมาะสำหรับอนุบาลและเด็กเล็ก
เพื่อเสริมทักษะความรู้และประสบการณ์ใหม่ๆ
วิชาการทั้ง คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิทยาศาสตร์ และอื่นๆๆอีกมากมาย
อย่าลืมกดติดตาม Subscribe WAWA kids art กันนะค่ะ
เกมทายประโยชน์ของสัตว์ตามคำใบ้ https://youtu.be/YpSoUZLTOv0
เกมทายสัตว์พาหะนำโรคตามคำใบ้ https://youtu.be/L0AMS3lsg8Y
เล่นทำอักษร ก ไก่ ฮ นกฮู ด้วยแป้งโด การ์ตูนน่ารักๆ หัดอ่าน พยัญชนะไทย | Learn Thai Alphabet https://youtu.be/bxRPh7p_z24
Play ice cream cups, learn colors, count numbers.เล่นถ้วยไอสครีม เรียนรู้สี นับเลข คำศัพท์ภาษาอังกฤษ https://youtu.be/ya60cjKLCVg
Learn color through art Win surprise eggs. เรียนรู้สีผ่านงานศิลปะ ลุ้นไข่เซอร์ไพรส์ เรียนรู้คำศัพท์ https://youtu.be/4feixRAqFdY
เกมทายพืชผักสวนครัวตามคำใบ้ https://youtu.be/utGeGU2sVUA
เสียงสัตว์ 50 เสียง พร้อมวีดีโดรูปภาพประกอบ https://youtu.be/ysWyXa3sHVo

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เรื่องสัตว์ต่างๆ พร้อมวีดีโอรูปภาพและคำอ่าน | เหมาะสำหรับอนุบาลและเด็กเล็ก

ฝึกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ มีตัวอย่างคำตอบ


ติดตาม Facebook Fanpage ครูเชอรี่ English Bright
https://www.facebook.com/cherry.englishbright
https://www.englishbright.net

ฝึกสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษ มีตัวอย่างคำตอบ

10คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE


คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
ในคลิปนี้เรามาจะมาดูคำถามพร้อมกับตัวอย่างคำตอบของการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษกัน เพื่อช่วยให้เราเข้าใจคำถามสัมภาษณ์งานและ ฝึกตอบคำถามเหล่านั้น เราจะฝึกออกเสียงไปพร้อมๆกัน เพื่อช่วยทำให้เราออกเสียงได้ถูกต้อง และ ทำอย่างไรเพื่อให้เราได้งานที่เราต้องการ

เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

10คําถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างคำตอบ  เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE

ฝึกพูด ถาม-ตอบ 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน พร้อมคำอ่าน สำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ประโยคคำถาม คำตอบ 40 ประโยค
ฝึกออกเสียงประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน พร้อมคำอ่าน สามารถนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย เจอบ่อยในชีวิตประจำวัน ประโยคอังกฤษถามตอบเรื่องใกล้ตัว ง่ายๆ ฟังบ่อยๆ จะได้เข้าใจเวลาฝรั่งพูด ฟังชาวต่างชาติรู้เรื่อง สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น พัฒนาทักษะการฟังและการพูดภาษาอังกฤษ โดยการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/\r
\r
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary\r
\r
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ\r
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/\r
\r
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม\r
https://instagram.com/ajtonamorn\r
\r
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100%

ฝึกพูด ถาม-ตอบ 40 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน พร้อมคำอ่าน สำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

ประโยคคำถาม| Do you…? | คำตอบ ภาษาอังกฤษ | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


ประโยคคำถามที่ขึ้นต้นด้วย do you แปลว่าคุณจุดหมายมาดูตัวอย่างประโยคคำถามและก็ตัวอย่างการตอบคำถามที่ขึ้นต้นด้วย do you นะคะ

ประโยคคำถาม| Do you...? | คำตอบ ภาษาอังกฤษ | เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ประโยค คํา ตอบ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *