Skip to content
Home » [NEW] ทั้งหมดเกี่ยวกับ Passive Voice ฉบับจัดเต็ม พร้อมอธิบายละเอียดสุดๆ! | passive voice ตัวอย่างประโยค – NATAVIGUIDES

[NEW] ทั้งหมดเกี่ยวกับ Passive Voice ฉบับจัดเต็ม พร้อมอธิบายละเอียดสุดๆ! | passive voice ตัวอย่างประโยค – NATAVIGUIDES

passive voice ตัวอย่างประโยค: คุณกำลังดูกระทู้

Passive Voice คืออะไร แล้วมีหลักการใช้ยังไงบ้าง บทความเดียวนี้จะช่วยคุณหาทุกคำตอบเกี่ยวกับ Passive Voice ตั้งแต่หลักการใช้  Passive Voice ครบทั้ง 12 Tenses มาฝากกัน รับรองว่าเรียนได้อย่งกล้วยๆ จดจำได้ง่าย ใช้งานได้ดีแน่นอน

Table of Contents

Passive Voice คืออะไร??

สำหรับ Passive Voice จะมีหลายๆ การอธิบาย แต่วันนี้ Eng Breaking จะสรุปให้คุณเข้าใจง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Passive-Voice พร้อมตัวอย่างประโยคให้เห็นภาพได้ชัดดังนี้

เมื่อคุณเจอประโยคหนึ่งที่มีโครงสร้างของประโยคที่ประธาน “เป็นผู้ถูกกระทำ” นั้นจะเป็นประโยค Passive-Voice  เช่น

You should do your homework. แปลว่า  คุณควรทำการบ้าน

แต่ถ้าเปลี่ยนประโยคนั้นเป็นประโยค passive voice เราสามารถเขียนเป็นแบบนี้เลย Your homework should be done. แปลว่า การบ้านของคุณควรทำ เห็นไหมคะ ในประโยคนนี้ “homework” จะเป็นสี่งที่ถูกระทำ คือจพได้ทำให้เสร็จเรียบร้อยโดย “Your” หมายถึง คุณนะคะ แต่ในบ้างกรณีอย่างที่บอกแล้วว่า passive-voice นั้นจะเน้น ผู้ถูกกระทำ ดังนั้นใครเป็นคนทำไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะรู้ๆกันโดยนัยนะคะ

ถ้าพูดถึง passive voice ในภาษาอังกฏษเราก็ต้องพูดถึง Active Voice คือประธานเป็น “ผู้กระทำ” เอง หรือพูดง่ายๆ ก็คือประโยคโครงสร้างแบบปกติที่เราใช้กัน เช่น

– Mary walks to school every Monday. (แมรี่ “เดิน” เอง)
– The teacher asked students to discuss the topic. (คุณครู “สั่ง” เอง)

รายละเอียดเกี่ยวกับความแตกต่างระกว่าง passive-voice และ Active Voice เดี๋ยวจะได้เขียนรายละเอียดในส่วนต่อไปนะคะ เพื่อช่วยให้คุณแยกให้ออกประโยคไหนคือ passive-voice และ ประโยคไหนเป็น Active Voice.

ตัวอย่างเกี่ยวกับ passive voice

  • My son was bitten by a dog จะเห็นเลยว่าในประโยคนี้ประธานเป็นผู้ที่ถูกกระทำคือ My son แต่ถ้าเราใช้เป็นประโยคแบบว่า A dog bit my son ประธานจะเปลี่ยนเป็น A dog เป็ยสีงที่กระทำ ดังนั้น My son was bitten by a dog เป็นประโยค passive voice ส่วน A dog bit my son เป็นปรพะโยค Active Voice.

ยกตัวอย่างเพิ่มเพื่อให้เห็นภาพรวมได้ง่ายเกี่ยวกับเรื่องของ passive voice ดังนี้

  • The cheese cake was eaten เป็น ประโยค passive-voice  (Tom ate the

    cheesecake

    เป็น ประโยค Active Voice.)

  • His letter hasn’t been read yet  เป็น ประโยค passive voice   (Mina hasn’t read his letter yet เป็น ประโยค Active Voice.)
  • The report will be finished soon เป็น ประโยค passive-voice   (He will finish the report soon เป็น ประโยค Active Voice.)

โครงสร้าง Passive Voice

เคยสงสัยกันไหมว่าประโยค Passive-Voice มีรูปร่าง หน้าตาเป็นอย่างไร ทำอย่างไรเพื่อสังเกตประโยคนั้นๆ เป็นประโยค Passive Voice ? คำตอบจะมีดังต่อไปนี้

โครงสร้าง passive-voice หลักๆเลย  จะต้องมี Verb to be กำกับด้วยเสมอ (is, am, are, was, were, been) เขียนเป็นแบบนี้นะคะ V. to be + V.3  เห็นไหมคะในโครงสร้างประโยคนี้ส่วนคำนามที่อยู่ข้างหน้านั้น “โดนกระทำ” เช่น

– Eric read the novel in one day. แปลว่า Eric อ่านนิยายจบในวันเดียว นี่เป็นประโยคActive เพราะในประโยคนี้เน้นคำนามที่เป็นคนทำ คือ Eric เป็นผู้กระทำ
– แต่ถ้าเขียนตามโครงสร้างของ Passive เราจะมีประโยคอื่น คือ  The novel was read in one day. แปลว่า นิยายอ่านจบภายในวันเดียว ในประโยคนี้เน้นที่คำนามที่ถูกกระทำ คือหนังสือ และเข้าใช่กันเองว่าผู้กระทำคือ คนๆ หนึ่ง ไม่ใช่สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เหมือนที่พูดด้านบนนะคะ

โครงสร้าง Passive Voice ใน tense ต่างๆ

ถ้าโครงสร้าง Passive-Voice จะเป็นแค่ V. to be + V.3  มันคงง่ายแล้วใช้ไหมคะ แต่ในไวยากรณ์ภาษาอังกฏษมีทั้งหทด 12 tense เลยนะคะ ถ้าเรียนไม่หมด แต่ก็ต้องเลือก tense ที่สำคัญๆ มา 5-7  tense  มักจะใช้บ่อยมาเรียนรู้กันเลยนะคะ เพื่อแก้ปัญหาคือเจอความสับสน ซับซ้อนของ Passive-Voice จะยังเกิดขึ้นเมื่อมันไปอยู่ใน tense ต่างๆ ทำให้หลายคนเริ่มมองไม่ออกว่าสรุปนี่คือ “โครงสร้าง Passive” รึเปล่านะ?

ไปดูโครงสร้าง Passive-Voice ในแต่ละ tense พร้อมกับ Eng Breaking กันดังต่อไปนี้ มีทั้งประโยคสรุปสั้นๆ และตารางให้เห็นชัดเลยนะคะ รับรองเข้าใจทั้งง่าย เข้าใจทั้งเร็ว ทั้ง Happy กับการเรียนภาษาอังกฏษด้วยตัวเองนะคะ

1. Present Simple (Passive): is/am/are + V.3
ในนั้นส่วน is/am/are คือหน้าตาของ V. to be ใน Present Simple

2. Present Con. (Passive): is/am/are + being +V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย เพื่อให้โครงสร้าง Present Con. ยังเหมือนเดิมคือ V. to be + V.ing

3. Present Perfect (Passive): has/have been + V.3
ในนั้นส่วน ของเดิม has/have + V.3 เลย เพราะงั้นต้องผัน V. to be ให้เป็น V.3 แทนก็คือ been เพื่อให้โครงสร้างหลักยังเป็น has/have + V.3 เหมือนเดิม แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

4. Past Simple (Passive): was/were + V.3
ในนั้นส่วน was/were คือหน้าตาของ V. to be ใน Past Simple (คือผัน V. to be ให้เป็นช่อง 2 ตามโครงสร้าง Past Simple ที่เป็น V.2)

5. Past Con. (Passive): was/were + being + V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย และไม่ต้องผันเป็นอดีต เพราะข้างหน้า (was/were) ผันไปแล้ว

6. Past Perfect (Passive): had been + V.3
ในนั้นส่วน ผัน V. to be ให้เป็น V.3 คือ been แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

7. Future Simple (Passive): will be + V.3
ในนั้นส่วน แค่เพิ่ม be + V.3 ไปตามหลัง will ที่ใช้ be เพราะตามหลัง will ต้องใช้ V.ไม่ผัน (ของ V. to be ก็คือ be)

8. Future Con. (Passive): will be + being + V.3
ในนั้นส่วน Con. ต้องมี V.ing เพราะฉะนั้นเลยต้องเติม being ลงไปด้วย

9. Future Perfect (Passive): will have been + V.3
ในนั้นส่วน ผัน V. to be ให้เป็น V.3 คือ been แล้วค่อยตามด้วย V.3 ของ Passive

สรุปเป็นตารางให้จดจำได้ง่ายๆ ตามนี้

โครงสร้าง passive voice ของ Present TenseSimS + is am are + V3ConS + is am are + being + V3PerS + have has + been + v3Per ConS + have has + been + being + V3

โครงสร้าง passive voice ของ Past TenseSimS + was were + v3ConS + was were + being + V3PerS + had + been + v3Per ConS + had + been + being + V3

โครงสร้าง passive voice ของ Future TenseSimS + will + be + V3ConS + will + be + being + V3PerS + will + have + been + v3Per ConS + will + have + been + being + V3

สรุปหลักการผันโครงสร้าง Passive

– ต้อง keep โครงสร้างเดิมไว้ด้วย
– ต่อท้ายเพิ่มโครงสร้าง Passive โดยถ้าต้องผัน จะผันที่ V. to be แทน (V.3 ข้างหลังไม่ต้องแตะค่ะ)

เชื่อว่าหลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจแน่ๆ ถ้าอย่างนั้นเราไปดูตัวอย่างประโยคทั้ง Active และ Passive Voice กันค่ะ

Passive Voice ต่างจาก Active Voice ยังไง?

ความแตกต่างของ Active กับ Passive Voice ขอแยกเป็นหัวข้อย่อยตามตาราง แยกออกระหว่าง โครงสร้างประโยค, จุดเด่นของ V. และ ความหมาย ดังต่อไปนี้

โครงสร้างประโยคPassive VoiceActive Voice S + V. to be + V.3 (สำคัญคือต้องมี V. to be + V.3 ที่แสดงความเป็น Passive)S + V (ประธาน + กริยา)

จุดเด่นของ V.Passive VoiceActive VoiceV ผันได้ แต่ต้องอยู่ในโครงสร้าง V. to be + V.3 เสมอ (เพื่อคงความเป็น Passive ไว้)V ผันตาม tense ได้ปกติ

ความหมายPassive VoiceActive VoiceS + V. to be + V.3 = ประธาน “โดนกระทำ” S + V = ประธาน “ทำกริยา”

สรุปง่ายๆ เพื่อจดจำได้นาน เกี่ยวกับเรื่อง Passive Voice ต่างจาก Active Voice ยังไง ตามนี้นะคะ

  • PASSIVE VOICE หมายถึง ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ 
  • ACTIVE VOICE หมายถึง ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำหรือแสดงกริยาโดยตรง
  • วิธีจำง่าย Active ทำเอง Passive ถูกท นะคะ จำได้แล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ

วิธีการเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice

เราสามารถเปลี่ยนประโยคหนึ่งจาก Active Voice เป็น Passive Voice ได้ตามคำแนะนำดังต่อไปนี้นะคะ

  • นำกรรมในประโยค Active เปลี่ยนไปเป็นประธานของประโยค Passive
  • ใช้ Verb to be ให้ถูกต้อง คล้อยตามประธาน
  • เปลี่ยนคำกริยาแท้ให้เป็น กริยาช่อง 3 (Verb3)
  • นำประธานของประโยค Active ไปเป็นกรรมของประโยค Passive โดยวางไว้หลัง by

ตัวอย่าง Active Voice เป็น Passive Voice ที่ใช้ใน Tense ต่างๆ

Present Simple Tense

  • Active: John writes a book. แปลว่า John เขียนหนังสือ จากนั้นรู้เลยว่า ประธานคือ John เป็นผู้กระทำ
  • Passive: That book is written by John. แต่สำหรับประโยคนี้จะเห็นเลยว่าประธานคือ หนังสือที่ได้เขียนมาโดย John. ดังนั้น หนังสือเป็นสิ่งที่ถูกกระทำ

Past Simple Tense

  • Active: John wrote that book last year. แปลว่า John เขียนหนังสือเล่มนั้นเมื่อปีที่แล้ว
  • Passive: That book was written by John last year. แปลว่า หนังสือเล่มนั้นเขียนโดยจอห์นเมื่อปีที่แล้ว

Future Simple Tense

  • Active: John will write a book next year. แปลว่า จอห์นจะเขียนหนังสือในปีหน้า
  • Passive: That book will be written by John next year. แปลว่า หนังสือเล่มนั้นจะเขียนโดยยอห์นในปีหน้า

Present Continuous Tense

  • Active: John is writing a book. แปลว่า John กำลังเขียนหนังสือ
  • Passive: A book was being written by John. แปลว่า หนังสือเล่มหนึ่งกำลังเขียนโดย John

ตัวอย่างของ Passive Voice ในข้อสอบ Toeic

ตัวอย่างข้อสอบที่มักจะเจอบ่อยๆ ในข้อสอบ Toeic เรื่องของ passive voice พร้อมเฉลย

That novel __________ (write) by a famous artist.

สำหรับข้อที่ 1 นี้เราควรจะใช้คำว่า “was written” ประโยคสมบูรณ์คือ 

That novel was written by a famous artist. แปลว่านิยายเรื่องนั้นเขียนโดยศิลปินชื่อดัง

The milk ____________ (deliver) every day.

สำหรับข้อที่ 2 นี้เราควรจะใช้คำว่า “is delivered” ประโยคสมบูรณ์คือ

The milk is delivered every day. แปลว่า น้ำนมได้ส่งมาทุกวัน

 His car needs __________ (repair).

สำหรับข้อที่ 3 นี้เราควรจะใช้คำว่า “reparing/to be repaired” ประโยคสมบูรณ์คือ

 His car needs reparing/to be repaired. แปลว่า รถของเขาต้องการการซ่อมแซม

ตัวอย่างข้อสอบที่มักจะเจอบ่อยๆ ในข้อสอบ Toeic เรื่องของ passive voice

เปลี่ยนประโยคต่อไปนี้เป็น passive voice แต่ความหมายไม่เปลี่ยน

1. Mr. James teaches them vocabularies. แปลว่า Mr. James สอนคำศัพท์ให้พวกเขา

passive voice: They are taught vocabularies by Mr. James แปลว่า พวกเขาได้รับการสอนคำศัพท์โดย Mr. James

2. You should do your homework. แปลว่า  คุณควรทำการบ้าน

passive voice: Your homework should be done. แปลว่า การบ้านของคุณควรทำ

3. This bill includes service. แปลว่า บิลนี้รวมค่าบริการ

passive voice: Service is included by this bill. แปลว่า ค่าบริการรวมอยู่ในใบเรียกเก็บเงินนี้

4. Nobody told him that his parents came back. แปลว่า  ไม่มีใครบอกเขาว่าพ่อแม่กลับมา

passive voice: He wasn’t told that his parents came back. แปลว่า เขาไม่ได้บอกให้รู้ว่าพ่อแม่กลับมา

5. They used this fans all day. แปลว่า  พวกเขาใช้พัดลมนี้ทั้งวัน

passive voice: This fans were used all day. แปลว่า พัดลมนี้ได้เอามาใช้ไปทั้งวัน

หลักการใช้ passive voice

  • passive voice ก็คือ การนำกรรมของประโยค active voice มาเป็นประธานของประโยคนั่นเอง หรือเข้าใจได้ง่ายๆ คือ หลักการใช้ Passive Voice คือ ใช้เน้นผู้ถูกกระทำ ไม่เน้นผู้กระทำนั่นเอง  
  • บางที่ Passive voice อาจอยู่ในรูปประโยคปฏิเสธ  เช่น This coffee isn’t made by Bob. แปลว่า กาแฟแก้วนี้ไม่ได้ถูกชงโดยบ๊อบ หรือคำถามก็ได้ เช่น  Is this coffee made by Tom? แปลว่า กาแฟแก้วนี้ถูกชงโดยทอมรึเปล่า?
  • นอกจากนั้นแล้ว เราก็สามารถใช้ passive voice ในรูปของ tense อะไรก็ได้ ตามสถานการณ์การใช้ของเรา

ว่าอย่างไรบ้างคะเพื่อนๆ สำหรับเรื่องไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ Passive Voice รู้แล้วใช่ไหมคะว่า Passive Voice คืออะไร หลักการใช้งานเป็นอย่างไรโดยตารางที่ช่วยให้จดจำได้ง่ายขึ้น  โครงสร้าง ประโยค อธิบายละเอียดสุดๆ จาก Eng Breaking ของเรา Passive voice นิยมใช้ทั้งในภาษาพูดและภาษาเขียน โดยเฉพาะในภาษาหนังสือพิมพ์จะใช้บ่อยมากเลยอย่าพลาดกับส่วนไวยากรณ์ภาษาอังกฏษที่สำคัญนี้ และอย่าลืมติดตามเพื่อแชร์ประสบหการณ์ในการเรียนการสอนภาษาอังกฤษกันนะคะ ไว้เจอกันในบทความต่อไป อย่าพลาดนะคะ

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[NEW] เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ | passive voice ตัวอย่างประโยค – NATAVIGUIDES

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที 

แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

จะเปลี่ยนจากประโยค Active Voice เป็น Passive Voice ทำยังไงดี? เมื่อไหร่ควรใช้ประโยค Passive Voice? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยทริคจาก Globish ที่จะทำให้คุณไม่ต้องท่องจำ และใช้เวลาเพียง 5 นาที คุณก็สามารถใช้ Passive Voice ได้อย่างมือโปร

 

ในภาษาอังกฤษ มี Active และ Passive Voice เพื่อบอกว่าใครทำอะไร หรือใครที่กำลังถูกกระทำ แต่ถ้าอธิบายเพียงเท่านี้ อาจจะทำให้งง วันนี้ Globish เลยจะพามาดูวิธีใช้เจ้า Active และ Passive Voice อย่างละเอียด 

 

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่อง Active และ Passive Voice บอกเลยว่าช่วยได้มากค่ะ

 

ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก

 

5 ข้อต้อง “ข้าม” เมื่อเริ่มฝึกภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษผิดไม่รู้ตัว 12 ข้อผิดพลาดที่คนมักใช้ผิด

ฝึกจับใจความภาษาอังกฤษ ด้วยทฤษฎี GTM

 

Active Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง เช่น



My mother bought that car. (แม่ของฉันซื้อรถคันนั้น)


My mother เป็นประธาน ทำกริยา (bought) โดยตรง



Jane cooked dinner yesterday. (เจนทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้)


Jane เป็นประธาน ทำกริยา (cooked) โดยตรง

 

Passive Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา เช่น



That car was bought by my mother. (รถคันนั้นถูกซื้อโดยแม่ของฉัน)


That car เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (bought)



Dinner was cooked by Jane yesterday. (อาหารเย็นถูกทำโดยเจนเมื่อวานนี้)


Dinner เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (cooked)

 

รูปแบบของ Passive Voice

Passive voice ในภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่  


to be + กริยาช่อง 3 (Past Participle)

 

การเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice ตาม Tense

V. ย่อมาจาก Verb

 

 

ตัวอย่าง

 

Present Simple:

Jane feeds the dog. ➜ The dog is feeded by Jane.

 

Present Continuos:

Jane is feeding the dog. ➜ The dog is being feeded by Jane.

 

Present Perfect:

Jane has feeded  the dog. ➜ The dog has been feeded by Jane.

 

Present Perfect Continuous:

Jane has been feeding  the dog. ➜ The dog has been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Past Simple:

Jane feeded the dog. ➜ The dog was feeded by Jane.

 

Past Continuos:

Jane was feeding the dog. ➜ The dog was being feeded by Jane.

 

Past Perfect:

Jane had feeded  the dog. ➜ The dog had been feeded by Jane.

 

Past Perfect Continuous:

Jane had been feeding  the dog. ➜ The dog had been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Future Simple:

Jane will feed the dog. ➜ The dog will be feeded by Jane.

 

Future Continuos:

Jane will be feeding the dog. ➜ The dog will be being feeded by Jane.

 

Future Perfect:

Jane will have feeded  the dog. ➜ The dog will have been feeded by Jane.

 

Future Perfect Continuous:

Jane will have been feeding the dog. ➜ The dog will have been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

can, could สามารถ:

Jane can feed the dog. ➜ The dog can be feeded by Jane.

Jane could feed the dog. ➜ The dog could be feeded by Jane.

 

may, might อาจจะ:

Jane may feed the dog. ➜ The dog may be feeded by Jane.

Jane might feed the dog. ➜ The dog might be feeded by Jane.

 

must, ought to ควรจะ:

Jane must feed the dog. ➜ The dog must be feeded by Jane.

Jane ought to feed the dog. ➜ The dog ought to be feeded by Jane.

 

have to, has to ต้อง:

Jane has to feed the dog. ➜ The dog has to be feeded by Jane.

They have to feed the dogs. ➜ The dogs have to be feeded by them.

 

 

ไม่อยากท่องจำ Passive Voice ทำไงดี?

 

อันดับแรกเลย ต้องจำโครงสร้างแต่ละ Tense ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อนำโครงสร้าง Tense มาบวกกับโครงสร้างของ Passive Voice นั่นก็คือ to be + V.3 (Past Participle) โดยตัว be จะต้องบวกกับ Verb แท้ แล้วผันตามรูปของมัน นั่นก็คือ

 

Verb infinitive ของ be

be


Verb ช่อง 1 ของ be

is, am are


Verb ช่อง 2 ของ be

was, were


Verb ช่อง 3 ของ be

been

 

 และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือโครงสร้างประโยค Passive Voice ที่ผันตาม Tense ต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

 

ตัวอย่าง

 

 

 

กริยาที่ใช้กับ Passive Voice ไม่ได้

 

1) กริยาที่ไม่ต้องกรรมมารองรับ (Intransitive Verb) เช่น

act แสดง

explode ระเบิด

arrive มาถึง

go ไป

come มา 

laugh หัวเราะ

lie โกหก

continue ดำเนินการต่อ

cry ร้องไห้

run วิ่ง

die ตาย

swim ว่ายน้ำ

immigrate อพยพ

respond โต้ตอบ

sing ร้องเพลง

sit นั่ง

smile ยิ้ม

 

นอกจาก Intransitive Verb ยังมี Verb ประเภทอื่น ๆ อีกนะคะ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง คลิกเลย

 

2) กริยาพิเศษ ได้แก่

has มี

fit พอดี

suit เหมาะสม

lack ขาดแคลน

 

3) กริยาที่มีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” ได้แก่

is, am, are เป็น, อยู่, คือ

smell ได้กลิ่น

become กลายเป็น

feel รู้สึก

appear ปรากฏ

get เอา, ได้รับ

look ดูเหมือนว่า

taste มีรสชาติ

 

 

3 สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By

 

ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค Passive Voice ต้องมี by 

เช่น The boy was bitten by the dog.

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประโยค Passive Voice ไม่จำเป็นต้อมี By เสมอไปค่ะ ถ้าหากอยู่ใน 3 สถานการณ์เหล่านี้

 

1) เมื่อต้องไม่ต้องการพูดถึงผู้กระทำ เพราะไม่สำคัญหรือรู้กันอยู่แล้ว เช่น

Champagne is used to commemorate joyous occasions.

แชมเปญถูกใช้เพื่อฉลองโอกาสสุดพิเศษ

 

2) ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ ได้แก่

It is believed that เชื่อกันว่า

It is said that กล่าวกันว่า

It is expected that คาดกันว่า

It is hoped that หวังกันว่า

 

Tips: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น

It is believed that drinking cold water makes a period stop.

เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล

 

3) เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น

My cat was kidnapped on Monday morning.

แมวของฉันถุกขโมยไปเมื่อวันจันทร์ตอนเช้า

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ EF

หนังสือเก่ง Grammar ก่อนสอบ

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน

ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

 

วัดระดับภาษาอังกฤษ คลิก


Passive Voice Song – Rockin’ English


Animated musical English lesson on active and passive voice. Sing along, learn English and rock!
Lyrics:
I sing the song. The song is sung by me.
You play the song. The song is played by you.
He plays the drums. The drums are played by him.
She sings the song. The song is sung by her.
It sings the song. The song is sung by it.
We sing the song. The song is sung by us.
You play the song. The song is played by you.
They play the drums. The drums are played by them.
We sing the song. The song is sung by us.

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Passive Voice Song - Rockin' English

50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลย #ภาษาอังกฤษ


เรามาเรียนรู้ประโยคทั้ง 50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลยค่าา
ติดตามเฟสบุ๊ค+ไอจีและสอบถามคอร์สเรียนที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลย #ภาษาอังกฤษ

#ภาษาอังกฤษ เข้าใจ Passive Voice ได้ภายใน 4 นาที! 🔥🔥


เข้าใจ Passive Voice ภายใน 4 นาที! 🔥🔥
Passive Voice คืออะไร?
มันคือรูปที่ประธานถูกกระทำเช่น
👉🏼 ฉันโดนตี
👉🏼 หมาถูกรถชน
👉🏼 เขาถูกทำร้าย
โครงสร้างของมันคือ subject + v.to be + v.3
เช่น
👉🏼 He was punished. เขาถูกลงโทษ ✅
👉🏼 They were asked to clean the room. พวกเขาถูกขอร้องให้ทำความสะอาดห้อง ✅
บางกรณีอาจจะมี by + คนทำกริยานั้นๆ
แต่ถ้าประโยคไหนไม่มี by + คนทำกริยา แปลว่า ประโยคนั้นไม่เน้น ‘คนทำ’ แต่เขาจะเน้น ‘กรรมที่โดนกระทำ’

ตามไปเรียนภาษาอังกฤษกับครูหวานต่อที่
https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
https://www.instagram.com/english_kruwhan

#ภาษาอังกฤษ เข้าใจ Passive Voice ได้ภายใน 4 นาที! 🔥🔥

ฝึกแต่งประโยค Complex Sentence พร้อมเรียนรู้ประเภทของประโยคภาษาอังกฤษ


เรียนรู้ประเภทของประโยคภาษาอังกฤษ (Simple Sentence, Compound Sentence, Complex Sentence) พร้อมทั้งคำสันธานเชื่อมอนุประโยค (Subordinating Conjunction) หรือ Relative Pronoun และในช่วงท้ายของบทเรียนจะสอนฝึกแต่งประโยคความซ้อน (Complex Sentence) อีกด้วย

ฝึกแต่งประโยค Complex Sentence พร้อมเรียนรู้ประเภทของประโยคภาษาอังกฤษ

Active and Passive Voice


A video explaining the difference between Active and Passive Voice. Practice at http://www.teacherdiane.com/youtube/page/1
Learn English on Skype: http://www.teacherdiane.com
Follow Teacher Diane on Facebook: http://www.facebook.com/teacherdianeESL

Active and Passive Voice

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ passive voice ตัวอย่างประโยค

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *