Skip to content
Home » [NEW] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | there is there are คือ – NATAVIGUIDES

[NEW] คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) | there is there are คือ – NATAVIGUIDES

there is there are คือ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

นามนับได้ – นามนับไม่ได้ – คุณรู้ไหมว่า คำนามใดคือคำนามนับได้และคำนามใดคือคำนามที่นับไม่ได้ ส่วนไวยากรณ์นี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในภาษาอังกฤษที่ไม่ควรมองผ่านนะคะ เนื่องจากคำนามทั้ง 2 กลุ่มนี้มีหลักการใช้คำนำหน้าและคำกิริยาที่แตกต่างกันวันนี้เราจะมาดูกันว่าคำนามเหล่านี้มีวิธีการใช้งานอย่างไร ใช้ในกรณีไหน พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพง่าย

เพื่อความเข้าใจอย่างง่ายดาย บทความเกี่ยกับ คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นี้ของเราจะได้แบ่งเป็น สี่ส่วนเนื้อหาหลักๆ ที่ผู้เรียนสามารถติดตามง่ายๆ ดังนี้

  1. คำนามนับได้ (Countable Nouns) คืออะไร
  2. คำนามนับไม่ได้(Uncountable Nouns) คืออะไร
  3. วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)
  4. แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้ พร้อมข้อเฉลย

ก่อนอื่นเราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้พร้อมตัวอย่างให้เห็นภาพได้ชัดกันนะคะ

Table of Contents

1 – คำนามนับได้ (Countable Noun) คืออะไร

ในบทความนี้เราจะทำความรู้จักกับคำนามนับได้ (Countable Noun) กันนะคะ ไม่ยากเลยค่ะ สำหรับคำนามที่เราสามารถระบุได้ว่ามี กี่ชิ้น กี่อัน กี่ตัว กี่แห่ง ฯลฯ เข้าใจง่ายๆ คือคำนามที่เราสามารถนับและระบุจำนวนได้อย่างชัดเจน คำนามเหล่านั้นจะเรียกว่า Countable Noun แปลเป็นไทยโดยตรงคือคำนามนับได้

  • Singular: (เอกพจน์) คือนามที่มีอันเดียวชิ้นเดียว
  • Plural: (พหูพจน์) คือนามที่มีมากกว่าหนึ่งขึ้นไป

หากอยู่ในรูปเอกพจน์ คำนามนับได้เหล่านี้จะใช้ “a” หรือ “an” นำหน้า หากต้องการทราบจำนวนของคำนามนับได้เหล่านี้ จะถามโดยใช้ “How many?” ตามด้วยคำนามนับได้พหูพจน์ เช่น

เอกพจน์พหูพจน์one dogtwo dogsone horsetwo horsesone ideatwo menone shoptwo ideasone mantwo shopsOne BoyThree boysOne BirdFour BirdsOne BookTwo booksOne pencilFive pencils

ตัวอย่างเช่น

  • She has three dogs. แปลว่า เธอมีสุนัขสามตัว
  • I own a house. แปลว่า ฉันเป็นเจ้าของบ้าน
  • I would like two books please. แปลว่า ฉันต้องการหนังสือสองเล่มโปรด
  • How many friends do you have? แปลว่า คุณมีเพื่อนกี่คน?

คำนามนับได้ (Countable Noun) มีสองประเภคคือ (single) และ  (plural) คำนามนับได้แบบ single พูดถึงจำนวนน้อยคือ 1 ที่มักจะอยู่ด้านหลังของคำว่า  “a/an” หรือ one. ยกตัวอย่างเช่น a pen, one table,…

ส่วนคำนามนับได้แบบ plural พูดถึงจำนวนตั้งแต่ 2 ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น pens, tables,…

ถ้าอยากเปลี่ยนจากคำนามนับได้ single เป็นคำนามนับได้แบบ plural ง่ายมากๆ แค่เพิ่มตัว ‘s’ในตัวอักษรสุดท้าย ยกตัวอย่างเช่น: pen → pens, table → tables,…

แต่ก็มีบ้างคำศัพท์อยู่ในกรณีพิเศษเช่น

  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้าย (ลงท้ายด้วย) เป็น CH, SH, S, X, O ต้องเพิ่ม “es” เข้าตัวอักษรสุดท้าย
    เช่น: a class → classes, a bus → Buses, Brush →Brushes, Math → Matches, Box→ Boxes, Fox → Foxes
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น Y เมื่ออยากเปลี่ยนเป็นคำนาม plural เราจะเปลี่ยนตัวอักษร “y” เป็น “i” และเพิ่ม “es”
    เช่นคำว่า: a candy → candies,  City→ Cities, Duty→Duties, Day → Days, Boy → Boys, Key → Keys
  • คำนามที่มีตัวอักษรสุดท้ายเป็น F, FE, FF เราลบทิ้งไปและเอาตัว “ves” แทนตัวอักษรสุดท้าย.
    ยกตัวอย่างเช่น: A knife → knives
  • เติม “es” ท้ายคำนามที่ลงท้ายด้วย “o” และหน้า “o” เป็นพยัญชนะ
    เช่น: radio → radios, Bamboo → Bamboos, Photo→ Photos, Piano→ Pianos

หมายเหตุ:

มีคำนามบ้างคำที่อยู่ในกรณีพิเศษ หมายถึงว่ามันจะไม่ตามเกณ์ที่พูดดังกล่าว ลองดูตามตารางดังต่อไปนี้กันนะคะ 

คำนาม singleคำนาม pluralความหมายภาษาไทยmanmenผู้ชายwomanwomenผู้หญิงchildchildrenเด็กsheepsheepแกะtoothteethฟันfootfeetเท้าbacteriumbacteriaแบคทีเรียfishfishปลา

2 – คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คืออะไร

สำหรับ Uncountable Noun หรือคำนามนับไม่ได้นี้มีหลากหลายคนพูดถีงเพราะได้เอามาใช้งานจริงในชีวิตประจำวันบ่อยมาก คุณสามารถบันทึกการอธิบายที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายที่สุดดังนี้

คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  เป็นคำนามที่คุณเจอบ่อยเช่นนม น้ำ ไวน์ หรือ ข้าว น้ำตาล หรือของที่มีปริมาณมากๆ เช่น ผม  ฟางหญ้า เป็นต้น  จะให้เราพูดว่า ขอข้าว 2 เม็ดจ้า หรือ ขอนม 3 หยด เป็นคำนามที่เราไม่สามารถระบุจำนวน หรือบอกว่ามีกี่ชิ้นกี่อันได้ ทั้งหมดเรียกชื่อว่า Uncountable Noun  หรือคำนามนับไม่ได้นั้นเอง

หรืออีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) คือคำนามนับไม่ได้ เช่นแนวคิด หรือปริมาณ หรือเป็นวัตถุที่มีขนาดเล็กมากจนไม่สามารถนับได้ หรือไม่มีรูปร่างแน่นอนจึงทำให้ไม่สามารถนับได้ (เช่น ของเหลว ผง ก๊าซ เป็นต้น)  คำนามนับไม่ได้จะใช้คู่กับคำกิริยาที่อยู่ในรูปเอกพจน์ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วคำนามนับไม่ได้เหล่านี้จะไม่มีรูปพหูพจน์

ยกตัวอย่างให้ได้เห็นภาพชัดๆ ดังนี้สำหรับ คำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)  tea, sugar ,water, air,rice ,knowledge, beauty, anger, fear, love, money, research, safety, evidence

ถ้าจะแบ่งตามประเภทของคำนามเราลองมาดูกันว่ามีคำนามใดบ้างที่ไม่สามารถนับได้ในภาษาอังกฤษตามตารางดังนี้

GeneralFoodSubjects/ FieldsAstractHomeworkFoodMathematicsAdviceEquipmentFlourEconomicsHelpLuggageMeatPhysiscFunClothingRiceEthicsRecreationFurnitureCakeCivicsEnjoymentMachineryBreadArtInfomationGoldIce cremArchitectureKnowledgeSliverCheeseMusicNewsCottonToastPhotographyPatienceGlassPastaGrammarHappinessJewelrySpaghettiChemistryProgressPerfumeButterHistoryConfidenceSoapOilCommerceCouragePaperHoneyEngineeringEducationWoodSoupPoliticsIntelligencePetrolFishSociologySpaceGasolineFruitPsychologyEnergyBaggageSaltVocabularyLaughterHairTeaArchaeologyPeaceTrafficCoffeePoetryPride

WeatherSportsLanguagesActivitesThunderGolfEnglishSwimmingLightningTennisPortugueseWalkingSnowBaseballHindiDrivingRainBasketballArabicJoggingSleetCricketJapaneseReadingIceHockeyKoreanWritingHeatRugbySpanishListeningHumidityChessFrenchSpeakingHailPokerRussianCookingWindBridgeItalianSleepingLight/HebrewStudyingDarkness/ChineseWorking

เพราะมีเป้าหมายในการใช้งานที่แตกต่างกันเลยคำนามที่นับไม่ได้ไม่ใช้กับ “a”, “an” แทนเป็น ถามโดยใช้ “How much?” จะช่วยคุณทราบปริมาณของคำนามที่นับไม่ได้

 หากต้องการระบุปริมาณของคำนามนับไม่ได้ จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มด้วยการใช้คำเหล่านี้ เช่น some, a lot of, much, a bit of, a great deal of เป็นต้น หรือใช้คำที่บอกปริมาณอย่างเจาะจง เช่น a cup of, a bag of, 1kg of, 1L of, a handful of, a pinch of, an hour of, a day of.

ตัวอย่างเช่น

  • There has been a lot of research into the causes of this disease. แปลว่า มีงานวิจัยมากมายถึงสาเหตุของโรคนี้
  • He gave me a great deal of advice before my interview. แปลว่า เขาให้คำแนะนำมากมายก่อนการสัมภาษณ์
  • Can you give me some information about uncountable nouns? แปลว่า คุณช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้หน่อยได้ไหม
  • Measure 1 cup of water, 300g of flour, and 1 teaspoon of salt. แปลว่า ตวงน้ำ 1 ถ้วยแป้ง 300 กรัมและเกลือ 1 ช้อนชา
  • How much rice do you want? แปลว่า คุณต้องการข้าวเท่าไหร่

อย่างไรก็ตามยังมีอีกสอง-สามวิธีสำหรับคำนามนับไม่ได้ที่จะรวมกับวลีภาษาอังกฤษอื่น ๆ เพื่อให้กลายเป็นคำนามที่นับได้เช่น

1. บางเรื่องที่ไม่สามารถนับได้ แต่เก็บไว้ในกล่องหรือบรรจุหีบห่อ … จะกลายเป็นคำนามที่นับได้
– ง่ายๆ เช่นคำว่า a cup of tea – แก้วชาหนึ่ง. (น้ำชาเราจะนับไม่ได้แต่ถ้าใส่ในแก้วหนึ่งเราก็จะนับได้แล้วใช่ไหมคะ

2. สำหรับคำนามที่นับไม่ได้เช่น food, money, meat, sand, water,… ถ้าเราตั้งเป็นประโยคเช่น
– This is one of the foods that my younger brother likes very much แปลว่า นี่เป็นหนึ่งในอาหารที่น้องชายของฉันชอบมาก

3. เป็นคำนามที่มีหลายความหมาย ถ้าแปลตามความหมายว่า “เวลา” “time” เป็นคำนามนับไม่ได้ แต่ถ้าแปลว่า “จำนวนครั้ง” “time” จะปิดเป็นคำนามที่นับได้
– ตัวอย่างเช่น

  • Yesterday, I didn’t have enough time to finish my homework  แปลว่า เมื่อวานนี้ฉันมีเวลาพอที่จะทำการบ้านให้เสร็
  • I go jogging three times a week  แปลว่า  ฉันไปจ็อกกิ้งสามครั้งต่อสัปดาห์

3 – วิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับได้

ในไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเราใช้ “a / an” ก่อนคำนามเอกพจน์เพื่อแสดงถึงจำนวนหนึ่งเท่านั้น ส่วน “few/a few” ใช้ก่อนหน้าคำนามพหูพจน์เพื่อแสดงถึงปริมาณเล็กๆ น้อยๆ และ “many” สำหรับพหูพจน์ที่มีมากกว่าสอง ตามตารางดังนี้

aa student, a pencil, a bike,…manymany books, many pens,…fewfew bananas, few answer questions,…a fewa few topics, a few chairs,…

คำใช้เฉพาะกับคำนามที่นับไม่ได้

เช่นเดียวกับคำนามที่นับได้คำนามที่นับไม่ได้ยังมีคำ และวลีเช่น “มาก” (many), “litlle / a little” (นิดหน่อย), a little bit of (a little).

muchmuch money, much oil,…littlelittle milk,…a littlea little money,…a little bit ofa little bit of ink,…

คำใช้ได้กับทั้งคำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun)

นอกจากคำศัพท์ที่ใช้เฉพราะกับคำนามนับได้ หรือคำนามนับไม่ได้ก็ยังมีกลุ่มคำศัพท์ที่ใช้ได้ทั้งสองเช่น  ‘the, some, any, no, a lot of, lots of, plenty of, enough.

ตัวอย่างเช่น

Countable Noun: the cats, some desks, any rooms, a lot of pets…
Uncountable Noun: some sugar, no money, plenty of milk…

หมายเหตุสิ่งที่ทำให้หลายคนสับสน

คำนามนับได้บางคำ (ในภาษาอื่น) กลับกลายเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ หากพบเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้กฏการใช้คำนามนับไม่ได้กับคำนามนับได้เหล่านั้น คำนามในกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อย คือ accommodation, advice, baggage, behavior, bread, furniture, information, luggage, news, progress, traffic, travel, trouble, weather, work

ตัวอย่างเช่น

  • I would like to give you some advice. แปลว่า ฉันขอคำแนะนำของคุณหน่อยค่ะ
  • How much bread should I bring? แปลว่า ฉันควรนำขนมปังเท่าไหร่
  • I didn’t make much progress today. แปลว่า ฉันไม่ได้ก้าวหน้ามากนักในวันนี้
  • This looks like a lot of trouble to me. แปลว่า ดูเหมือนจะเป็นปัญหามากสำหรับฉัน
  • We did an hour of work yesterday. แปลว่า เราทำงานเมื่อวานนี้หนึ่งชั่วโมง

ปรดระวังการใช้ hair ซึ่งเป็นคำนามนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษ โดยทั่วไปแล้วคำนี้จะอยู่ในรูปเอกพจน์ แต่หากกล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง สามารถใช้ในรูปพหูพจน์ได้

ตัวอย่างเช่น

  1. She has long blond hair. แปลว่า เธอมีผมสีบลอนด์ยาว
  2. The child’s hair was curly. แปลว่า ผมของเด็กนั้นหยิก
  3. I washed my hair yesterday. แปลว่า ฉันสระผมเมื่อวานนี้
  4. My father is getting a few grey hairs now. (กล่าวถึงเส้นผมบางเส้นอย่างเจาะจง) 
  5. I found a hair in my soup! (กล่าวถึงเส้นผมเส้นหนึ่ง)

4 – แบบฝึกหัด (Exercise) ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามที่นับได้และนับไม่ได้

เรามาลองทำแบบฝึกหัดไปพร้อมกันเพื่อช่วยจดจำบทเรียนได้ดีขึ้นนะคะ อย่าพึ่งเปิดส่วนข้อเฉลยมาดูค่ะ เราต้องพยายามทำเอง ตามความเข้าใจของตัวเองก่อน แล้วเทียบกับข้อเฉลยดูว่าเราทำถูกผิดขนาดไหน นะคะ แบบฝึกหัดนี้สามารถหาเจอในเน็ตได้ง่ายๆ ค่ะ สำหรับผู้เรียนท่านไหนที่อยากทำแบบฝึกหัดเพิ่มให้ชินก็สามารถหาทำด้วยต้วเองง่ายๆ นะคะ

แบบฝึกหัดที่ 1: ลองดูคำนามเหล่านี้เป็นคำนามประเภทไหน

คำนามนับได้ (Countable Noun) หรือคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) นะคะ

  1. tea →
  2. butter →
  3. song →
  4. living room →
  5. hour →
  6. coffee →
  7. child →
  8. homework →
  9. key →
  10. orange →

แบบฝึกหัดที่ 2: เลือกคำตอบที่ถูกต้อง

  1. If you want to know the news, you can read paper/ a paper.
  2. I had two tooths/teeth pulled out the other day.
  3. Light/a light comes from the sun.
  4. I was very busy, and I didn’t have time/ a time for

    breakfast

    today.

  5. Sue was very helpful. She is always willing to give us some very useful advice/advices everytime we need.
  6. Did you raise these tomato/tomatoes in your garden?
  7. We were very

    unfortunate

    . We had bad luck/a bad luck.

  8. I had to buy a/some bread for breakfast.
  9. Bad news don’t/doesn’t make people happy.
  10. My hair is/ My hairs are too long. I should have it/them cut three days ago.

แบบฝึกหัดที่ 3: เขียนให้ประโยคเหล่านี้ได้สมบูนณ์และถูกต้อง

1. Study the next three (chapter).
2. Can you recommend some good (book)?
3. I had two (tooth) pulled out the other day.
4. You can always hear (echo) in this mountain.
5. They are proud of their (son-in-law).
6. Did you raise these (tomato) in your garden?
7. I think we need two (radio).
8. My (foot) really hurt.
9. The (roof) of these houses are tiled.
10. Get me two (loaf) of bread.

แบบฝึกหัดที่ 4: แก้คำผิดในประโยคเหล่านี้ให้ประโยคได้สมบูรณ์

1. There are many dirts on the floor. แปลว่า มีสิ่งสกปรกมากมายบนพื้น
2. We want more fuels than that. แปลว่า เราต้องการเชื้อเพลิงมากกว่านั้น
3. He drank two milks. แปลว่า เขาดื่มนมสองแก้ว
4. Ten inks are needed for our class. แปลว่า จำเป็นต้องใช้หมึกสิบอันสำหรับชั้นเรียนของเรา
5. He sent me many foods. แปลว่า เขาส่งให้ฉันอาหารเยอะมากมาย
6. Many golds are found there. แปลว่า พบทองคำจำนวนมากที่นั่น
7. He gave me a great deal of troubles. แปลว่า เขาทำให้ฉันมีปัญหามากมาย
8. cows eat glasses. แปลว่า พวกวัวกินยาเยอะแยะ
9. The rain has left many waters. แปลว่า ฝนตกน้ำหลักมาก
10. I didn’t have many luggages. แปลว่า ฉันไม่มีกระเป๋าเดินทางมากมาย

ข้อเฉลย

แบบฝึกหัดที่ 1:

  1. tea →Uncountable Noun เพราะมันเป็นน้ำที่เราจะเอามานับไม่ได้แน่นอน
  2. butter →Uncountable Noun ที่หมายถึงว่า เนย เป็นอาหารที่นับไม่ได้ถ้าไม่ระบุว่าอยู่ในกี่ห่อ หรือกี่กล่อง
  3. song →Countable Noun ที่สามารถนับได้ง่ายๆ ว่ามีทั้งหมดกี่เพลง
  4. living room →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เช่นในบ้านหลังหนึ่งจะมีห้องนั่งเล่น ห้องรับแขกกี่ห้อง ห้องนอนกี่ห้อง ประมาณนั้น
  5. hour →Countable Noun นับได้ง่ายๆ เหมือนกันว่าใช้กี่ชั่วโมงแล้ว
  6. coffee →Uncountable Noun ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำหรือเป็นฝงที่เรานับไม่ได้ถ้าไม่แจ้งว่าบรรจุที่ไหน
  7. child →Countable Noun เป็นคำนามที่นับได้เพราะหมายถึงเด็กน้อย
  8. homework →Uncountable Noun เป็นคำนามที่นับไม่ได้
  9. key →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้
  10. orange →Countable Noun เป็นคำนามที่รับได้เพราะเป็นสิ่งของที่เราเห็นได้ จับได้และมันชัดเจนอยู่แล้ว

แบบฝึกหัดที่ 2:

  1. A paper
  2. Teeth
  3. Light
  4. Time
  5. Advice
  6. Tomatoes
  7. Bad luck
  8. Some
  9. Doesn’t
  10. My hair is

แบบฝึกหัดที่ 3:

  1. Chapters
  2. Books
  3. Teeth
  4. Echoes
  5. Sons-in-law
  6. Tomatoes
  7. Radios
  8. Feet
  9. Roofs
  10. Loaves

แบบฝึกหัดที่ 4:

  1. There is much dirt on the floor.  
  2. We want more fuel than that.
  3. He drank two glasses of milk.
  4. Ten pens are needed for our class.
  5. He sent me much food.
  6. Much gold is found there.
  7. He gave me a lot of trouble.
  8. Cows eat glass.
  9. The rain has left much water.
  10. I didn’t have much luggage.

ว่าอย่างไรบ้างคะ สำหรับบทความนี้ หวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์ดีๆ และรู้จักวิธีการใช้คำนามนับได้ (Countable Noun) และคำนามนับไม่ได้ (Uncountable Noun) มันเป็นส่วนไวยากรณ์ที่ถือว่าไม่ค่อยยากนะคะ แต่ก็ไม่ควรมองผ่านเพราะเป็นคำนามที่มักจะใช้บ่อยมาก ไม่ว่าจะในการสื่อสารประจำวันถึงการเขียนบทความต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษนะคะ ติดตามเราเพื่ออัพเดทสารข้อมูลดีๆ ทุกวันนะคะ แชร์กันประสบการณ์เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับ Eng Breaking!

[Update] หลักการใช้ is am are การเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธ คำถาม มีหลักการดังนี้ | there is there are คือ – NATAVIGUIDES

106

SHARES

Facebook

Twitter

is am are แปลว่า เป็น อยู่ คือ แต่บางทีก็ไม่ต้องแปลนะครับ แบบไหนแปลว่าเป็นหรือคือ แบบไหนแปลว่าอยู่ และแบบไหนที่ไม่ต้องแปล เดี๋ยวมาไล่เรียงกันทีละตัวกันเลย

หลักการใช้ is am are

การใช้ is am are

ความหมายของ is am are

  • is am are + สถานที่ แปลว่า อยู่
    I am at home. ฉัน อยู่ ที่ บ้าน
  • is am are + คำนาม แปลว่า เป็น หรือ คือ
    I am a boy. ฉัน เป็น เด็กผู้ชาย
  • is am are + คำคุณศัพท์ ไม่ต้องแปล
    I am beautiful. ฉัน สวย

 is am are จำง่ายๆว่า หนึ่งคนใช้ is หลายคนใช้ are ส่วน I ใช้ am

โครงสร้าง is am are

I
am
He, She, It, A cat
is
You, We, They, Cats
are

หลักการใช้ is am are

Is Am Are ใช้ใน Tense ต่างๆ ซึ่งการจะแปลความหมายนั้นต้องพึงระวังนิดหนึ่ง เพราะบางทีมันเป็นแค่กริยาช่วย ซึ่งไม่ต้องแปลแต่อย่างใด มาดูหลักการนำไปใช้กันเลย

1. ใช้ใน Present Simple Tense   

  • is am are แปลว่า เป็น อยู่ คือ  
  • ประธาน+ is, am, are 

I am a student. ผมเป็นนักเรียน (student = นาม)
He is in the room. เขาอยู่ในห้อง (room = นาม)
We are tigers. พวกเราคือเสือ (tigers = นาม)

  • แต่บางครั้ง is am are ไม่ต้องแปล  (ประธาน+ is, am, are, + คุณศัพท์

I am tall. ผมสูง (tall = คุณศัพท์)
She is short. หล่อน เตี้ย ( short= คุณศัพท์)
They are smart. พวกเขาเทห์ ( smart=คุณศัพท์)

2. ใช้ใน Present Continuous  (เรียนรู้เต็มๆในเรื่อง Present continuous)

  • is am are อย่าแยกแปล ให้แปลควบกับคำกริยาที่เติม ing  แปลว่า กำลัง…
  • ประธาน+ is, am, are  + กริยาเติม ing

I am eating. ผม กำลังกิน
He is running. เขา กำลังวิ่ง
We are swimming. พวกเรากำลังว่ายน้ำ

3. ใช้ใน Passive Voice ของ Present Simple Tense (บทเรียนขั้นสูง)   

  • is am are อย่าแยกแปล ให้แปลควบกับคำ กริยาช่อง 3 แปลว่า ถูก…
  • ประธาน+ is, am, are + กริยาช่อง 3

Rice is grown by Thai people.
ข้าวถูกปลูกโดยคนไทย

Rice is grown in China, India, Thailand, Vietnam etc.
ข้าวถูกปลูกในประเทศจีน อินเดีย ไทย เวียดนาม และอื่นๆ

การย่อรูป

I am = I’m ( ไอ แอม = ไอม)
I am not = I’m not (ไอ แอม น็อท = ไอม น็อท)

He is = He’s (ฮี อิส = ฮีส)
He is not = He’s not/ He isn’t ( ฮี อิส น็อท = ฮีส น็อท / ฮี อิสเซินท)

She is = she’s (ชี อิส = ชีส)
She is not = She’s not/ She isn’t (ชี อิส น็อท = ชีส น็อท/ ชี อิสเซินท)

It is = It’s (อิท อิส = อิทส)
It is not = It’s not/ It isn’t (อิท อิส น็อท = อิทส น็อท / อิท อิสเซินท)

You are = You’re (ยู อา = ยัว)
You are not = You’re not / You aren’t (ยู อา น็อท = ยัว น็อท / ยู อ้านท)

We are = We’re (วี อา = เวีย)
We are not = We’re not / We aren’t (วี อา = เวีย น็อท / วี อ้านท)

They are = They’re (เด อา = แด)
They are not = They’re not / They aren’t  (เด อา น็อท = แด น็อท / เด อ้านท)

ประโยคบอกเล่า

  • ประโยคบอกเล่าจะเป็นโครงสร้างธรรมดา คือ ประธาน + is, am, are + ส่วนขยาย (นาม, คุณศัพท์)

โครงสร้าง

I
am
a doctor.
He, She, It, A cat
is
tall.
You, We, They, Cats
are
from Thailand.

I am a doctor. ผมเป็นหมอ

He is smart. เขาเท่ห์
She is a girl. หล่อนเป็นผู้หญิง
It is a dog. มันเป็นหมา
A cat is black. แมวสีดำ

You are my friend. คุณเป็นเพื่อนของฉัน
We are from Thailand. พวกเรามาจากประเทศไทย
They are students. พวกเขาเป็นนักเรียน
Cats are white. แมวสีขาว

ประโยคบอกปฏิเสธ

  •  โครงสร้างปฏิเสธคล้ายประโยคบอกเล่า เพียงแค่เอาคำว่า not มาวางหลัง is, am, are
I
am
not
a doctor.
He, She, It, A cat
is
not
tall.
You, We, They, Cats
are
not
from Thailand.

I am not a doctor. ผมไม่เป็นหมอ

He is not smart. เขาไม่เท่ห์
She is not a girl. หล่อนไม่เป็นผู้หญิง
It is not a dog. มันไม่เป็นหมา
A cat is not black. แมวไม่สีดำ

You are not my friend. คุณไม่เป็นเพื่อนของฉัน
We are not from Thailand. พวกเราไม่มาจากประเทศไทย
They are not students. พวกเขาไม่เป็นนักเรียน
Cats are not white.  แมวไม่สีขาว

ประโยคคำถาม  Yes / No Question

การทำประโยคคำถามง่ายๆเอง เพียงแค่เอาคำว่า Is, Am, Are มาวางไว้หน้าประโยคแค่นั้นเองและอย่าลืมเติมเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคด้วยนะครับ

ประโยคคำถามแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถามในรูปแบบบอกเล่า และถามรูปแบบปฏิเสธ

1. การถามในรูปแบบบอกเล่า

Am
I
a doctor?
Is
he, she, it, a cat
tall?
Are
you, we, they, cats
from Thailand?
  • Am I a doctor? ผมเป็นหมอใช่ไหม
    Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ คุณเป็นหมอ / ไม่ คุณไม่เป็นหมอ
  • Is he smart? เขาเท่ห์ใช่ไหม
    Yes, he is. / No, he isn’t.  ใช่ เขาเท่ห์ / ไม่ เขาไม่เท่ห์
  • Is she a girl? หล่อนเป็นผู้หญิงใช่ไหม
    Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่ หล่อนเป็นผู้หญิง / ไม่หล่อนไ่ม่เป็นผู้หญิง
  • Is it a dog? มันเป็นหมาใช่ไหม
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ มันเป็นหมา / ไม่ มันไม่เป็นหมา
  • Is a cat black? แมวสีดำใช่ไหม
    Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ แมวสีดำ / ไม่ แมวไม่สีดำ  หรือ
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ มันสีดำ / ไม่ มันไม่สีดำ
  • Are you my friend? คุณเป็นเพื่อนของฉันใช่ไหม
    Yes, I am. / No, I’m not. ใช่ผมเป็นเพื่อนคุณ / ไม่ ผมไม่เป็นเพื่อนคุณ
  • Are we from Thailand? พวกเรามาจากประเทศไทยใช่ไหม
    Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่ เรามาจากประเทศไทย / ไม่ เราไม่มาจากประเทศไทย
  • Are they students? พวกเขาเป็นนักเรียนใช่ไหม
    Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่ พวกเขาเป็นนักเรียน / ไม่ พวกเขาไม่เป็นนักเรียน

2. การถามในรูปแบบปฏิเสธ

การถามในรูปปฏิเสธแบ่งออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบย่อ

  • รูปแบบเต็ม
Am
I
not
a doctor?
Is
he, she, it, a cat
not
tall?
Are
you, we, they, cats
not
from Thailand?
  • รูปแบบย่อ
Am
I
not
a doctor?
Isn’t
he, she, it, a cat
tall?
Aren’t
you, we, they, cats
from Thailand?
  • Am I not a doctor? ผมไม่เป็นหมอใช่ไหม
    Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่ คุณเป็นหมอ / ไม่ คุณไม่เป็นหมอ
  • Isn’t he smart? เขาไม่เท่ห์ใช่ไหม
    Yes, he is. / No, he isn’t.  ใช่ เขาเท่ห์ / ไม่ เขาไม่เท่ห์
  • Is she not a girl? หล่อนไม่เป็นผู้หญิงใช่ไหม
    Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่ หล่อนเป็นผู้หญิง / ไม่หล่อนไ่ม่เป็นผู้หญิง
  • Is it not a dog? มันไม่เป็นหมาใช่ไหม
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ มันเป็นหมา / ไม่ มันไม่เป็นหมา
  • Isn’t a cat black? แมวไม่สีดำใช่ไหม
    Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่ แมวสีดำ / ไม่ แมวไม่สีดำ  หรือ
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่ มันสีดำ / ไม่ มันไม่สีดำ

*** ไม่ว่าคำถามจะเป็นอย่างไร ถ้าใช่ก็บอกว่าใช่ ถ้าไม่ใช่ก็บอกว่าไม่ เช่น แมวตัวนี้สีขาว แล้วมีคนถามว่า

Is a cat black? แมวสีดำใช่ไหม
No, it isn’t. ไม่ มันไม่ใช่สีดำ

Isn’t a cat black? แมวไม่ใช่สีดำใช่ไหม
No, it isn’t. ไม่ มันไม่ใช่สีดำ
ห้ามตอบ yes นะครับ ถ้าตอบ yes จะหมายความว่ามันมีสีดำ

ประโยคคำถาม Wh- Question

ให้เอาคำเหล่านี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นำหน้าประโยค ตามด้วย  is, am, are

Who is that? นั่นคือใคร
That is a doctor. นั่นคือหมอ

What is it? มันคืออะไร
It is a dog. มันคือหมา

Where is my pen? ปากกาของฉันอยู่ไหน
It’s on the table. มันอยู่บนโต๊ะ

When is your birthday? วันเกิดของคุณเมื่อไหร่
It’s in July. มันอยู่ในเดือนกรกฎาคม

Why is the world round? ทำไมโลกกลม
I don’t know. ฉันไม่รู้

How are you? คุณเป็นอย่างไร
I’m O.K. ฉันสบายดี

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 501

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษ | ง่ายๆ | There is | There are | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษ | ง่ายๆ | There is | There are | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

CẤU TRÚC 18/111 – THE MORE – THE LESS – Cấu trúc văn nói – Thắng Phạm


CẤU TRÚC 18/111 THE MORE THE LESS Cấu trúc văn nói Thắng Phạm
LANG KINGDOM HỌC TIẾNG ANH ONLINE
SẴN SÀNG GIAO TIẾP TIẾNG ANH TRONG MỌI NGỮ CẢNH
Tải app Lang Kingdom tại:
iPhone \u0026 iPad: http://tiny.cc/nc10rz
Android: https://bit.ly/2JzHs8p

CẤU TRÚC 18/111 - THE MORE - THE LESS - Cấu trúc văn nói - Thắng Phạm

There is/ There are คืออะไร ใช้ต่างกันอย่างไร (by T.Jan)


There is/ There are คืออะไร ใช้ต่างกันอย่างไร (by T.Jan)

There is There are แบบง่ายๆ ป.2


There is There are แบบง่ายๆ ป.2

หลักการใช้ There is และ There are ในภาษาอังกฤษแปลว่า มี เข้าใจง่ายๆ


หลักการใช้ There is และ There are  ในภาษาอังกฤษแปลว่า มี เข้าใจง่ายๆ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ there is there are คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *